posttoday

พระราชธิดาบุญธรรมในสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (จบ)

04 สิงหาคม 2556

พระราชธิดาบุญธรรมพระองค์แรกของ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

พระราชธิดาบุญธรรมพระองค์แรกของ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดา หม่อมราชวงศ์เนื่อง สนิทวงศ์ ธิดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ประสูติ ณ บรมมหาราชวัง เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ปีวอก ตรงกับวันที่ 28 ส.ค.2429

หลังจากเจ้าจอมมารดา หม่อมราชวงศ์เนื่อง สนิทวงศ์ ถึงแก่อนิจกรรมลงในวันที่ 23 พ.ย. 2428 สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ก็ทรงรับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท พร้อมสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระอนุชา มาอุปการะเลี้ยงดู ทั้งสองพระองค์ทรงได้รับความรัก ความเมตตา ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจาก สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ทรงเจริญพระชนมายุมาด้วยการอบรมบ่มเพาะให้ทรงเป็นราชนารีที่มีความรู้ ความสามารถในหลายด้าน ทรงบำเพ็ญพระองค์สนองพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มาตลอดพระชนม์ชีพ ทรงสนพระทัยในการประกอบเครื่องเสวยคาวหวาน ถวายทั้งในยามที่สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทั้งยามปรกติและในยามที่ทรงพระประชวร โดยทรงเลือกเครื่องปรุงที่มีคุณค่าทางอาหารและเป็นโอสถไปในตัว ด้วยทรงได้รับความรู้จากพระอัยกา พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งประมุขกรมหมอหลวง และทรงเป็นแพทย์ประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วย

ความรู้ความสามารถในการประกอบเครื่องเสวยของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ชาววังในขณะนั้นว่า มีความเป็นเยี่ยมที่หลากหลายในอาหารชนิดต่างๆ โดยเฉพาะอาหารป่านานาชนิด ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวกรุง เมื่อไปพักอยู่ที่บ้านตากอากาศที่หัวหินในเวลาต่อมา เมื่อครั้งยังสามารถหาอาหารป่าตามพื้นบ้านมาปรุงเป็นอาหารกินกันได้ เช่น กระต่ายกินพริก หลามโจน (ทำด้วยเนื้อค่าง) นกกระจาบชุบไข่ ยำทวายนกเขาไฟ และแย้หัวเราะ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ทรงรับใช้ใกล้ชิดสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จนทรงมีพระชนมายุได้ 50 ชันษา ก็สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2477 ภายหลังเมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว บรรดาพระประยูรญาติ ข้าหลวง และคณะครูโรงเรียนสายปัญญา ได้พร้อมใจกันเขียนตำรับอาหารคาวหวานของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ขึ้น ให้ชื่อว่า ตำรับสายเยาวภา ในนามสายปัญญาสมาคม เพื่อจัดพิมพ์เพื่อเป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้ประทานลิขสิทธิ์ตำรับอาหาร “ตำรับสายเยาวภา” ให้แก่อาจารย์ใหญ่คนแรกของโรงเรียนสายปัญญา หม่อมราชวงศ์เตื้อง สนิทวงศ์ ตำรับอาหารสายเยาวภาที่พิมพ์แพร่หลายออกมาในภายหลังยังมีความพิเศษในการบอกวิธีเลือกสัตว์ปีกประเภทนกเป็ดน้ำ นกคับแค นกปากซ่อม นกยูง ไก่ฟ้าพญาลอ ตลอดจนวิธีเลือกสัตว์ป่าจำพวก 4 เท้า เช่น เนื้อกวาง เนื้อเก้ง หมูป่า กระต่าย กระทิง วัวแดง หมี และละมั่ง ไว้ด้วย ตำราอาหารตำรับสายเยาวภาจึงเป็นตำราอาหารที่มีคุณค่าอย่างยิ่งที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ทรงไว้ให้แก่อนุชนคนรุ่นหลัง

พระราชธิดาบุญธรรมพระองค์ที่ 2 ของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย ประสูติในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2428 ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาพร้อม ธิดาพระยาพิษณุโลกาธิบดี (บัว) ทรงเป็นพระเชษฐภคินีแฝดของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาส

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาส ทรงเป็นพระราชธิดาแฝดคู่เดียวในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระบรมชนกนาถเป็นอย่างยิ่ง พระราชธิดาคู่แฝดทั้งสองพระองค์นี้ ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้พี่เลี้ยงเชิญตามเสด็จด้วยอยู่เสมอ จนกระทั่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาส พระกนิษฐาแฝดทรงประชวรและสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2429 ขณะที่มีชันษาเพียง 1 ปี กับ 3 เดือน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโศกเศร้าและอาลัยอาวรณ์ในพระราชธิดาแฝดนี้อย่างใหญ่หลวง เมื่อเจ้าจอมมารดาพร้อมถึงแก่อนิจกรรม สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จึงทรงทูลขอพระราชทานพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาปีบุษบากร มาอภิบาลเป็นพระราชธิดาบุญธรรม

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย ได้รับการอภิบาลเป็นอย่างดีจากสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงได้รับการศึกษาอบรมเยี่ยงราชนารีผู้มีคุณสมบัติเพรียบพร้อม ทรงใกล้ชิดและมีโอกาสได้สนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า อย่างเต็มที่ จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2491 ขณะมีพระชันษาได้ 63 ปี มีการจัดพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2493 โดยใช้พระเมรุองค์เดียวกับพระเมรุมาศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

พระราชธิดาบุญธรรมพระองค์ที่ 3 ของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาปีบุษบากร ประสูติเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2434 ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาพร้อม เป็นพระกนิษฐาของพระองค์หญิงแฝด พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาส สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงอภิบาลมาแต่ยังทรงพระเยาว์

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาปีบุษบากร ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์สุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีพระชนมายุยืนยาวที่สุดในบรรดาพระราชโอรสและพระราชธิดาทุกพระองค์ในรัชกาลที่ 5 ด้วยพระองค์ทรงมีพระชนมายุยืนยาวถึง 91 ปี ทรงผ่านร้อนผ่านหนาว และได้ทรงพบกับการเปลี่ยนแปลงผันผวนในพระชนม์ชีพอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียสมเด็จพระบรมชนก การเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 การเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 2 การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล การที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระประยูรญาติที่ทรงได้รับการอภิบาล พร้อมกับต้องได้รับโทษจำคุกด้วยข้อหาอันไร้ความเป็นธรรมจากนักการเมืองผู้คลั่งอำนาจ แต่ไม่ว่าจะต้องประสบกับวิกฤตการณ์ใด พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาปีบุษบากร ก็ทรงบำเพ็ญพระองค์เป็นพระราชธิดาบุญธรรม คอยปฏิบัติดูแลสนองพระเดชพระคุณในสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โดยมิได้ทรงหวั่นไหวกับสิ่งใด

ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่กับพระราชมารดาเลี้ยงในทุกสถานการณ์ และทรงเป็นพระราชธิดาบุญธรรมพระองค์เดียวเท่านั้นที่ยังทรงมีพระชนม์อยู่จนได้เป็นองค์ที่จัดการพระบรมศพของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า อย่างเรียบร้อยบริบูรณ์ พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์กุลเชษฐ์แห่งพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน ในรัชกาลปัจจุบันตราบจนสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2525 ขณะมีพระชนมายุได้ 91 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิง ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2526

ข่าวล่าสุด

ประกาศ! ปิดกั้นอ่าวไทย 'สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย' เข้ากัมพูชา