posttoday

อำนาจ ชื่อเสียง ปฏิปทาดี มีจุดขาย ดึงศรัทธาชาวพุทธ

21 กรกฎาคม 2556

กิจนิมนต์ คือ กิจอย่างหนึ่งของพระที่ต้องไปทำตามที่ผู้นิมนต์ระบุไว้ในฎีกาอาราธนาตามวัน เวลา สถานที่ที่กำหนดไว้ โดยมี 2 งานหลักใหญ่ๆ คือ งานหลวง และงานราษฎร์

โดย...วรธารที

กิจนิมนต์ คือ กิจอย่างหนึ่งของพระที่ต้องไปทำตามที่ผู้นิมนต์ระบุไว้ในฎีกาอาราธนาตามวัน เวลา สถานที่ที่กำหนดไว้ โดยมี 2 งานหลักใหญ่ๆ คือ งานหลวง และงานราษฎร์

ในกิจนิมนต์แต่ละครั้งที่พระไปงานมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนรู้ดี คือ ในการถวายของแก่พระสิ่งหนึ่งที่คนมักจะไม่ลืมถวายก็คือเงิน หรือเรียกอย่างสุภาพว่าปัจจัย ตามเหมาะสมหรือที่เจ้าภาพสามารถถวายได้ เพราะพระไม่ได้เรียกร้องออกปากขออยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องของศรัทธา ว่ากันไม่ได้ ชาวบ้านก็อย่าไปอิจฉาพระ เพราะบางรูปได้มาแล้วก็เอาไปใช้ในกิจของวัด จ่ายค่าน้ำค่าไฟ หรือเอาไปสร้างประโยชน์ให้กับสังคม

ในการรับกิจนิมนต์ของพระ พระราชธรรมนิเทศ หรือพระอาจารย์พยอม วัดสวนแก้ว กล่าวว่า ใช่ว่าพระจะรับได้ทุกงาน ซึ่งนอกจากเวลาแล้วก็ต้องดูความเหมาะสมอื่นๆ เช่น ลักษณะงาน สถานที่ และบุคคลด้วย

“ไม่ใช่มีใครมานิมนต์รับหมด ต้องดูสถานที่และบุคคลด้วย เพราะที่นั่นอาจเป็นแหล่งอบายมุข มีคนเล่นการพนัน มีการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ทำธุรกิจเถื่อน เป็นต้น นอกจากนี้จะต้องไม่ทำให้งานที่รับนิมนต์ไว้ก่อนเสียหายโดยการไปรับงานอื่นๆ ด้วยหวังแต่ลาภสักการะ ถ้าไปไม่ได้ก็ต้องปฏิเสธไป ไม่ต้องทำตัวเป็น ‘นักล่ากิจนิมนต์’ เพราะมิใช่วิสัยพระ”

สำหรับท่านแล้วมีความชัดเจนในการรับงาน “เรื่องกิจนิมนต์หลวงพ่อชัดเจน ไม่ว่างานอะไรก็ตาม ถ้ามีงานรื่นเริงสนุกสนานจะไม่รับ ถ้างานวัดก็ต้องตกลงกันก่อน หากจะให้ไปเทศน์ต้องหยุดทุกอย่างตอนที่อาตมาเทศน์ ห้ามมีเสียงดนตรีเล็ดลอดออกมา ถ้ามีขอกลับวัดเลย นอกจากนี้งานพิธีปลุกเสกหรือพุทธาภิเษกก็ไม่รับ เพราะอาตมาไม่ใช่พระแนวไสยศาสตร์ แต่เป็นแนวพุทธศาสตร์” เจ้าคุณพยอมยืนยัน

กิจนิมนต์ของพระเถระผู้ใหญ่และเกจิอาจารย์

รายการกิจนิมนต์จำนวนมากน้อยขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ สมณศักดิ์ ชื่อเสียง ปฏิปทา ความรู้ความสามารถ และจุดขายของพระรูปนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญ แต่เหนืออื่นใดคือศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อพระซึ่งถือว่ามีผลต่อกิจนิมนต์ค่อนข้างมาก

โดยเฉพาะตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ทางปกครองสงฆ์ ซึ่งมีระดับต่างๆ ลดหลั่นกันลงไป สูงสุดที่มหาเถรสมาคม ก็คือกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งมีสมเด็จพระราชาคณะทุกรูปเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง นอกจากนั้นก็มีกรรมการที่มาจากการแต่งตั้งซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ระดับรองสมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะชั้นอื่นๆ ที่พิจารณาจากความสามารถ ซึ่งล้วนเป็นตำแหน่งที่อาจกล่าวได้ว่าให้คุณให้โทษ เพราะเป็นผู้พิจารณาในการแต่งตั้ง เลื่อน สมณศักดิ์ ตลอดจนพิจารณาตำแหน่งทางปกครองกับพระสงฆ์ไทย ไล่ลงมาที่เจ้าคณะหน ทั้งหนเหนือ กลาง ใต้ หนตะวันออก เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด ลงมาจนถึงเจ้าอาวาสซึ่งเป็นต่ำสุด ถือว่ามีผลต่อกิจนิมนต์

เจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้รับกิจนิมนต์ของพระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง กล่าวว่า กิจนิมนต์ในส่วนของพระผู้ใหญ่ เช่น ระดับสมเด็จฯ รองสมเด็จฯ พระราชาคณะชั้นธรรม ชั้นเทพลงมา รวมถึงพระเกจิที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของประชาชน ถ้ายังสุขภาพดี แข็งแรง สามารถไปงานนิมนต์ได้ บางเดือนก็เยอะมากกว่า 90% บางเดือนก็เบาบางแต่ก็ไม่ต่ำกว่า 50% ทั้งนี้ รวมงานคณะสงฆ์ งานพระด้วยกัน และงานที่ชาวบ้านนิมนต์ แต่รูปที่สุขภาพไม่ดีก็จะรับกิจนิมนต์น้อยและอาจไม่รับ

ทั้งนี้ สำหรับผู้นิมนต์ถ้าเป็นพระนิมนต์ ก็จะเป็นพระสงฆ์ในเขตปกครองของพระเถระผู้ใหญ่รูปนั้นๆ ส่วนญาติโยมก็จะเป็นคนที่รู้จักคุ้นเคยและเคารพนับถือพระ งานที่รับ เช่น งานทำบุญวันเกิด งานเปิดบริษัทห้างร้าน เป็นต้น

เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวต่อว่า การที่พระในปกครองนิมนต์พระที่เป็นผู้บังคับบัญชาถือเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เพราะถ้ารูปไหนที่หวังความเจริญก้าวหน้าในสมณศักดิ์และตำแหน่งก็คงต้องนิมนต์พระผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บังคับบัญชาของตนโดยตรง แต่ถ้าจะนิมนต์พระผู้ใหญ่รูปอื่นมางานรูปนั้นก็ต้องรู้จัก มีความเคารพหรือเกื้อกูลกันมา

“อย่างไรก็ตาม การนิมนต์พระเถระผู้ใหญ่มางานอะไรนั้น รูปที่นิมนต์ก็ต้องดูความเหมาะสมของงานด้วย ไม่ใช่งานเล็กน้อยก็นิมนต์พระผู้ใหญ่มาหมด เรียกว่าก็ต้องสมศักดิ์ศรีหน่อย รวมถึงต้องดูปัจจัยถวายที่ค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่รู้กันในหมู่พระ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจำนวนเท่าไหร่”

พระนักเผยแผ่มีจุดขาย ใครก็อยากนิมนต์

ส่วนใหญ่เป็นพระนักเทศน์ นักเผยแผ่ และนักบรรยายธรรม ซึ่งมีไม่กี่รูปที่มีงานนิมนต์ค่อนข้างชัดเจน

รูปแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระอาจารย์พยอม ที่อย่างน้อยวันหนึ่งจะต้องมีกิจนิมนต์ 1 งาน ยกเว้นวันอาทิตย์ที่ไม่รับงาน เพราะต้องดูงานที่วัด

เจ้าคุณพยอม บอกว่า ตอนนี้กระแสนิยมในตัวท่านเริ่มกลับมา กิจนิมนต์เยอะขึ้น ปกติอย่างน้อย 1 วันต้องมี 1 งาน เวลานี้บางวัน 34 งาน บางวันทะลุ 6 งาน

“อาจหมดตัวเล่นก็ได้ ตั้งแต่มิตซูโอะสึก หรือกรณีเณรคำ ซึ่งพวกนี้เขากิจนิมนต์เพียบเลยนะ ก็บังเอิญเป็นจังหวะที่ต้องมาถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับความเห็นของสองคน บังเอิญสัมภาษณ์แล้วโดนใจอะไรไม่ทราบ กิจนิมนต์กลับมาพรึ่บ ทั้งบริษัท หน่วยงานราชการ หมู่บ้าน ชุมชน ชมรมผู้สูงอายุ ตำรวจ ทหาร โรงเรียน สื่อต่างๆ”

ขณะที่ พระมหากิตติศักดิ์ โคตมสิสฺโส พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดพระเชตุพนฯ บอกว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คิวบรรยายธรรมทุกเดือนแน่น เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 20 วัน โดยบางวันมากกว่า 34 งาน

“ณ ตอนนี้ เดือน ส.ค. ก.ย.ก็มีนิมนต์เข้ามาเยอะ แต่ ต.ค.ยังไม่มาก โดยการรับงานอยู่ที่เวลาเป็นหลัก ต่อไปก็ดูว่าไปพูดให้ใครฟัง เพราะสิ่งสำคัญคือคนฟังต้องได้ประโยชน์มากที่สุด บางแห่งตั้งหัวข้อมาให้พูดเรื่องธรรมฮาเฮ ก็เลยบอกไปว่าไม่ไป เพราะแค่เริ่มต้นก็ผิดแล้ว เล่นไม่เอาสาระอะไรเลย ถ้าจะให้ไปต้องเปลี่ยนหัวข้อใหม่ ก็ให้เขาไปตั้งเรื่องมาใหม่ เช่นว่า อยากจะแก้ไขอะไรในองค์กร ก็ว่ากันไป”

ด้าน ทีมธรรมะเดลิเวอรี่ ซึ่งนำโดย พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระอาจารย์สมพงษ์ รตนวํโส พระมหาวรวัฒน์ อภิวฑฺฒโน จากการเปิดเผยของ “หนึ่ง” ฆราวาสผู้ทำหน้าที่รับกิจนิมนต์ว่า ในโลกของการสื่อสารที่ทันสมัยทีมธรรมะเดลิเวอรี่มีเว็บไซต์ (www.dhammadelivery.com) ของตนเอง ซึ่งในเว็บไซต์จะระบุหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการรับนิมนต์

“ผมเองจะรับผิดชอบในการรับกิจนิมนต์ของทีมธรรมะเดลิเวอรี่ โดยเฉพาะในส่วนของพระอาจารย์สมปองผมดูแลทุกอย่างโดยตรง โดยเดือนหนึ่งจะตกที่ 50-60 งานต่อเดือน ส่วนพระอาจารย์สมพงษ์อยู่ที่ 40-50 งาน พระอาจารย์วรวัฒน์ที่เป็นน้องใหม่ในทีม อยู่ที่ 30 งาน เฉลี่ยต่อเดือนในส่วนของพระอาจารย์สมปองอยู่ที่ 25 วัน ไม่ต่ำกว่าวันละ 2 งาน บางวันก็ 3-4 งาน ขณะที่พระอาจารย์สมพงษ์เฉลี่ยต่อเดือน 20 วัน คูณ 2 อยู่ที่ 40 งาน บางวันก็ 3 งานต่อวัน ส่วนพระอาจารย์วรวัฒน์เฉลี่ย 15 วันต่อเดือน คูณ 2 ก็ 30 งานต่อเดือนโดยเฉลี่ย 3 รูปต่อเดือนอยู่ที่ 150-160 งาน”

ด้าน พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ซึ่งถือเป็นพระที่มีชื่อเสียงและมีจุดขายในเรื่องของความสามารถในการพูดการเขียน ความจริงเป็นพระที่มีกิจนิมนต์ค่อนข้างมากในเรื่องของการบรรยายธรรม แต่ตอนนี้อาจไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะหันไปให้ความสำคัญกับงานวิปัสสนากรรมฐาน ที่ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย รวมถึงกิจนิมนต์ไปเทศน์และสอนวิปัสสนาในต่างประเทศ ทั้งที่ยุโรปและอเมริกาเป็นหลัก

พระสงฆ์ที่เอ่ยนามมานี้เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จัดว่ามีกิจนิมนต์ที่ค่อนข้างเยอะและเหนียวแน่น

แต่ก็พอสรุปได้ว่าการเป็นพระที่รวยกิจนิมนต์นั้น นอกจากอำนาจหน้าที่ ตำแหน่งทางคณะสงฆ์แล้ว จะต้องเป็นพระที่มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดธรรมะให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้นอีกด้วย

ข่าวล่าสุด

Adobe Firefly รวมพลังโมเดลสร้างวีดีโอ สู่การใช้งาน Runway