มหากุศล 1 เดียวในโลก โครงการหุ้มทองยอดฉัตร มหาโพธิเจดีย์ พุทธคยา
มหากุศลครั้งสำคัญของชาวพุทธบังเกิดขึ้นแล้ว ในโครงการหุ้มทองยอดฉัตร มหาโพธิเจดีย์ พุทธคยา
มหากุศลครั้งสำคัญของชาวพุทธบังเกิดขึ้นแล้ว ในโครงการหุ้มทองยอดฉัตร มหาโพธิเจดีย์ พุทธคยา
พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของชาวพุทธทั่วโลก โดยไม่เพียงแต่เป็น 1 ใน 4 สังเวชนียสถานสำคัญของพระพุทธศาสนาเท่านั้น ทว่า พุทธคยา ยังมีความพิเศษด้วยสาเหตุการเป็นสถานที่แห่งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของพุทธศาสนาในภัทรกัลป์นี้
ตามคติในภัทรกัลป์ จะมีพระพุทธเจ้าเสด็จมาตรัสรู้ 5 พระองค์ อันได้แก่ พระกกุสันโธ พระโกนาคม พระมหากัสสป พระสมณโคดม และพระศรีอารยเมตไตรย โดยทุกพระองค์จะตรัสรู้ ณ สถานที่แห่งเดียวกัน คือ ณ พุทธคยา แห่งนี้
ในอดีตนับอนันต์มีพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว 4 พระองค์ โดย 3 พระองค์แรกทรงประกาศศาสนาจนสิ้นสุดแห่งยุคพุทธกาลไปแล้ว ได้แก่ พระกกุสันโธ พระโกนาคม พระมหากัสสป จึงอาจจัดได้ว่าเป็นยุคอดีตแห่งภัทรกัลป์ ส่วนในสมัยแห่งพระสมณโคดม พระศาสนายังคงอยู่ถือเป็นยุคปัจจุบันแห่งภัทรกัลป์ จวบจนสิ้นพุทธศักราช 5,000 ปี ศาสนาพุทธจะสูญหายเข้าสู่ยุคพุทธันดรที่ศาสนา พระสัทธรรม ร้างราไปจากโลก แล้วค่อยบังเกิดพระพุทธเจ้าในกาลอนาคตแห่งภัทรกัลป์ ในยุคพระศรีอารยเมตไตรย ที่จะเสด็จมาตรัสรู้ ณ พุทธคยา สถานที่แห่งเดียวกันนี้อย่างน่าอัศจรรย์
ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะประธานอำนวยการโครงการหุ้มทองคำยอดฉัตร พระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า ในพระไตรปิฎกพุทธสถานแห่งนี้คือ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์์ในอดีตได้มาตรัสรู้แล้ว และในคัมภีร์อนาคตวงศ์ ยังทำนายว่า พระพุทธเจ้าในอนาคต คือพระศรีอารยเมตไตรย ก็จะมาตรัสรู้ ณ พุทธคยา ซึ่งถือเป็นจอมดิน หรือสะดือโลก เป็นที่รวมพลังทั้งหมดของจักรวาล เป็นสถานที่เดียวที่พระพุทธเจ้าในอดีตและในอนาคตเสด็จมาตรัสรู้ แล้วพื้นปฐพี ณ ทีนี้เท่านั้นที่สามารถรองรับพุทธบารมีขณะตรัสรู้ได้
พุทธคยา ยังเป็นสังเวชนียสถานที่หล่อหลอมจิตใจชาวพุทธ ได้รับการก่อสร้าง บูรณะ ทำนุบำรุง ฟื้นฟูจากชาวพุทธทุกชาติชั้น วรรณะ ตั้งแต่กษัตริย์จนถึงสามัญชน โดยอาจเริ่มนับได้ตั้งแต่มหาโพธิวิหาร ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชและสร้างต่อเติมเรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม หากกล่าวเฉพาะในส่วนองค์พระมหาโพธิเจดีย์นั้น พระเจ้าหุวิชกะ (Huvishka) เป็นผู้ที่มีพระราชศรัทธาสร้างมหาเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชาครั้งแรก ในปี พ.ศ. 694 เพื่อเป็นสถานที่สักการะสำหรับพุทธบริษัท เป็นพระเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมทรงรีติดกับพระแท่นวัชรอาสน์ทางทิศตะวันออก มี 2 ชั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะ จากนั้นในบางช่วงพระราชาแห่งแคว้นต่างๆ ได้เข้ามาทำนุบำรุงอยู่เสมอ แต่มาขาดตอนไปเมื่อช่วง 1,000 กว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากอินเดียแถบนี้ถูกคุกคามจากสงครามและการเสื่อมถอยของพระพุทธศาสนา
พุทธคยาจึงถูกปล่อยทิ้งร้างและถูกชาวฮินดตระกูลพราหมณ์มหันต์ เข้าครอบครอง รวมทั้งเปลี่ยนแปลงมหาโพธิเจดีย์เป็นเทวสถาน นับเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2133 เป็นต้นมา โดยพราหมณ์มหันต์ได้ตั้งสำนักเล็กๆ ใกล้กับพระมหาโพธิเจดีย์ เมื่ออยู่ไปนานๆ จึงกลายเป็นเจ้าของที่ไปโดยปริยาย
ในปี พ.ศ. 2417 พระเจ้ามินดง กษัตริย์แห่งพม่า ส่งคณะทูตมายังอินเดียเพื่อขอบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารและดูแลรักษาพุทธสถานแห่งนี้ หลังจากได้รับความยินยอมจากพวกมหันต์และรัฐบาลอินเดียจึงได้เริ่มทำการบูรณะ โดยรัฐบาลอินเดียส่งนายพล เซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม กับ ดร.ราเชนทรลาละ มิตระ เข้าเป็นผู้ดูแลกำกับการบูรณะ แต่คณะผู้แทนจากพม่าเดินทางกลับก่อนที่จะบูรณะจนแล้วเสร็จ รัฐบาลอินเดียจึรับงานบูรณะทั้งหมดมาทำแทน และเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2427
ในช่วงเวลาของการครอบครองโดยพราหมณ์มหันต์นับร้อยปีนี้เอง ได้มีท่านอนาคาริก ธรรมปาละ (Anagarika Dhammapala) ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์ ทำการเรียกร้องให้ชาวพุทธดูแลพุทธสถานในประเทศอินเดีย
ท่านอนาคาริก ธรรมปาละ จุดประกายริเริ่มให้ชาวพุทธและชาวอินเดียหันมาเอาใจใส่และฟื้นฟูพุทธสถานที่สำคัญ โดยเฉพาะพุทธคยา ท่านได้ต่อสู้เรียกร้องจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ความพยายามทั้งหมดของท่านก่อให้เกิดกระแสผลักดันทางสังคม ชาวอินเดียหลายฝ่าย ทั้งนักการเมือง นักปราชญ์ ต่างแสดงความเห็นว่าพุทธคยาควรเป็นสิทธิของชาวพุทธ
ทั้งหมดทำให้รัฐบาลแห่งรัฐพิหารได้ผ่านพระราชบัญญัติวิหารพุทธคยา โอนอำนาจการดูแลให้คณะกรรมการ 9 คน ประกอบด้วย กรรมการชาวพุทธ 4 ท่าน ชาวฮินดู 4 ท่าน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดคยา ซึ่งเป็นชาวฮินดูด้วยเป็นประธานเป็นผู้ดูแล โดยมีการโอนอำนาจสู่คณะกรรมการชุดแรกในปี พ.ศ. 2499
พุทธคยา จึงไม่เพียงแต่เป็นพุทธสถานที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ เป็นสถานที่ซึ่งรวมพลังศรัทธาในการร่วมกันบำรุงรักษาตลอดมานับตั้งแต่อดีตกาล
สำหรับโครงการหุ้มทองคำยอดฉัตร พระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา เกิดขึ้นจากพระอาจารย์ ดร.กฤษฎา สิริวฑฺฒโน ประธานสงฆ์วัดเมตตาพุทธาราม พุทธคยา ประเทศอินเดีย (วัดเมตตาพุทธาราม อยู่ในความอุปถัมภ์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร) เคยนำพุทธศาสนิกชนสร้างกิจกรรมมหากุศลทำนุบำรุงพระมหาเจดีย์พุทธคยา พระแท่นวัชรอาสน์ และต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา จึงได้ร่วมกับคุณสมาน คุณากรไพบูลย์ศิริ คุณไพจิตต์ นันธนวัฒน์ คุณปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ริเริ่มโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้รับความช่วยเหลือจาก Shri KamalNath, Minister of Urban Development and Parliamentary Affairs, Ms.Chandresh Kumari Katoch, Minister of Culture, H.E.Mr.Anil Wadhwa เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย, Shri Nitish Kumar Chief Minister of Bihar State, Mr.Rustam Mehta, Mr.Satish Sehgal และคุณบรรเทิง แสงรัฐวัฒนะ ในการประสานงานจนได้รับความเห็นชอบจากโบราณคดี ฝ่ายมรดกโลก ประเทศอินเดีย และได้รับอนุญาตจาก Bodhgaya Temple Management Committee ให้ดำเนินการโครงการได้
การดำเนินงานทั้งหมดได้จัดตั้งคณะกรรมการโครงการ ประกอบด้วย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานโครงการ ฯพณฯ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต เป็นประธานคณะอำนวยการ และยังมีคณะกรรมการประกอบด้วยบุคคลมีชื่อเสียงอีกมากมาย ที่ร่วมดำเนินการโครงการมาตั้งแต่ต้น
โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตร พระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา มีวัตถุประสงค์ระดมทองคำศรัทธาจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพื่อนำไปหุ้มยอดสูงสุดของพระมหาโพธิเจดีย์ ถวายเป็นพุทธบูชา ณ สถานที่แห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชันษา 100 ปี
ถือเป็นมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ที่ชั่วชีวิตจะมีครั้งเดียวเท่านั้น


