posttoday

ทางยกระดับเกษตร-นวมินทร์รัฐบาลกับความหวังประชาชน

19 มิถุนายน 2556

ชาว กทม.ที่อยู่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ คงจะได้เห็นประติมากรรมเสาตอม่อกลางถนนเกษตรนวมินทร์ มานานหลายปี เริ่มตั้งแต่เปิดใช้ถนน ในใจผู้เขียนยังรู้สึกว่าโครงการสร้าง

ชาว กทม.ที่อยู่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ คงจะได้เห็นประติมากรรมเสาตอม่อกลางถนนเกษตรนวมินทร์ มานานหลายปี เริ่มตั้งแต่เปิดใช้ถนน ในใจผู้เขียนยังรู้สึกว่าโครงการสร้าง

ตอม่อบนเกาะกลางถนนเป็นเรื่องที่น่าชมเชย ที่มีการวางแผนล่วงหน้าว่าอีกหน่อยจะมีทางยกระดับอีกเส้นหนึ่งบนถนนนี้ ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าชื่นชมที่ไม่ต้องมาก่อสร้างกีดขวางเส้นทางจราจรอีกในภายภาคหน้า

ผู้เขียนได้ข้อมูลมาอีกว่าตอม่อเป็นของการทางพิเศษ และกำลังจะสร้างถนนเชื่อมจากวงแหวนตะวันออกมาเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิตและงามวงศ์วาน แต่ปัจจุบันติดขัดตรงที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไม่ยอมให้ที่ดินที่จะสร้างทางยกระดับผ่านแนวริมรั้วและทางเชื่อมกับวิภาวดีรังสิต จึงทำโครงการต่อไม่ได้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะให้มีการสร้างระบบการขนส่งขนาดเบาเชื่อมต่อแทนถนนตามโครงการเดิม เชื่อมตะวันออกกับตะวันตกของ กทม.

จากข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้มา ได้ทราบว่าทางยกระดับเส้นเกษตรนวมินทร์ อาจจะต้องยกเลิกไปเพราะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คัดค้าน โดยให้นักศึกษาเป็นผู้ขึงรั้วและป้ายประท้วงไม่ให้สร้างถนนลอยฟ้าเส้นนี้ เพราะจะกระทบต่อทัศนียภาพ มีมลพิษเพิ่มมากขึ้น และเดือดร้อนรำคาญ เนื่องจากเสียงดังจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมา นิสิตที่เรียนจะหนวกหูฟังไม่รู้เรื่อง ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยสามารถสร้างอุปกรณ์ลดเสียงรบกวนอย่างที่ติดตั้งเป็นแผงเก็บเสียงบนขอบทางพิเศษที่ตัดผ่านโรงพยาบาลและชุมชนต่างๆ อย่างได้ผลมาแล้ว

การคัดค้านมีต่อเนื่องมานานพอสมควร จนปัจจุบันได้ยินข่าวว่า การทางพิเศษก็จะยอมยกเลิกโครงการนี้ โดยหาโครงการอื่นๆ มาแทน ผู้เขียนเห็นว่าในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีอยากเห็นบริการที่ดีขึ้น เราเสียเงินค่าภาษีเป็นเงินเดือนของอธิการบดีและเป็นเงินเดือนของผู้บริหารมหาวิทยาลัย และเป็นค่าจัดการศึกษาให้แก่บรรดานิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เรียนได้จบการศึกษาออกไปทำมาหากินประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้มาหลายสิบรุ่นแล้ว

ทั้งผู้บริหารและนิสิตควรจะได้นึกถึงหนี้บุญคุณของผู้เสียภาษีที่อยู่ร่วมชายคาเมืองเดียวกับท่านบ้างว่า การที่ท่านยืนยันไม่ให้ความร่วมมือกับการทางพิเศษในการก่อสร้างถนนยกระดับเส้นนี้ ตัวท่านเองก็ไม่ได้รับความสะดวกจากถนนนี้เช่นกัน และเป็นความที่มีจิตใจคับแคบ ไม่มีจิตสาธารณะ

ถ้าพิจารณาถึงเหตุผลและความชอบธรรมในด้านกฎหมายแล้ว ที่ดินที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นที่ดินของประชาชน กล่าวคือ เป็นที่ราชพัสดุ จึงไม่ใช่ที่ดินกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หากรัฐมีความประสงค์จะเอาคืนก็ย่อมเอาคืนได้ หรือหากรัฐต้องการจะใช้ประโยชน์ที่สำคัญมากกว่าจะเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ได้ ที่เข้าใจกันผิดๆ คือ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยคิดว่ามหาวิทยาลัยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (และอันที่จริง หากกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของเอกชนก็ยังเวนคืนได้) มหาวิทยาลัยจึงเป็นเพียงผู้ใช้ที่ดินในนามของรัฐ

หากรัฐบาลคณะรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายตัดสิน วินิจฉัย สั่งการลงมา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ย่อมไม่มีสิทธิใดๆ จะโต้แย้งทั้งสิ้น ต้องยินยอมให้การทางพิเศษดำเนินการก่อสร้างถนนลอยฟ้าเพื่อแก้ปัญหาการจราจร ซึ่งนับวันก็วิกฤตยิ่งขึ้นๆ ทุกวัน ในปัจจุบันนี้ทั้งรัฐบาลท้องถิ่น (กทม.) และรัฐบาล (ระดับประเทศ) ต่างไม่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาเรื่องถนนไม่เพียงพอต่อการจราจรในสภาพปัจจุบัน ซึ่งรถติดมากๆ โดยเฉพาะรัฐบาลออกนโยบายประชานิยมจนมีรถเพิ่มขึ้นมาวิ่งใน กทม.เกือบล้านคัน แต่ถนนไม่มีเพิ่มขึ้นเลย จึงเป็นปัญหาสั่งสมมาโดยตลอดหลายสิบปีและสาหัสมากๆ

ในปีนี้ เพราะนโยบายของรัฐบาลนี้ ผู้เขียนเห็นว่ารัฐบาลเอง โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมควรต้องตระหนักในความรับผิดชอบและแก้ปัญหาการจราจรนี้โดยด่วน การที่รัฐมนตรีฯ ยอมแพ้โดยให้จัดการแก้ไขปัญหา โดยใช้รถขนส่งมวลชนขนาดเบามาแทนนั้น ก็อาจแก้ปัญหาได้เล็กน้อยเฉพาะคนเดินทางโดยไม่ใช้รถ แต่ปริมาณที่จะขนคนจะได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่อาจเทียบได้กับการสร้างถนน ซึ่งน่าจะบริการได้ดีกว่าและปริมาณขนคนมากกว่ามากต่อระยะเวลาเท่ากัน จึงเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน

เมื่อรัฐบาลเป็นผู้ก่อปัญหานโยบายรถยนต์คันแรก จึงควรจะต้องรับผิดชอบในการขยายถนนหรือเพิ่มถนนให้เพียงพอ มิใช่แก้ปัญหาแบบง่ายๆ ขอไปที ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงควรจะย้อนกลับไปใช้อำนาจของรัฐที่มีอยู่บังคับเอาที่ดินบริเวณที่จะต้องตัดถนนลอยฟ้า (เท่าที่จำเป็น) คืนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งท่านและคณะรัฐมนตรีย่อมมีอำนาจสั่งการให้คณะกรรมการที่ราชพัสดุพิจารณาเรียกคืนที่ดินส่วนที่จะต้องนำมาขยายถนนได้ โดยมหาวิทยาลัยต้องให้ความร่วมมือ โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมายใดที่จะค้านได้

การทางพิเศษก็คงจะยินดีชดเชยค่าก่อสร้างตึกใหม่หรือสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นทดแทนให้ ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ประชาชนก็จะได้แซ่ซ้องในความมีน้ำใจในความเสียสละของชาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เนื่องจากประชาชนจะได้มีความสะดวกในการสัญจรมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหาที่ทุกฝ่ายน่าจะได้ประโยชน์ (WinWin Solution) รัฐบาลก็จะได้ความนิยมมากขึ้นจากประชาชน มิใช่บริหารแบบอยู่ไปวันหนึ่งๆ เท่านั้น เพราะนี่คือผลงานชิ้นโบแดงของรัฐมนตรีและรัฐบาลที่แก้ปัญหาได้ถูกทาง ประชาชนก็ได้รับประโยชน์โดยทั่วหน้า ท่านรัฐมนตรีจะไม่ช่วยกันทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งหรือครับ?

ข่าวล่าสุด

มติสมช.ย้ำจบปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องคุยกันระดับทวิภาคี