"ปู"รับ11ข้อเสนอแรงงานไทย
วันแรงงานแห่งชาติคึก! เผดิมชัย นำทำบุญลานพระบรมรูปฯ ด้าน นายกฯ เปิดงาน รับ 11 ข้อเสนอ ให้รมว.แรงงานประสาน
วันแรงงานแห่งชาติคึก! เผดิมชัย นำทำบุญลานพระบรมรูปฯ ด้าน นายกฯ เปิดงาน รับ 11 ข้อเสนอ ให้รมว.แรงงานประสาน
เช้าวันนี้ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้นำองค์กรแรงงานและตัวแทนแรงงานจากภาคส่วนต่างๆ ร่วมพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์ 9 รูป ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค.
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญดังกล่าว กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่อยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ได้ตั้งขบวนเดินไปยังท้องสนามหลวง เพื่อร่วมงานวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งตามกำหนดการนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน ในเวลาประมาณ 11.00 น.
ทั้งนี้มีรายงานว่า นายชินโชติ แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทยจะกล่าวรายงานข้อเรียกร้องตามที่ผู้ใช้แรงงานต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดนแร่งด่วนมีจำนวน 11 ข้อต่อนายกรัฐมนตรี ได้แก่1. ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 982. ออกกฎหมายตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้แก่ลูกจ้างที่ตกงานเพราะโรงงานผิดกิจการ โดยไม่จ่ายค่าชดเชย3. ให้รัฐบาลยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้กรณีค่าชดเชยของลูกจ้างเอกชน และเงินตอบแทนของพนักงานรัฐวิสาหกิจฯ4. ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไข พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานกรรมการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2550 ให้มีการมาตรฐาน เดียวกับข้าราชการพลเรือน5. ผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจและยุติการแปรรูปหรือยุบเลิกรัฐวิสาหกิจ 6. ให้รัฐบาลเร่งตรา พ.ร.ฎ.สถาบันความปลอดภัยฯ7. ปฏิรูประบบประกันสังคมและเพิ่มสิทธิประโยชน์ รวมทั้งยกระดับสำนักงานประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ8. จัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็ก และศูนย์เก็บน้ำนมแม่ในโรงงาน โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้9. แก้ไขพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 59 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงในวันลาเพื่อ ตรวจรักษาสุขภาพก่อนคลอดบุตร และคลอดบุตรเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 90 วัน และให้ ลูกจ้างซึ่งเป็นชายมีสิทธิลาเพื่อดูแลภรรยาในการคลอดบุตรได้ 15 วันโดยได้รับค่าจ้าง และมาตรา 118 ให้นายจ้าง จ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างเป็น 2 เท่าจากเดิมที่บัญญัติไว้10. ออก พ.ร.ฎ. การจัดเก็บเงินสะสม และเงินสมทบ เพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และ11. ตั้งคณะทำงานติดตาม และประสานงานข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติปี พ.ศ. 2556
จากนั้น ในเวลา 11.20น. น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อผู้ใช้แรงงานโดยเน้นในเรื่องการพัฒนาสิทธิรวมทั้งเพิ่มศักยภาพและพัฒนาข้อมูลของผู้ใช้แรงงานโดยระบุว่าแรงงานทุกคนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศมายาวนาน ซึ่งในปี 2554-2555 เศรษฐกิจซบเซาจากปัญหาอุทกภัยแต่ขณะนี้เศรษฐกิจดีขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงต้นปียังมีความเสี่ยงเรื่องการเลิกจากซึ่งเป็นผลกระทบจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แต่รัฐบาลได้มีนโยบายบรรเทา เช่นมาตราการด้านภาษี การปรับลดเบี้ยประกันสังคมขณะที่ปัญหาด้านสุขภาพแรงงานรัฐบาลได้บูรณาการ 3 กองทุน เข้ารวมกันเพื่อความสะดวกในการรักษาพยาบาล ส่วนปัญหาแรงงานนอกระบบจะมีการจัดทำข้อมูลเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทั้งนี้แรงงานที่อยู่ต่างประเทศ รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือในการคุ้มครองสิทธิ การทำสินเชื่อ และขอความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย
พร้อมกันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับข้อเสนอของผู้ใช้แรงงานทั้งหมดโดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานปราสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ก่อนจะกดปุ่มปิดงานวันแรงงานอย่างเป็นทางการ
สำหรับกิจกรรมในช่วงเย็น คอนเสิร์ตของศิลปินดารา จำนวนมากเพื่อสร้างความครื้นเครงให้แก่ผู้ใช้แรงงานจนถึงเวลา 22.00 น.
นอกจากนี้ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และเครือข่ายแรงงาน ร่วมกันจัดกิจกรรม โดยเริ่มที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา ก่อนเคลื่อนขบวนไปจัดกิจกรรมการปราศรัยที่บริเวณประตู 5 ของทำเนียบรัฐบาล พร้อมยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี 12 ข้อได้แก่
1.ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ไอแอลโอ) ฉบับที่ 87 และ 98 เพื่อให้ได้รับสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง, 2.การตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้แก่ลูกจ้างในกรณีที่สถานประกอบกิจการปิดกิจการเลิกจ้าง ไม่จ่ายค่าชดเชย ,3.การสนับสนุนและผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ และยุตินโยบายแปรรูป ,4.ปฏิรูประบบประกันสังคม โดยแก้ไขพ.ร.บ.ประกันสังคมให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ,5.การออกกฎหมายรองรับ สถาบันความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมทั้งการให้งบสนับสนุน และยกเลิกนำเข้าแร่ใยหิน ,6.จัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็ก และศูนย์เก็บน้ำนมแม่ในสถานประกอบการ หรือใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม โดยให้สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนำค่าใช้จ่ายนี้ไปลดหย่อนภาษีได้ 7. ยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินรายได้ก้อนสุดท้ายของผู้ใช้แรงงาน
8.รัฐต้องยุตินโยบายและกฎหมายที่ละเมิดสิทธิแรงงาน, 9.รัฐต้องกำหนดค่าจ้างแรงงานที่เป็นธรรมให้ครอบคลุมผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วน และทบทวนการคงอัตราค่าจ้าง 300 บาทไปจนถึงปี 58,10.รัฐบาลเร่งพัฒนากลไกการคุ้มครองสิทธิแรงงานและสวัสดิการสังคมที่ครอบคลุมทั้งแรงงานนอกระบบ และแรงงานข้ามชาติ 11.การแก้กฎหมายการเลือกตั้งให้แรงงานมีสิทธิ์เลือกผู้แทนในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปและ12. สร้างระบบสวัสดิการที่ดีเข้าถึงคนทุกกลุ่ม ควบคู่กับการควบคุมราคาสินค้า