posttoday

สว.เสียงสวรรค์พรรคเพื่อไทย

21 มีนาคม 2556

สำหรับพรรคเพื่อไทย เวลานี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นับหนึ่งอย่างเป็นทางการภายหลังได้ยื่นร่างแก้ไขกฎหมายสูงสุดของประเทศถึงมือ

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย

สำหรับพรรคเพื่อไทย เวลานี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นับหนึ่งอย่างเป็นทางการภายหลังได้ยื่นร่างแก้ไขกฎหมายสูงสุดของประเทศถึงมือ “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” ประธานรัฐสภา จำนวน 3 ฉบับ

ร่างแก้ไขรายมาตราที่ สส.พรรครัฐบาล และ สว.ร่วมกันเสนอ ประกอบด้วย ยกเลิกระบบ สว.สรรหา เพิ่มความชัดเจนของลักษณะหนังสือสัญญาระหว่างประเทศที่ต้องผ่านรัฐสภา และตัดทอนอำนาจศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องยุบพรรคตามมาตรา 68 ในเรื่องความผิดเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ตามขั้นตอนประธานรัฐสภาจะบรรจุระเบียบวาระเข้าสู่การประชุมรัฐสภาภายใน 15 วัน ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาในวาระที่ 1 ในระหว่างวันที่ 24 เม.ย. และเมื่อรัฐสภารับหลักการแล้วจะตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 คณะเพื่อดูในรายละเอียดต่อไป

เดิมทีพรรคเพื่อไทยเตรียมขอยกเว้นข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาดำเนินการตั้งคณะ กมธ.เพียงหนึ่งชุด เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ

โดยคิดว่าถ้าดำเนินการตามวิธีนี้ช่วยให้การทำงานของคณะ กมธ. จะใช้คณะบุคคลเพียงชุดเดียว ซึ่งช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น แต่ถึงที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยประเมินไว้อีกด้านหนึ่งว่าถ้าดำเนินการตามนั้น อาจถูกมองได้ว่ารัฐบาลมีเจตนารวบรัดตัดตอนเกินไป ไม่เป็นผลดีต่อการรักษาบรรยากาศการเมือง จึงเลือกเดินเกมในหลักการ “ช้าแต่ชัวร์” ตามเดิมแทน

นอกเหนือไปจากการพึ่งพาบรรยากาศการเมืองเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญราบรื่นแล้ว กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ คือเสียงของวุฒิสภาหากดูขุมกำลังวุฒิสภาในปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่ม สว.ซีกรัฐบาล และกลุ่ม สว.ขั้วตรงข้ามรัฐบาล

สว.ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลมีตัวเลขออกมาชัดเจนประมาณ 55-60 คน ส่วนใหญ่เป็น สว.เลือกตั้งและบางส่วนจาก สว.สรรหา แสดงให้เห็นจากการลงชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำโดย ดิเรก ถึงฝั่ง สว.นนทบุรี ประสิทธิ์ โพธสุธน สว.สุพรรณบุรี ยุทธนา นพฤทธิ์ สว.ยโสธร พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ สว.อุดรธานี โสภณ ศรีมาเหล็ก สว.น่าน เป็นต้น

ขณะที่ สว.สรรหา ที่ร่วมขบวนมีด้วยกัน 8 คน อาทิ ประวิทย์ จันทราประภาวัฒน์ ปัญญา เบ็ญจศิริวรรณ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์จารุพงศ์ จีนาพันธ์ มหรรณพ เดชวิทักษ์ และ พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์

ไม่เพียงเท่านี้ ในทางปฏิบัติประมาณการว่าเสียงสนับสนุนจะเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะแกนนำ สว.เลือกตั้งได้ประสานกับ สว.เลือกตั้ง และสรรหากว่า 10 ราย ให้มาร่วมลงชื่อสนับสนุนในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนยื่นให้ประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ปรากฏว่า สว.กลุ่มดังกล่าวติดภารกิจต่างประเทศไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ทัน แต่ได้รับปากแล้วว่าจะร่วมลงมติรับรับหลักการในวาระที่ 1

ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้พรรคเพื่อไทยได้แรงหนุนจาก สว.มากขึ้น มาจากการแก้รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ สว.สามารถรับตำแหน่งได้ติดต่อกันเกินหนึ่งวาระและยกเลิกระบบ สว.สรรหา กล่าวคือ ถ้าในอนาคตการแก้ไขประสบความสำเร็จ จะช่วยให้ สว.เลือกตั้งชุดปัจจุบันลงสมัคร สว.อีกสมัยได้ จากเดิมรัฐธรรมนูญ 2550 ขีดเส้นให้เป็น สว.ติดต่อกันไม่ได้

ขณะที่ สว.ขั้วตรงข้ามรัฐบาลจะอยู่ในปีกของกลุ่ม 40 สว. ซึ่งก็ประกอบไปด้วย สว.สรรหาและเลือกตั้งเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ไพบูลย์ นิติตะวัน ประสาร มฤคพิทักษ์ สมชาย แสวงการ สุรจิต ชิรเวทย์ สว.สมุทรสงคราม รสนา โตสิตระกูล สว.กทม.

ทว่า สว.กลุ่มนี้ยังไม่ค่อยมีความเป็นเอกภาพมากนัก ดังจะเห็นได้จากการไม่สามารถส่ง “พิเชต สุนทรพิพิธ” สว.สรรหา ไปถึงตำแหน่งประธานวุฒิสภาได้ ปล่อยให้ สว.เลือกตั้งคุมศูนย์อำนาจในวุฒิสภาทั้งที่กลุ่มสรรหาครองความเบ็ดเสร็จมากว่า 4 ปี

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นสภาพจำยอมว่าเสียงของกลุ่ม 40 สว. บวกกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย อย่างดีที่สุดทำได้แค่การเสนอขอแปรญัตติแก้ไขทุกมาตราเพื่อให้ตัวเองมีโอกาสได้อภิปรายต่อรัฐสภา

โดยตั้งเป้าไว้ว่าการอภิปรายถล่มรัฐบาลในสภาจะชี้ให้ประชาชนเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีข้อเสียและสร้างประโยชน์ให้กับฝ่ายการเมืองอย่างไร ควบคู่กับการไปต่อสู้ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญแทนดังนั้น ดูจากขุมกำลังทั้งหมดแล้วสรุปได้คร่าวๆ ว่ารัฐบาลมีเสียง สว.เป็นแรงสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 80 เสียง รวมกับฐานเดิมของรัฐบาลอีก 248 เสียง เท่ากับมีเสียงทั้งหมดราว 330 เสียง เกินกว่ากึ่งของสมาชิกรัฐสภา (สส.รวมกับ สว.) ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ 647 ราย ปล่อยให้ฝ่ายต่อต้านเป็นแค่เสียงข้างน้อยในสภา

อย่างไรก็ตาม เสียงกว่าครึ่งสภาของรัฐบาลแม้จะท่วมท้น แต่ในมิติการเมืองไม่เป็นเครื่องการันตีว่าจะประสบความสำเร็จอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะในอดีตมีบทเรียนมาให้เห็นแล้ว

ข่าวล่าสุด

‘จีโนมิกส์ ไทยแลนด์’ เดิมพันอนาคตวงการแพทย์ไทย โครงการชื่อยากที่คนไทยได้ใช้แน่!