ระทึก!ไฟไหม้รถพ่วงบรรทุกน้ำมัน
ระทึกไฟไหม้รถพ่วงบรรทุกน้ำมันบนถนนสายบุรีรัมย์-สุรินทร์ โชคดีคนขับกระโดดหนีทัน
ระทึกขวัญไฟไหม้รถพ่วงบรรทุกน้ำมันบนถนนสายบุรีรัมย์-สุรินทร์ โชคดีคนขับกระโดดหนีทัน
พ.ต.ท.แดน คงพลปาน สารวัตรเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้รถยนต์บรรทุกน้ำมันบริเวณถนนสายบุรีรัมย์-สุรินทร์ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบรุดไปตรวจสอบเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บนถนน ฝั่งตรงข้ามสำนักงานแขวงการทางบุรีรัมย์ พบไฟกำลังลุกไหม้ ที่ยางล้อหลังด้านซ้ายแล้วลามมาที่ตัวถังน้ำมันรถยนต์บรรทุก 24 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ตัวแม่ทะเบียน 79-3711 กรุงเทพมหานคร และพ่วงลูก ทะเบียน 77-0973 กรุงเทพมหานคร ซึ่งบรรทุกน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 กับน้ำมันดีเซล ประมาณ 6,000 ลิตร ของบริษัท กู๊ด ทีม เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์พร้อมด้วยรถดับเพลิงของหน่วยกู้ภัย รถดับเพลิงของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อบต.เสม็ด สวายจีก และ สะแกซำ ร่วม 10 คัน เร่งระดมใช้ถังเคมีดับเพลิง และน้ำฉีดเข้าใส่ หวังจะดับไฟ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเพราะเกรงน้ำมันจะรั่วไหลไฟลุกไหม้ และอาจจะเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงได้พร้อมทั้งได้ปิดถนนห้ามรถยนต์วิ่งผ่าน ทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานร่วมชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังไฟสงบเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุรถยนต์บรรทุกน้ำมันคันดังกล่าว พบว่าถูกไฟไหม้ที่ยางล้อหลังซ้ายและที่ตัวถังน้ำมันได้รับความเสียหายบางส่วนซึ่งโชคดีที่ถังน้ำมันไม่ระเบิด และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
จากการสอบถาม นายวิทยา ธาตุวิสัย อยู่บ้านเลขที่ 31 บ้านหนองตาใส ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น คนขับรถบรรทุกน้ำมัน ให้การว่าได้ขับรถบรรทุกน้ำมันมาจาก จ.สุรินทร์ เพื่อจะมาส่งน้ำมันที่ปั๊มในตัวเมืองบุรีรัมย์ แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถยนต์เกิดมีปัญหาระบบเบรกติดซึ่งเคยเกิดมาแล้วหลายครั้งและอยู่ในช่วงแก้ไข จึงพยายามชะลอรถช้าๆและแตะเบรกตลอดเวลา ประกอบกับเป็นทางลงจากเนินด้วยทำให้ยางล้อหลังซ้ายเสียดสีติดกับเบรกเกิดเปลวไฟลุกไหม้ที่ยางอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ จึงรีบวิ่งออกจากตัวรถ แล้วไปนำถังดับเพลิงที่อยู่ในรถยนต์มาดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถดับได้เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มาทำการดับเพลิงดังกล่าว
อย่างไรก็ตามส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ที่แท้จริงในครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง


