พร้อมพงศ์จี้มาร์ค-สุเทพรับผิดรวมสัญญาสร้างโรงพัก

"พร้อมพงศ์" แถลง งัดหลักฐาน 8 บริษัทค้านรวมสัญญาก่อสร้างโรงพักทดแทน จี้ “อภิสิทธิ์-สุเทพ” รับผิด

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่าจากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าปัญหาของโครงการก่อสร้างโรงพักเป็นเรื่องของการบริหารสัญญา เป็นการเบี่ยงเบนและโยนบาปให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยจากหลักฐานที่ได้รับมาเป็นหนังสือด่วนที่สุด ที่ 001/2552 และ002/2552 เมื่อวันที่13 พ.ย. 2552 เป็นหนังสือที่ผู้สนใจร่วมประกวดราคารับเหมาก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ได้ลงชื่อร่วมกันทั้งบริษัทและ หจก.8 บริษัท ประกอบด้วย 1.นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล กรรมการบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด 2.นายทินกร สมสมัย กรรมการบริษัททิชา คอนสตรัคชั่น จำกัด 3.นายประภาส รัตนพล กรรมการบริษัท อังคณา (1994) จำกัด 4.นายสรายุทธ์ สิริธนากิจ กรรมการบริษัท เอส พี เอส แอนด์ ซันส์ ซัพพลาย จำกัด 5.นายสารทูล นิรมัยถาวร หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมืองเก่า คอนสตรัคชั่น 6.นายสรวิช เจริญพิทักษ์พร หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สรกรรณกรุ๊ป 7. นายจุน ภูริทัต หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคนคร และ 8.นายสมศักดิ์ ปิยะตันติ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สกลเจริญก่อสร้าง

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในหนังสือผู้สนใจร่วมประกวดราคาได้ร่วมกันคัดค้านการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 369 แห่งรวมถึงอาคารที่พักอาศัยที่ตำรวจ โดยระบุว่า "ถ้าหาก ตร.จะขออนุมัติเปลี่ยนแปลงนโยบายจากเดิมที่นายกฯ ได้ลงนามไว้แล้ว เป็นการจัดจ้างแบบรวมรายการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 369 หลังเป็นสัญญาเดียว หรือการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย 163 แห่งเป็นสัญญาเดียวก็ตาม พวกข้าพเจ้าใคร่ขอความกรุณาจากนายกรัฐมนตรี โปรดอย่าได้ลงนามอนุมัติหรือเห็นชอบโดยเด็ดขาด" แต่การคัดค้านดังกล่าวไม่เป็นผลเพราะนายสุเทพ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในฐานะปฏิบัติราชการแทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามอนุมัติเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2552 เพื่อให้ ตร.เป็นหน่วยงานจัดจ้างก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนและที่พักอาศัยทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว นี่คือปฐมเหตุของปัญหา ทำไมบริษัทพีซีซีฯ ถึงได้รับการว่าจ้างเพียงรายเดียว น่าจะเป็นการฮั้วที่ผิดปกติ ตนจึงบอกว่านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพหนีความรับผิดชอบไม่ได้