posttoday

ปัญหาโอเน็ต

11 กุมภาพันธ์ 2556

ตั้งแต่ปี 2550 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดให้มีการสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต เพื่อสอบความรู้รวบยอดปลายช่วงชั้นใน 4 ช่วงชั้น คือ ป.3 ป.6 ม.3 ม.6

ตั้งแต่ปี 2550 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดให้มีการสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต เพื่อสอบความรู้รวบยอดปลายช่วงชั้นใน 4 ช่วงชั้น คือ ป.3 ป.6 ม.3 ม.6

เป้าหมายเพื่อวัดความรู้จาก 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ 1.ภาษาไทย 2.คณิตศาสตร์ 3.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4.สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5.สุขศึกษาและพลศึกษา 6.ศิลปศึกษา 7.การงานและอาชีพ และ 8.ภาษาต่างประเทศ

สพฐ.ต้องการวัดว่านักเรียนทั่วประเทศมีความรู้จากการเรียนแต่ละช่วงชั้นระดับใดบ้าง เดือน ก.พ.มี.ค.ของทุกๆ ปี นักเรียนต่างทราบดีว่าการสอบโอเน็ตจะเวียนมาถึง

แต่นับตั้งแต่กำหนดให้มีการจัดสอบ ผลคะแนนเฉลี่ยทั่วประเทศต่ำกว่าครึ่งในเกือบทุกวิชา บางปีวิชาคณิตศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยเพียง 14.99 คะแนน จาก 100 คะแนน ขณะที่วิชาที่ได้เกินครึ่ง คือ สุขศึกษาและพลศึกษา

สพฐ.ให้เหตุผลว่า โอเน็ตเป็นการทดสอบที่ไม่มีผลต่อการจบของแต่ละช่วงชั้น จึงไม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้เด็กตั้งใจทำข้อสอบ ในปีการศึกษา 2555 สพฐ.จึงได้เพิ่มนโยบายให้ใช้คะแนนโอเน็ต 20% เป็นองค์ประกอบในการจบ ป.6 ม.3 และ ม.6 เพื่อให้นักเรียนตั้งใจสอบมากขึ้น

ขณะที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ซึ่งมีหน้าที่ออกข้อสอบให้สะท้อนผลสัมฤทธิ์จากการเรียนการสอนอย่างครอบคลุมที่สุด ต้องรับเสียงตำหนิทั้งจากนักเรียนและผู้ปกครองว่าข้อสอบยากเกินไปบ้าง คำถามพิสดารบ้าง และทุกปีจะมีข้อสอบผิดพลาดจนต้องยกประโยชน์ให้ผู้สอบ

ขณะเดียวกัน สทศ.ยังต้องหามาตรการป้องกันไม่ให้ครูผู้คุมสอบเปิดช่องให้นักเรียนลอกข้อสอบเพื่อหวังเพิ่มคะแนนเฉลี่ยของพื้นที่นั้นๆ โดยปีนี้เป็นปีแรกที่เพิ่มข้อสอบจากชุดเดียวเป็น 6 ชุด แต่ก็พลาดอีกเมื่อวิชาภาษาไทยข้อ 51 และ 52 กระดาษคำตอบคลาดเคลื่อนอีกเช่นเคย

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68