ดีเอสไอเผยหลักฐานพิรุธ"พีซีซีฯ"ฉ้อโกง
ธาริตเตรียม เรียก “อภิสิทธิ์” ให้ข้อมูลกรณี 396 โรงพัก พร้อมรับคดีฉ้อโกงโรงพักเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติม หลังพบบริษัท พีซีซีฯ เบิกจ่ายเงิน 1,500 ล้านบาท
ธาริตเตรียม เรียก “อภิสิทธิ์” ให้ข้อมูลกรณี 396 โรงพัก พร้อมรับคดีฉ้อโกงโรงพักเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติม หลังพบบริษัท พีซีซีฯ เบิกจ่ายเงิน 1,500 ล้านบาท
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนทุจริตการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน และโครงการก่อสร้างบ้านพักอาศัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยได้นำหลักฐานซึ่งเป็นหนังสือของกลุ่มบริษัทผู้เข้าประมูลโครงการ ลงวันที่ 13 พ.ย. 2552 ส่งถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น เพื่อขอให้คัดค้านการลงนามเห็นชอบ ที่ทาง สตช.จะขออนุมัติเปลี่ยนแปลงนโยบายจากเดิมจัดจ้างแบบรวมเป็นสัญญาเดียว
นายธาริต กล่าวว่า 8 บริษัทที่ร่วมลงนามคัดค้านการเปลี่ยนนโยบายจัดจ้างแบบรวมเป็นรายเดียวขณะนั้น ก็มี บริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ร่วมอยู่ด้วย โดยนายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล กรรมการบริษัท พีซีซี ฯ
“ในหนังสือคัดค้านนั้นก็ได้ระบุว่า การให้ผู้รับเหมาเพียงรายเดียวเป็นการปิดโอกาสผู้เข้าร่วมเสนอราคารายอื่นและเป็นไปไม่ได้ที่ผู้รับเหมารายเดียวจะทำการก่อสร้างในสถานที่หลายแห่งที่ห่างไกลทั่วประเทศขัดกับความจริงทั่วไป การเปลี่ยนการจัดจ้างนั้นเป็นการกีดกันผู้รับแหมาตามภูมิภาคท้องถิ่น หากนายกรัฐมนตรีเห็นชอบอนุมัติก็จะเป็นการทำผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ทางจากหลักฐานนี้ ทางดีเอสไอจึงจะออกหนังสือเชิญนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้นมาให้ข้อมูล แต่ยังไม่กำหนดว่าจะมาก่อนหรือหลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายธาริต กล่าว
นอกจากนี้ นายธาริต ยังเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับคำร้องทุกข์จากบริษัทรับเหมาช่วงรายย่อย 5 รายให้ดำเนินคดีกับบริษัท พีซีซี ฐานฉ้อโกง ซึ่งไม่ใช่การผิดสัญญาแพ่งธรรมดา จึงได้อนุมัตสืบแล้ว
“เป็นการฉ้อโกงงบ สตช. โดยบริษัท พีซีซีฯ ไปจ้างผู้รับเหมาช่วงรายย่อยแล้วไม่จ่ายเงิน หรือจ่ายเพียงเล็กน้อย โดยเอาเนื้องานไปเบิกเงินเต็มจำนวน รวม 1,500 ล้านบาท จากหลักฐานดังกล่าว ทางดีเอสไอได้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษฐานฉ้อโกงแล้ว หากมีรายอื่นร้องทุกข์ก็สามารถมาได้ที่ดีเอสไอ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป” นายธาริต กล่าว
นอกจากนี้ ดีเอสไอยังคำสั่งให้ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษ ดีเอสไอ ทำหนังสือแจ้งไปยัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อรายงานการแจ้งเอาผิดกับบริษัท พีซีซีฯ ในคดีก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งของดีเอสไอแล้ว
“ในส่วนของสัญญาที่บริษัท พีซีซีฯทำกับ สตช.ซึ่งจะหมดลงในวันที่ 14 มี.ค.นี้ คดีการฟ้องร้องของ สตช. นั้นเป็นทางกฎหมายแพ่ง ซึ่งเป็นคนละส่วนกับดีเอสไอ ซึ่งทางการดำเนิคดีกับบริษัท พีซีซี ฯ เราถือว่าการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว ใน 2 ส่วนคือ 1. พ.ร.บ.เสนอราคาต่อภาครัฐ และ 2. ฉ้อโกง ซึ่งกระทำต่อผู้รับเหมาช่วงรายย่อย และการเบิกเงินออกมาเป็นจำนวน 1,500 ล้านบาทเป็นขั้นตอน โดยที่ไม่สามารถก่อสร้างได้ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐ ในส่วนของแพ่งนั้น บริษัทพีซีซีอาจจะยอมล้มละลาย แต่ดีเอสไอถือว่าต้องดำเนินคดีอาญา เพราะเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจจงใจทำความผิดทางอาญา” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายธาริต กล่าวว่าการส่งหนังสือเชิญเพื่อนัดหมายให้อดีต ผบ.ตร.ทั้ง 3 คนมาให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้านั้น ยังไม่มีใครส่งจดหมายยืนยันหรือปฏิเสธ หลังเสร็จสิ้นแล้วขั้นตอนจากนั้นคือให้เวลาบริษัท พีซีซี15 วันเพื่อเตรียมเอกสารชี้แจง และจะเป็นการเชิญนายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพ ต่อไป


