posttoday

ร้องกองปราบสาวมีสทีนถูกอุ้มหายตัว

28 ธันวาคม 2555

น้องสาวร้องกองปราบช่วยตามหาพี่สาว ผอ.เขตบริษัทมีสทีน ถูกอุ้มหายตัวไปที่เจาะไอร้อง

น้องสาวร้องกองปราบช่วยตามหาพี่สาว ผอ.เขตบริษัทมีสทีน ถูกอุ้มหายตัวไปที่เจาะไอร้อง

น.ส.ภัคจีรา แดงปง อายุ 38 ปี ชาว อ.เมือง จ.นราธิวาส เข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) เพื่อขอให้ช่วยสืบสวน และตามหาตัวพี่สาวของตนเองคือ นางอุดมลักษณ์ ชาน อายุ 41 ปี  ที่ถูกคนร้าย 4 คนจับกุมตัวหายไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส คดีไม่คืบหน้า จนเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อตความไม่สงบหรือไม่

น.ส.ภัคจีรา กล่าววว่าพี่สาวนั้นทำงานเป็นผู้อำนวยการเขต ของบริษัทเบอเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “บริษัทมิสทีน”  มีหน้าที่รับผิดชอบรับสมัครสมาชิกมิสทีน และฟราย์เดย์ ร่วมถึงเก็บเงินค่าสินค้า รับผิดชอบครอบคลุม 13 อำเภอ  วันเกิดเหตุพี่สาวได้เดินทางออกจากบ้าน โดยขับรถยนต์ฮอนด้า ซีตี้ สีขาว ทะเบียน ฏผ 4673 กทม. ไปกับนางนาอีมะห์ สามุ อายุ 27 ปี ผู้จัดการเขตฟาริส  จะไปทำธุระที่บ้านปิเหลง เมื่อไปถึงสามแยกเจาะเกาะ อ.เจาะไอร้อง มีชายชุดดำแต่งกายคล้ายทหาร จำนวน 4 คน  กำลังตั้งด่านลอย ตรวจค้นรถจักรยานยนต์  

น.ส.ภัคจีรา กล่าวต่อว่าเมื่อรถของพี่สาววิ่งผ่าน ก็ได้ถูกเรียกให้หยุด และคนร้ายก็แจ้งว่าได้รับรายงานว่ารถคันนี้มียาเสพติดอยู่ในรถ  จากนั้นก็บังคับให้คนทั้งสองลงจากรถ แล้วไปนั่งที่เบาะด้านหลัง ก่อนถูกเอาผ้าปิดตา  มีคนร้าย 2 คนมานั่งประกบข้างๆ  ส่วนอีก 2 คนก็ขึ้นไปนั่งที ่ด้านหน้าแทน หลังจากขับรถไปได้พักใหญ่ ก็หยุดรถแล้วมีคนร้ายอีก 3 คน ได้มานำตัวนางนาอีมะห์ ไปขึ้นรถอีกคัน เพื่อนำตัวไปปล่อยที่บ้านยาโงะ อ.ยี่งอ  ส่วนพี่สาวของก็หายตัวไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

น.ส.ภัคจีรา กล่าวอีกว่าเรื่องเกิดขึ้นตนเชื่อว่า ไม่ใช่คดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง  แต่เ ชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาในหน้าที่การงานเสียมากกว่า  ซึ่งที่ผ่านมาพี่สาวเองก็ไม่เคยบอกว่ามีปัญหาอะไร  รู้แต่ว่าเขาใกล้จะลาออกแล้ว เพราะสถานการณ์ในพื้นที่มันรุนแรงขึ้นทุกวัน  สำหรับพนักงานที่ไปด้วยกัน ตอนแรกก็ยังให้การสับสน และยังปฏิเสธเสียด้วยอีกว่าไม่ได้ไปด้วยกัน จนถึงขั้นต้องมีการเช็คโทรศัพท์ถึงได้ยอมรับว่าไปด้วย  และที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือทำไมคนร้ายถึงต้องนำตัวนางนาอีมะห์ไปส่งถึงที่บ้านด้วย ก็เลยทำให้เกิดการเคลือบแคลงและสงสัยอะไรในบางอย่าง แต่เราไม่เข้าใจระบบงานของพี่สาว จึงไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น

น.ส.ภัคจีรา กล่าวต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุก็มีการจับกุมคนร้ายพร้อมรถยนต์ของพี่สาวเอาไว้ได้ จากการสอบสวนทราบว่ากำลังจะนำรถคันนี้ไปใช้ประกอบทำระเบิดคาร์บอม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามหาเจ้าของรถ หรือกลุ่มคนร้ายที่จับตัวพี่สาวไปนั้น  ก็ให้การไม่ได้ เหมือนกับถูกตัดตอนไปแล้ว  หลังจากเกิดเหตุเคยมีผู้ใช้โทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เนต โทรเข้าแจ้งมาว่าพี่สาวยังมีชิวตอยู่ ก็เลยทำให้ครอบครัวเรายังมีความหวังอยู่บ้าง จึงอยากขอให้กองปราบฯ ช่วยสืบสวนอีกทางหนึ่งด้วย

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ