posttoday

เจ้าอาวาสนับสิบองค์แห่แจ้งความถูกตุ๋นซื้อตำแหน่งพระครู

25 มีนาคม 2553

เจ้าอาวาสวัดที่นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความนับสิบองค์หลังถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายตำแหน่งพระครูให้ สูญเงินรายละ 6 หมื่น-2 แสนบาทพระภิกษุซึ่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดและเจ้าสำนักสงฆ์ต่างๆ ใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 6 รูป นำโดยพระอธิการจำเลือง สุจิตโต อายุ 76 ปี เจ้าอาวาสวัดเสนาราม ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา และพระสมุห์วิรัตน์ วรธรรมโม อายุ 65 ปี เจ้าสำนักสงฆ์เขาดิน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.อรุณ จันทร์พูล สารวัตรเวร สภ.ท่าศาลา ให้ดำเนินคดีกับแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุฉ้อโกงหลอกลวงเอาเงินเพื่อวิ่งเต้นให้ได้รับตำแหน่งพระครู แต่กลับไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่ง พ.ต.ท.อรุณ ได้รายงานให้ พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ ผกก. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.สส. มาร่วมสอบสวนผู้เสียหาย ทราบว่าก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าอาวาสของวัดต่างๆ จำนวน 4 วัด ในเขต อ.ท่าศาลา มาแจ้งความให้ตำรวจ สภ.ท่าศาลา ดำเนินคดีกับแก๊งคนร้ายที่หลอกลวงเอาเงินจากบรรดาเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ไปรายละ 60,000 บาทถึง 200,000 บาท โดยแก๊งนี้จะเดินทางไปตามวัดต่างๆ อ้างว่ารู้จักสนิทสนมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาต

เจ้าอาวาสวัดที่นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความนับสิบองค์หลังถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายตำแหน่งพระครูให้ สูญเงินรายละ 6 หมื่น-2 แสนบาท

พระภิกษุซึ่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดและเจ้าสำนักสงฆ์ต่างๆ ใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 6 รูป นำโดยพระอธิการจำเลือง สุจิตโต อายุ 76 ปี เจ้าอาวาสวัดเสนาราม ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา และพระสมุห์วิรัตน์ วรธรรมโม อายุ 65 ปี เจ้าสำนักสงฆ์เขาดิน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.อรุณ จันทร์พูล สารวัตรเวร สภ.ท่าศาลา ให้ดำเนินคดีกับแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุฉ้อโกงหลอกลวงเอาเงินเพื่อวิ่งเต้นให้ได้รับตำแหน่งพระครู แต่กลับไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่ง พ.ต.ท.อรุณ ได้รายงานให้ พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ ผกก. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.สส. มาร่วมสอบสวนผู้เสียหาย
 
ทราบว่าก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าอาวาสของวัดต่างๆ จำนวน 4 วัด ในเขต อ.ท่าศาลา มาแจ้งความให้ตำรวจ สภ.ท่าศาลา ดำเนินคดีกับแก๊งคนร้ายที่หลอกลวงเอาเงินจากบรรดาเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ไปรายละ 60,000 บาทถึง 200,000 บาท โดยแก๊งนี้จะเดินทางไปตามวัดต่างๆ อ้างว่ารู้จักสนิทสนมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สามารถวิ่งเต้นให้ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูได้ แต่ปรากฏว่าหลังจ่ายเงินไป กลับไม่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนสมณศักดิ์ กลุ่มพระผู้เสียหายจึงพากันเข้าแจ้งความกับตำรวจ และในวันนี้ก็มีพระภิกษุอีกชุดหนึ่งเข้าแจ้งความเพิ่ม
 
พระอธิการจำเลือง ให้การว่า เมื่อราว 3-4 เดือนที่ผ่านมา คนร้ายซึ่งมีนายสถาพร ไม่ทราบนามสกุล พร้อมกับพวก แต่งกายดีภูมิฐาน พูดจาน่าเชื่อถือ ได้มาพบตนที่วัด พูดจาโน้มน้าว อ้างว่าสามารถวิ่งเต้นตำแหน่งพระครูให้ได้ เนื่องจากรู้จักสนิทสนมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายวิ่งเต้น 120,000 บาท โดยขอรับเงินไปก่อน 60,000 บาท ส่วนที่เหลือจ่ายภายหลังที่มีการแต่งตั้ง รับตราตั้ง และเลื่อนสมณศักดิ์แล้ว ทำให้หลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้นายสถาพรและพวกไป แต่ภายหลังการประกาศรายชื่อการแต่งตั้งเลื่อนสมณศักดิ์พระภิกษุประจำปีนี้ ปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของตนได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ จึงติดต่อกลับไปหานายสถาพรตามเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ แต่นายสถาพรบ่ายเบี่ยงอ้างโน่นอ้างนี่สารพัด สุดท้ายปิดโทรศัพท์มือถือจนติดต่อไม่ได้ ทำให้มั่นใจว่าถูกนายสถาพรกับพวกหลอกลวงแน่นอน จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ ขณะที่พระสมุห์วิรัตน์ก็ให้การเช่นเดียวกันกับพระอธิการจำเลือง
 
พ.ต.อ.อดุลย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า จนถึงขณะนี้มีพระภิกษุระดับเจ้าอาวาสเข้าแจ้งความรวม 10 ราย ตำรวจรับเป็นคดีไว้แล้วจำนวน 6 ราย ซึ่งผู้เสียหายที่ตำรวจรับคดีแล้วประกอบด้วย พระอธิการสมพร พรหมญาโน อายุ 79 ปี เจ้าอาวาสวัดทางขึ้น พระอธิการสมชาย ถิตสีโล อายุ 58 ปี เจ้าอาวาสวัดอินทโชติทาราม หรือวัดหนองคล้า พระปลัดอนันต์ อนันโท อายุ 56 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำผาเมือง พระสมุห์หวง เขมังกโร อายุ 74 ปี เจ้าอาวาสวัดเกียบ พระอธิการจำเลือง สุจิตโต อายุ 76 ปี เจ้าอาวาสวัดเสนาราม และพระสมุห์วิรัตน์ วรธรรมโม อายุ 65 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาดิน โดยทั้งหมดเป็นพระระดับเจ้าอาวาสอยู่ในอ.ท่าศาลา ส่วนอีก 4 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในวันนี้
 
สำหรับแก๊งมารศาสนากลุ่มนี้ นอกจากจะก่อเหตุต้มตุ๋นเรื่องวิ่นเต้นตำแหน่งพระครูให้กับบรรดาเจ้าอาวาสแล้ว ตำรวจยังสืบทราบว่า ยังก่อเหตุหลอกลวงต้มตุ๋นพระภิกษุว่า สามารถส่งพระสงฆ์เดินทางไปศึกษาต่อ และปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศได้ เรียกเงินจากผู้เสียหายไปเป็นจำนวนมาก หลังรับเงินก็หลบหนีไป ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
 
ขณะที่พระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เคยแจ้งเตือนมายังพระสงฆ์หลายครั้งให้ระมัดระวัง และอย่าตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่ไม่ประสงค์ดีเหล่านี้ ซึ่งไม่น่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะปกติพระสงฆ์ต้องเป็นผู้ที่สำรวม ตัดหรือระงับกิเลสแห่งตน และระมัดระวังตัวเอง การที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็เพราะตัวของพระสงฆ์เองมีความอยากได้จนเกินควร กิเลสครอบงำ เพราะถ้าไม่อยากได้จนเกินควร ก็คงไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น เรื่องนี้เพราะความอยากได้ชนิดที่เรียกว่าไม่ลืมหูลืมตา จึงถูกหลอกถูกตุ๋นเสียจนเปื่อย ทำให้ชาวบ้านและสังคมมองว่า พระมีการซื้อขายตำแหน่ง ได้ตำแหน่งด้วยการจ่ายเงิน
 
"ความจริงแล้ว มหาเถรสมาคมและผู้เกี่ยวข้อง มีกฏเกณฑ์ในการพิจารณาอยู่แล้ว หากมีคุณความดี มีคุณสมบัติครบถ้วน ก็จะได้รับการเสนอเพื่อเลื่อนสมณศักดิ์อยู่เป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว เหตุที่เกิดขึ้นเพราะความอยากได้จนน้ำลายไหลของพระสงฆ์เอง น้ำลายไหลจนไม่ลืมหูลืมตา กลายเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋น ไปติดเบ็ดเขาเอง เป็นปลาตะครุบเหยื่อเสียบเบ็ดที่เขาวางไว้เอง เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ตอนจ่ายเงินให้สิบแปดมงกุฎ ก็ปกปิดเรื่องไว้ พอไม่ได้ตำแหน่งจึงรู้ว่าเสียท่าเขา ออกมาโวยวายแจ้งความจนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้น เรื่องนี้ขอฝากญาติโยมพุทธบริษัท ช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเรื่องในลักษณะนี้ในอำเภอใด ขอให้แจ้งมาที่เจ้าคณะจังหวัด เพื่อจะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และประสานผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดการกับเรื่องเหล่านี้ให้หมดไป" พระเทพวินยาภรณ์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"