posttoday

เชื่อหรือไม่...ทุ่งกุลาร้องไห้ก็ มีทะเล

10 พฤศจิกายน 2555

เมื่อกล่าวถึง “ทุ่งกุลาร้องไห้” ทุกคนที่ไม่เคยไปสัมผัสคงคิดในใจหรือจินตนาการถึงความแห้งแล้ง ความร้อนระอุ

โดย...นพรัตน์ กิ่งแก้ว

เมื่อกล่าวถึง “ทุ่งกุลาร้องไห้” ทุกคนที่ไม่เคยไปสัมผัสคงคิดในใจหรือจินตนาการถึงความแห้งแล้ง ความร้อนระอุ ไม่มีน้ำ ไม่มีต้นไม้ ต้นหญ้า เวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา นั้นคืออดีตที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเชื่อหรือไม่ว่าสวรรค์สรรค์สร้างให้ทุ่งกุลาร้องไห้ที่มีแต่ความแห้งแล้งกลับมามีชีวิตชีวา ด้วยน้ำมือของมนุษย์ สร้างสรรค์เติมแต่งให้เป็นแหล่งอู่ข้าวหอมมะลิชื่อก้องโลก

นั้นคือสิ่งแรกที่ฝีมือมนุษย์สรรค์สร้างขึ้น สิ่งต่อมาสร้างสิ่งมหัศจรรย์แต่งแต้มสีสันท้องทุ่งกุลาร้องไห้ คือ ขุดเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อการเกษตรจนกลายเป็น “ทะเลสาบทุ่งกุลา แม่น้ำสีคราม” ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อ ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ กับ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด อ่างแห่งนี้ขุดลึกตั้งแต่ 1-4 เมตร บนเนื้อที่ 150 ไร่ รอบบริเวณอ่างเก็บน้ำมีพื้นที่ทั้งสิ้น 750 ไร่

เชื่อหรือไม่...ทุ่งกุลาร้องไห้ก็ มีทะเล

หลังจากขุดเสร็จทางกรมชลประทานได้โอนให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ดูแลรับผิดชอบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนแรกที่ขุดน้ำก็ขุนตามธรรมชาติ แต่ไม่ถึงปีน้ำกลายเป็นสีครามไม่น่าเชื่อ เพราะในอดีตบริเวณนี้เป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ ทำให้เป็นตัวกลั่นกรองน้ำให้ใสจนเป็นสีฟ้าครามสวยงามเหมือนดั่งน้ำทะเลไม่ผิดเพี้ยน

คำแปลง ลุนนู นายก อบต.ไพรขลา เล่าถึงอดีตที่ผ่านมาว่า บริเวณดังกล่าวเป็นทุ่งกุลาร้องไห้ที่แห้งแล้งมาก จึงได้ประสานให้กรมชลประทานมาขุดทำเป็นอ่างน้ำเพื่อการเกษตรและกักเก็บไว้อุปโภคบริโภคหน้าแล้ง หากปีไหนฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาล แต่เมื่อขุดไปแล้วกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทะเลสาบ แม่น้ำสีคราม ที่สำคัญกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำคลายร้อนหน้าแล้งนี้

เพื่อปรุงแต่งเติมสีสันให้ทะเลสาบ แม่น้ำสีครามแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนครบวงจรยิ่งขึ้น ทางนายก อบต.ไพรขลา จึงมีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่รอบนอก โดยวางแผนสร้างสถานที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะทะลักมาเล่นน้ำคลายร้อนในช่วงหน้าแล้ง โดยไม่ต้องถ่อสังขารไปทะเลจริงๆ โดยทาง จ.สุรินทร์ ได้ทุ่มงบปี 2555 ส่วนหนึ่งและงบจากอีกหลายหน่วยงานปี 2556 ตลอดทั้งระดมของบ สส.เขต 3 จ.สุรินทร์ เป็นทุนทรัพย์ คาดว่ากลางปีหน้าจะเนรมิตทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นทะเลทุ่งกุลาร้องไห้สวยงามที่สุดด้วยน้ำมือของมนุษย์

ขณะเดียวกันจะผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.สุรินทร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเยี่ยมเยือนหลังจากไปเที่ยวชมการแสดงของช้างที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ แล้วยังไม่อิ่มหนำสำราญใจก็สามารถแวะเวียนไปเที่ยวทะเลสาบ แม่น้ำสีคราม เพียงแค่ข้ามสะพานแม่น้ำมูลไปทะลุบ้านสาโรจน์ ต.ไพรขลา ก็จะถึงเส้นทางหลวงสายท่าตูมชุมพลบุรี แล้วเลี้ยวขวาไปถึงสี่แยกบ้านข้าม เลี้ยวซ้ายไปบ้านโพนม่วง ระยะทางแค่ 20 กิโลเมตร ก็จะพบเห็นสิ่งมหัศจรรย์บนท้องทุ่งกุลาร้องไห้แล้ว

หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปได้หลายเส้นทาง เช่น จาก จ.สุรินทร์ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 214 จ.สุรินทร์ร้อยเอ็ด เมื่อมาสามแยกป้อมตำรวจทางหลวง อ.ท่าตูม ให้เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง อ.ชุมพลบุรี ประมาณ 22 กิโลเมตร ถึงสี่แยกบ้านขามโพนม่วง ให้เลี้ยวขวาไปบ้านโพนม่วงอีก 10 กิโลเมตร อีกเส้นหนึ่งหากท่านเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 2081 จาก อ.ชุมพลบุรี ไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 10 กิโลเมตร มาถึงสี่แยกบ้านขาม ให้เลี้ยวซ้ายไปบ้านโพนม่วง ต.ไพรขลา อีก 10 กิโลเมตร ก็จะถึงทะเลสาบน้ำสีครามแห่งนี้

มหัศจรรย์ “ทะเลสาบทุ่งกุลา แม่น้ำสีคราม” สวรรค์แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ฝีมือมนุษย์สรรค์สร้าง ไปแล้วรับรองไม่ผิดหวัง

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68