ฟ้าผ่าเศียรยักษ์แบกปรางค์วัดอรุณฯหัก
“สุกุมล”สั่งกรมศิลป์สั่งเร่งซ่อมเศียรยักษ์วัดอรุณฯ หลังฟ้าผ่าหัก ให้เสร็จก่อน 31 ต.ค. อธิบดีกรมศิลป์ชี้เป็นอุบัติเหตุไม่ใช่ลางร้าย
“สุกุมล”สั่งกรมศิลป์สั่งเร่งซ่อมเศียรยักษ์วัดอรุณฯ หลังฟ้าผ่าหัก ให้เสร็จก่อน 31 ต.ค. อธิบดีกรมศิลป์ชี้เป็นอุบัติเหตุไม่ใช่ลางร้าย
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่วัดอรุณราชวราราม ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการบูรณะคอม้า พร้อมตรวจสอบยอดพระปรางค์องค์เล็กด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ หลังเกิดฝนตก ฟ้าผ่าเศียรยักษ์ ที่ประดับอยู่ด้านบนหักหล่นลงมาเกิดความเสียหาย
นางสุกุมล เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนได้รับแจ้งว่า เกิดฟ้าผ่าลงมาที่ยอดพระปรางค์ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ยักษ์ประดับรอบๆ พระปรางค์ เกิดความเสียหาย เศียรยักษ์หลุดลงมาที่พื้นเบื้องล่าง จึงได้สั่งการให้ทางกรมศิลปากรได้เร่งบูรณะอย่างเร่งด่วนแล้ว คาดว่าสิ้นเดือนตุลาคมนี้ น่าจะแล้วเสร็จ ส่วนการบูรณะคอม้าพระปรางค์องค์เล็กที่เกิดหักหล่นลงมาก่อนหน้านี้ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกรมศิลปากรจะนำนั่งร้านออก เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามเช่นเดิม พร้อมกันนี้ สำนักโบราณคดี ยังได้จัดทำแผนของบประมาณปี 2556 -2558 จำนวนกว่า 39 ล้านบาท เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี บูรณะพระปรางค์องค์เล็กจำนวน 2 องค์ และมณฑปรายอีก 2 องค์ ส่วนของการบูรณะพระปรางค์ประธาน และภูมิทัศน์โดยรอบ จะดำเนินการในปี 2557 โดยใช้งบประมาณของกรมศิลปากรจำนวนกว่า 90 ล้านบาท รวมงบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 130 ล้านบาท
ด้าน นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เศียรยักษ์หักลงมานั้นคิดว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ไม่อยากให้คิดเป็นเหตุการณ์ไม่ดีหรือลางร้าย ที่สำคัญยังถือว่าโชคดีที่อุบัติเหตุดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับประชาชนหรือนักท่องเที่ยว เพราะจะเกิดความสูญเสียถึงชีวิตอย่างแน่นนอน
ขณะที่ นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่า สาเหตุของการที่เศียรยักษ์หล่นลงมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกหนักทำให้กระแสไฟวิ่งสู่สายล่อฟ้าซึ่งพาดอยู่ตรงเศียรยักษ์ที่ปรางค์บริวาร จึงเกิดการระเบิดขึ้นทำให้เศียรยักษ์กระเด็นหล่นลงมา โดยการบูรณะนั้นจะต้องมีการเจาะเดือย ทั้งด้านเศียรและคอยักษ์ เข้าด้วยกัน และเสริมความมั่นคงด้วยการฉาบปูนประสานให้ติดกลับไปเป็นเหมือนเดิม


