ชนสยองโค้งร้อยศพย่างสด4ศพ
รถเก๋งพุ่งชนบรรทุก6ล้อโค้งร้อยศพเมืองแปดริ้วแก๊สบึ้มย่างสด 4 ศพ
รถเก๋งพุ่งชนบรรทุก6ล้อโค้งร้อยศพเมืองแปดริ้วแก๊สบึ้มย่างสด 4 ศพ
วันนี้(12 ต.ค.)ร.ต.ท.อำพล วันดี ร้อยเวรสอบสวน สบ.1 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถเก๋งพุ่งชนรถบรรทุกหกล้อบริเวณยูเทิร์นกลับรถด้านหน้า อบต.คลองนครเนื่องเขต พื้นที่ หมู่ 7 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยหลังเกิดเหตุมีประกายไฟลุกไหม้รถทั้งสองคันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคนติดอยู่ในรถซากรถจึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่บนเส้นถนนสาย 304 สุวินทวงศ์ ด้านฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง บริเวณหลัก กม.ที่ 67 พบรถบรรทุกหกล้อขนาดใหญ่ ยี่ห้ออีซูซุไม่ทราบสีเนื่องจากถูกไฟลุกไหม้เกรียมทั้งสองคัน หมายเลขทะเบียน 81-5079 ฉะเชิงเทรา จอดคาอยู่ในลักษณะกำลังเข้ายูเทิร์นโดยที่ด้านท้ายรถปิดขวางอยู่บนช่องทางด้านซ้ายของถนนครึ่งเลนและค่อมปิดเลนด้านขวาสุด ส่วนหัวรถอยู่ในท่าเข้ายูเทิร์นที่ใต้ท้องรถบริเวณกลางคันด้านหน้าล้อหลังด้านขวาพบซากรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโลล่า ไม่ทราบสี ทะเบียน กข 2380 พิษณุโลกจอดอยู่ในลักษณะพุ่งชนเข้าไปยังใต้ท้องรถลึกเข้าไปเกือบครึ่งคัน
ทั้งนี้ภายในรถเก๋งมีซากศพของผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในจำนวน 4 คน โดยที่เบาะด้านหน้าซ้ายยังไม่ทราบเพศนอนพิงเบาะอยู่ในสภาพกะโหลกศีรษะเปิดออกส่วนที่เบาะคนขับมีผู้เสียชีวิตลักษณะเป็นชายสภาพถูกไฟไหม้เกรียมติดอยู่พบหลักฐานตามใบอนุญาตขับขี่ ทราบชื่อ คือ พ.ต.ธนุพล ธนภัทรภิทยา ทหารไม่ทราบสังกัด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 2 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี ขณะที่เบาะด้านหลังคนขับพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายยังไม่ทราบชื่อ
ส่วนศพที่เบาะด้านหลังซ้ายเป็นหญิงไม่ทราบชื่อแต่พบกระเป๋าถือสตรีตกอยู่ที่คอนโซนกลางรถมีหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่พยาบาล ชื่อ น.ส.มารยาท อ่อนพร้อม อายุ 42 ปี ระบุตำแหน่งเป็นพยาบาลหน่วยไตเทียมมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังพบเอกสารอื่นอยู่ในกระเป๋าสตางค์ที่ตกอยู่อีกหลายใบ คือ บัตรประจำตัวประชาชนของ จ.ส.อ.เฉลิมชัย อ่อนพร้อม อายุ 72 ปี ที่อยู่ 62 ม.2 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรีและใบขับขี่คนเดียวกันระบุที่อยู่เดิม 31 หมู่1 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานเป็นใบขับขี่ตกอยู่ภายในรถอีกหนึ่งใบ ระบุชื่อ นายอัธยา อ่อนพร้อม อายุ 34 ปี ที่อยู่ 31 ม.1 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก
ร.ต.ท.อำพล กล่าวว่า หลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากรอยล้อของรถบรรทุกพบว่ารถบรรทุกหกล้อซึ่งบรรทุกเศษเหล็กมาเต็มคันได้ขับปาดเข้ายูเทิร์นมาจากทางเลนด้านซ้ายค่อมปิดขวางมายังช่องทางด้านขวาเพื่อเข้าสู่ยูเทิร์น (ตีวงกว้าง)ขณะที่รถยนต์เก๋งขับมาด้วยความเร็วสูงในเลนด้านขวาจึงไม่สามารถหยุดรถได้ทันจึงพุ่งเข้าชนบริเวณถังน้ำมันกลางลำตัวรถบรรทุกจึงทำให้เกิดประกายไฟและเกิดการลุกไหม้ขึ้นและหลังเกิดเหตุคนขับได้หลบหนีไปทราบชื่อจากคนงานที่ไปรับเศษเหล็กมาด้วยกันเพียง นายเริญ ไม่ทราบนามสกุลและที่อยู่ เป็นพนักงานของ บริษัทเดชาสตีล โดยทราบชื่อเพียงผู้ที่นั่งมาด้วยในรถหกล้อด้วยกัน จำนวน 2 คน คือ นางบุษสบง อินธิจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่15 ต.บางน้ำเปรี้ยว และนายอนุชิต นพวรรณ์ อายุ 19 ปี อยู่เลขที่ 78/1 หมู่ 12 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม ซึ่งเป็นพนักงานของโรงงานปั้มโลหะชิ้นส่วนยานยนต์ในพื้นที่แห่งหนึ่งเท่านั้น
ด้าน นายสมัย นิลวิเวก อายุ 65 ปี อยุ่บ้านเลข 26/1 หมู่16 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะที่กำลังจะเดินทางกลับบ้าน หลังจากได้มาติดต่อราชการที่อบต.นครเนื่องเขต ได้ยินเสียงรถชนกันดังสนั่นจึงได้หันกลับมาดูจึงพบว่ามีรถยนต์เก่งชนติดอยู่กับรถหกล้ออยู่ที่บริเวณยูเทิร์นจากนั้นได้เห็นกลุ่มควันพรวยพุ่งออกมาจากภายในรถเก๋งจนเกิดเพลิงลุกไหม้จากบริเวณใต้ท้องรถเก๋งอย่างรวดเร็วจนไหม้เกรียมลามไปทั้ง 2 คัน ท่ามกลางเสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากคนที่ติดอยู่ภายในรถแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือเนื่องจากมีเสียงล้อยางของรถบรรทุกระเบิดอยู่ตลอดเวลานอกจากนี้ยังพบอีกว่า ภายในรถยนต์เก๋งนั้นติดตั้งแก๊ส เอลพีจีอีกด้วย
สำหรับยูเทิร์นกลับรถแห่งนี้นั้นมักเกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นบ่อยครั้งนับร้อยศพแล้วแต่ไม่มีคนตายเยอะมากพร้อมกันเท่ากับเหตุการณ์นี้มาก่อน นอกจากนี้รถดับเพลิงที่จะเข้ามาทำการควบคุมเพลิงในที่เกิดเหตุก็ยังมาล่าช้าอีกด้วยทั้งที่มีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอยู่ใกล้เคียงหลายแห่ง


