สร้าง"ฟิวเจอร์ทีม"ลุยไฮสปีดเทรน
"ชัชชาติ"ปิ๊งผุดโครงการฟิวเจอร์ทีมเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ร่วมทำงานโครงการรถไฟความเร็วสูง ลั่นไม่รับเด็กเส้น-เด็กฝาก
"ชัชชาติ"ปิ๊งผุดโครงการฟิวเจอร์ทีมเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ร่วมทำงานโครงการรถไฟความเร็วสูง ลั่นไม่รับเด็กเส้น-เด็กฝาก
ชัชชาติ
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า เป็นที่แน่นอนแล้วว่ารัฐบาลเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งต่อไปก็ต้องกำหนดโครงสร้างองค์กรในการบริหารโครงการด้วย อย่างไรก็ตามการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมนับเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นกระทรวงคมนาคม เตรียมระดมบุคลลากรที่มีความรู้ความสามารถร่วมดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ในรูปแบบคนรุ่นใหม่สร้างอนาคต ซึ่งภายใน 2-3 สัปดาห์จะมีการเปิดตัว
"คนไทยมีคนเก่งๆอยู่เยอะตามที่ต่างๆ เราก็จะทำดรีมทีมจิตอาสาเรียกว่าเดอะฟิวเจอร์ทีม เป็นการรวมคนรุ่นใหม่ที่อยากทำงานเพื่อประเทศชาติ รีครูทเรื่องการบริหารองค์กร เรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม" นายชัชชาติ กล่าว
รมช.คมนาคม กล่าวว่า รูปแบบเดอะฟิวเจอร์ทีม มีตัวอย่างทำมาแล้วญี่ปุ่น โดยทุกคนต้องการเห็นอนาคตประเทศ เพราะที่ผ่านมาฝากความหวังไว้กับคนรุ่นเก่าเยอะ ก็เลยมีความคิดว่าทำไมไม่เอาคนรุ่นใหม่ที่เก่งๆ ไม่มีผลประโยชน์มานั่งคุยกัน วางคอนเซปต์กัน
"กระทรวงคมนาคมได้กำหนดคุณสมบัติผู้สนใจร่วมเป็นฟิวเจอร์ทีม ซึ่งแน่นอนไม่รับเด็กเส้นเหมือนเด็กฝากแอร์พอร์ตลิงค์"นายชัชชาคิกล่าว
สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการได้กำหนดเอาไว้ดังนี้
1.ผู้ที่มีใจรักและอยากสร้างอนาคตของประเทศร่วมกัน
2.มีความตั้งใจมุ่งมั่นอย่างจริงจังและมีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
3.มีความรู้ความสามารถ ทักษะหรือมีประสบการณ์ในด้านต่างๆดังนี้
-ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม
-ด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและมวลชนสัมพันธ์
-ด้านปฏิบัติการ และควบคุมการคมนาคมขนส่งหรือโลจิสติกส์
-ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
-ด้านวางแผน บริหารจัดการหรือพัฒนาองค์กร และด้านอื่นๆ
4.ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและสมครได้ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (www.the-future.mot.go.th)
นายชัชชาติ กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะสร้างในระยะแรก 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง และเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน โดยวางขั้นตอนไว้ 5 ปี โดยในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ จะมีคณะกรรมการศึกษาใน 4 ด้าน ได้แก่ 1 ด้านเทคนิค 2. ด้านการเงิน 3. การสร้างมูลค่านอกเหนือจากค่าโดยสาร และ 4. การบริหารจัดการ โดยเชื่อว่าในปลายปีจะได้เห็นว่าจะมีสถานีในจุดใดบ้าง และมีแบบประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ได้ทันที โดยภายในไตรมาส 3-4 จะสามารถเริ่มการประมูลได้