‘เด็กไม่อยากจับดินสอเขียนบนกระดาษจริงๆ’ เสียงสะท้อนการใช้แท็บเล็ตเด็ก ป.1
“แท็บเล็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนหนึ่ง ซึ่งทุกสื่อมีข้อจำกัดในตัวเอง ปัญหาสำคัญที่เราพบจากเด็กของเราคือ
โดย...ธเนศน์ นุ่นมัน
“แท็บเล็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนหนึ่ง ซึ่งทุกสื่อมีข้อจำกัดในตัวเอง ปัญหาสำคัญที่เราพบจากเด็กของเราคือ เริ่มมีเด็กที่ฝึกเรียนศิลปะในแท็บเล็ตที่ไม่อยากจับดินสอจับสีเขียนบนกระดาษจริงๆ เพราะรู้สึกว่าที่ลงมือทำและเห็นในแท็บเล็ตสวยกว่าที่ทำเองจริงๆ ในกระดาษ
สิ่งที่น่ากังวลจากกรณีนี้ คือเด็กจะขาดกระบวนการเรียนรู้ที่เห็นถึงขั้นตอนในการลงมือทำ หรือสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งในชีวิตจริง พฤติกรรมการเรียนรู้ตรงนี้ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าไปหามาตรการป้องกันไม่ให้กระทบต่อการสัมผัสของจริงและฝึกใช้จินตนาการ” แสงระวี วาจาวุทธ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิต เล่าปัญหาที่พบจากการใช้แท็บเล็ตจากโครงการ “แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา” ของรัฐบาล
ในฐานะโรงเรียนราชวินิตเป็น 1 ใน 5 โรงเรียนนำร่อง ที่เคยชิมลางการเรียนการสอนด้วยแท็บเล็ต ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒรับเป็นเจ้าภาพโครงการวิจัยการประยุกต์ และบูรณาการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอน ได้แถลงผลการวิจัยไปแล้วตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ผลที่พบก็คือยังมีหลายเรื่องมีคำตอบจากการวิจัยที่คลุมเครือ ต้องใช้เวลาวิจัยต่อไปอย่างต่อเนื่อง แต่โครงการวิจัยนี้ก็ถูกพับไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเครื่องจากโครงการแท็บเล็ตมาถึงมือเด็กชั้น ป.1 โรงเรียนราชวินิต ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการทดลองใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียนอยู่ 2 เดือน พร้อมกับได้เร่งสรุปจุดอ่อนจุดแข็งของอุปกรณ์เพื่อการใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ก่อนจะนำไปสู่การค้นหาปัญหาที่จะตามมา
ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิต เล่าอีกว่า ในตอนแรกโครงการนำร่องโรงเรียนได้เริ่มดำเนินการกับ ชั้น ป.1 และ ป.4 โดยโรงเรียนวิตกกังวลกับการใช้เครื่องมือใหม่นี้ โดยตั้งเป้าหมายไว้ด้วยว่า ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่ให้งานวิจัยกระทบกับการเรียนการสอนตามปกติของเด็ก
“เรารู้ว่า แท็บเล็ตที่เราใช้เป็นสื่อใหม่ แน่นอนว่า สามารถกระตุ้นให้เด็กรู้สึกอยากรู้อยากเห็นได้มากกว่าสื่อเดิมๆ ที่เราใช้อยู่ ซึ่งไม่ได้ยินเสียง ไม่เห็นภาพ สื่อเก่ามีข้อจำกัด ทำให้เห็นสิ่งที่แบบเรียนกำลังพูดถึง ไม่มีตัวอย่างให้เห็นชัดแน่นอน
ข้อดีตรงนี้ทำให้ครูสะดวกในการสอนมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่เด็กมีความสามารถหรือพื้นฐานในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันมาก แทนที่ครูจะต้องจำจี้จ้ำไช สอนเด็กที่ตามไม่ทันก็ใช้สื่อในแบบเรียนที่มีในแท็บเล็ต ทำหน้าที่ทบทวนหรือย้ำสิ่งที่จะสอนได้ กรณีนี้เหมาะสำหรับพื้นฐานการเรียนรู้ของเด็กยุคต่อไป เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำความคุ้นเคยกับสื่อใหม่ๆ ที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน” แสงระวี ระบุ
นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่าข้อดีจากสื่อชนิดนี้ คือ สามารถเติมเต็มบางเรื่องที่ตำราเรียนไม่ได้ระบุหรือครอบคลุมถึง แต่สื่อการเรียนการสอนทุกชนิด ไม่ว่าจะดีเลิศเพียงไรก็ยังถูกกำกับด้วยข้อจำกัดในการเรียนรู้ของตัวเด็ก และเรื่องของระยะเวลาอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“ตัวเด็ก” หมายถึง อุปนิสัยของเด็กวัยนี้ในการเรียนรู้ มักจะได้รับการบ่มเพาะการเรียนรู้จากโลกภายนอกที่พวกเขาค่อยๆ ซึมซับจากทุกสิ่งรอบตัว
ขณะที่ “ระยะเวลา” ผู้อำนวยการแสงระวี บอกว่า ธรรมชาติของเด็กวัยนี้จะสนใจทุกเรื่องในระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าเรื่องนั้นจะหมดความน่าสนใจไปจากเด็กเอง
ด้วยความระมัดระวังจากกรณีดังกล่าว การเรียนการสอนโดยใช้แท็บเล็ตของโรงเรียนราชวินิต จึงได้มีการกำหนดระยะเวลาในการใช้ไว้สูงสุด วันละไม่เกิน 2 ชั่วโมง และเป็นไปตามที่สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดอยู่ในขณะนี้ คือยังใช้ในระบบออฟไลน์หรือยังไม่ได้เชื่อมกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต
ขณะเดียวกันเป็นการเสริมการเรียนรู้ด้านคอมพิวเตอร์จากเครื่องตั้งโต๊ะในระบบออนไลน์ตามชั่วโมงเรียนปกติ
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้ในบางวิชาต้องคัดลอกเนื้อหาจากเครื่องเป็นลายมือ บทบาทของแท็บเล็ตจึงชัดเจนว่า เป็นอุปกรณ์เสริมนอกเหนือจากตำราเรียน เช่นเดียวจากที่เคยเรียนจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนมอบบทบาทให้เป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น การเรียนการสอนในห้องยังต้องอาศัยครูผู้สอนคอยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด
“บทบาทของครูเป็นกุญแจสำคัญกว่าการเรียนโดยอาศัยแท็บเล็ตตามลำพังอย่างแน่นอน เมื่อก่อนตอนไม่มีแท็บเล็ตครูก็ต้องเตรียมการเรียนการสอนอยู่แล้ว แต่เมื่อมีแท็บเล็ต เราให้ครูบางกลุ่มสาระ ทั้ง 5 กลุ่ม ดูว่าเรียนอะไรถึงตอนไหนที่จะเปิดเนื้อหาที่มีอยู่จากแท็บเล็ตประกอบเพื่อต่อยอดได้อย่างแนบเนียนตรงนี้
ครูทั่วๆ ไปอาจจะเห็นว่า ถ้าต้องเตรียมเรื่องนี้ด้วย ก็สอนไปเองตามแผนเดิมเลยดีกว่า แต่ต้องไม่ลืมว่า ถ้าปล่อยให้เด็กเปิดเอง แต่ละคนก็คงเปิดไปคนละเรื่องถ้าครูไม่สนใจเรื่องนี้ ชั่วโมงเรียนก็หมดไปโดยไม่ได้บรรลุเป้าหมายในการเรียนในชั่วโมงนั้นเลย และใช้เรียนทั้งวันก็คงไม่ได้” ผู้อำนวยการแสงระวี ระบุถึงความสำคัญของครูในบทบาทการกำกับการสอนด้วยสื่อชนิดนี้
ย้อนกลับไปยังปัญหาที่เกริ่นไว้ในตอนต้น ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิต อธิบายว่า เริ่มสังเกตกรณีดังกล่าวจากวิชาศิลปะ เมื่อเริ่มมีแท็บเล็ตเข้าไปมีบทบาทในวิชานี้ก็เริ่มแสดงปัญหาบางเรื่องให้เห็น
“เด็ก ป.1 รุ่นนี้ ถือเป็นเด็กรุ่นใหม่ วันนี้พวกเขาเห็นว่า วิชาศิลปะในจอแท็บเล็ตสวยกว่าในกระดาษ เขาไม่ต้องการลงมือทำ โดยไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำ เขาไม่ได้ไตร่ตรองว่าเรื่องนี้สำคัญต่อจินตนาการ เปรียบได้กับการบวกเลข พวกเขากำลังคิดว่า มีเครื่องคิดเลขอยู่แล้วจะรู้วิธีคิดเลขไปทำไม แสดงว่าตัวกระบวนการที่จะให้เด็กเกิดการเรียนรู้ในยุคต่อๆ ไป ควรเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ กำลังมีปัญหาโตไปก็บวกเลขไม่ได้”
คำถามก็คือ เด็กจะกระด้างขึ้นหรือไม่ อีกเรื่องที่ไม่ค่อยมีการพูดถึงกันมากนัก แต่โรงเรียนได้เน้นมาก ก็คือเรื่องการปลูกฝังวินัยในการใช้แท็บเล็ต เราจะกำชับครูให้ปลูกฝังเด็กว่า ควรใช้ตอนไหน ควรเลิกตอนไหน เพราะปล่อยให้ใช้ตามใจไม่ได้ และเรื่องนี้หากจะให้กลับไปใช้ที่บ้าน ผู้ปกครองก็ต้องร่วมมือด้วย ไม่อย่างนั้นปล่อยกลับไปบ้าน ผู้ปกครองไม่ดูแล ก็สร้างนิสัยที่ไม่เหมาะสมให้กับเด็กแน่” แสงระวี กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีปัญหาด้านอื่นๆ ของแท็บเล็ตให้เห็นอีก แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบได้ชัดว่า จะมีรูปแบบอย่างไร เพราะยังมีแง่มุมมากมายให้มอง เพราะแท็บเล็ตเป็นเครื่องมือที่ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน เช่นเดียวกับสื่อคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป โดยต้องไม่ลืมว่า เด็ก ป.1 มีธรรมชาติที่เปราะบาง คือยังไม่สามารถแยกแยะหลายสิ่งได้ด้วยตัวเอง
แสงระวี ระบุว่า สิ่งใดที่จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเด็ก จึงเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ต้องเลือกหยิบยื่นสิ่งใดก็ตามให้กับเด็กวัยนี้อย่างรอบคอบ เข้าถึงปัญหาอย่างครอบคลุมที่สุด ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องที่ใหญ่ขึ้น สามารถตอบโจทย์ปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียน ป.1 ทั่วประเทศ 8.6 แสนคน ที่จะได้ใช้สื่อชนิดนี้หาความรู้ ซึ่งไม่ต่างจากการสร้างรากฐานให้อนาคต
ขณะที่ครูประจำชั้นนักเรียน ป.1 โรงเรียนราชวินิต เล่าว่า การสอนด้วยแท็บเล็ตยังไม่พบปัญหานัก เพราะได้จำกัดการใช้งาน ขณะที่ปัญหาเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่นั้น เนื่องจากโรงเรียนยังมีตู้ชาร์จที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานโดยเฉพาะ กับแท็บเล็ตในห้องเรียนที่มีเด็กประมาณ 40 คน 2 ตู้ จากโครงการนำร่อง และตู้ดังกล่าวตั้งเวลาชาร์จและตัดไฟหลังจากชาร์จเต็ม


