สุโขทัยยังอ่วม-ศรีสำโรงจม 2 เมตร

ตลาดเมืองสุโขทัยยังเจอน้ำซึมบิ๊กแบ็คทะลักเข้าท่วม ทหารเร่งขนกระสอบทรายอุด ขณะที่อ.ศรีสำโรงเจอท่วมสูง 2 เมตร

สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมากำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ได้ขนกระสอบทรายจำนวนมาก เข้าไปอุดรูรั่วของบิ๊กแบ็คซึ่งเป็นแนวป้องกันแม่น้ำยม ไม่ให้ไหลเข้าท่วมตัวเมืองสุโขทัย รวมทั้งต้องเข้าไปช่วยชาวบ้านอุดรอยรั่วพนังกั้นน้ำ บริเวณชุมชนคูหาสุวรรณ และชุมชนราชธานี

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าปริมาณน้ำยมยังคงรั่วซึมตรงบิ๊กแบ็กและไหลลอดเข้ามาตามท่อระบายน้ำได้ส่งผลให้ตัวตลาดเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมสูงเพิ่มขึ้น และได้ขยายวงกว้างไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ตรงสี่แยกไฟแดง เอ่อเข้าท่วมถนนบาลเมือง กับถนนวิเชียรจำนงค์ และไหลท่วมไปถึงถนนด้านหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี 

นอกจากนี้น้ำที่เอ่อล้นยังได้ไหลเข้าท่วมวัดและโรงเรียนวัดคูหาสุวรรณ กับวัดและโรงเรียนวัดไทยชุมพล ทำให้โรงเรียนทั้ง 2 แห่ง ต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว และจากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าว ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดเทศบาล ต้องขนย้ายข้าวของออกมาตั้งขายกันริมถนน ตรงบริเวณสี่แยกกลางเมืองสุโขทัย ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.สามเรือน ต.วัดเกาะ และ ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง ที่ถูกน้ำท่วมหมู่บ้านสูงเกือบ 2 เมตร ราษฎรกว่า 1,400 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดระดับน้ำที่ท่วมขังยังทรงตัว แม้ระดับน้ำในแม่น้ำยมจะลดลง 10 เซนติเมตรแล้วก็ตาม ส่วนที่ถนนสายสุโขทัย-ศรีสำโรง ตรงหน้าการประปาส่วนภูมิภาค หมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำยังคงท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้

ด้านนายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากสถานการร์น้ำจังหวัดสุโขทัยท่วมอีกระลอก นั้นและมวลน้ำดังกล่าวจะเดินทางมาถึงพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก คือ อ.บางระกำ อ.พรหมพิราม และ อ.เมือง  ในวันที่ 18 ก.ย. และจะส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมสูงขึ้นอีก 50-70 ซม. บางพื้นที่ลุ่มต่ำก็จะท่วมสูงกว่า 1 เมตร และทางจังหวัดพิษณุโลก ได้ประเมินความพื้นที่เสียหายนี้ระลอกใหม่นี้ไม่ต่ำ 60,000 ไร่ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากน้ำท่วมเดิมที่ท่วมเพียง 22,500 ไร่เท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวไปแล้ว มีบ้านเรือนประชาชนที่เดือดร้อนกว่าพันครัวเรือน

นายบุญยิ่ง กล่าวว่า ทางผวจ.พิษณุโลก ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมรับมือกับน้ำลูกใหม่นี้  พร้อมกับให้ผู้นำท้องที่ตรวจสอบสถานการณ์บ้านเรือนของประชาชนตนเองอย่างใกล้ชิด หากเดือดร้อนจากน้ำท่วมก็ให้รายงานตลอด 24 ชม.อีกทั้งในวันนี้จะมีการประชุมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำงบประมาณผู้ว่าราชการจังหวัด มาทำการช่วยเหลือในพื้นที่ประกาศให้เป็นประสบภัยพิบัติ โดยเฉพาะ อ.บางระกำ อ.พรหมพิราม และ อ.เมือง เป็นการด่วน

ส่วน สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลกเริ่มขยายวงกว้าง หลังจากน้ำจากจังหวัดสุโขทัยเริ่มไหลบ่ามาถึง  โดยเฉพาะที่หมู่ 10 บ้านวังขี้เหล็ก  ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม  จ.พิษณุโลก น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน  จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน  เส้นทางเข้าออกในหมู่บ้านหลายสายถูกตัดขาด  ต้องใช้เรือสัญจรแทนรถ  อีกทั้งขณะนี้ นาข้าวกว่า 5 พันไร่ในหมู่บ้าน ก็มีน้ำท่วมขังในระดับสูงกว่า 1 เมตรแล้ว 

นายฉลอง  ไม้หอม  อายุ 66 ปี ชาวบ้านต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม กล่าวว่า ขณะนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมใต้ถุนบ้านสูงกว่า 1 เมตร  รวมทั้งที่นากว่า 30 ไร่  ที่เก็บเกี่ยวแล้วก็มีน้ำเข้าท่วมในระดับสูงเช่นเดียวกัน  จึงได้นำลอบหาปลา ออกมาซ่อมแซม  เพื่อนำไปวางดักลอบในนาข้าว  โดยแต่ละวัน  สามารถหาปลาได้มากกว่า 10 กิโลกรัม  ซึ่งชาวบ้านก็จะนำมาประกอบอาหาร  เหลือก็จะทำปลาร้า  ปลาแห้งไว้ขาย   สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 200 – 300 บาท