posttoday

จราจรเชิงรุกถนนเมืองกรุงต้องปลอดภัย

11 กันยายน 2555

ต้องยอมรับว่า ปัญหาด้านการจราจรและอุบัติเหตุ ทวีความสำคัญเป็นที่สนใจของสังคมมากขึ้น

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

ต้องยอมรับว่า ปัญหาด้านการจราจรและอุบัติเหตุ ทวีความสำคัญเป็นที่สนใจของสังคมมากขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตกรุงเทพมหานคร ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าว คือ ตัวผู้ขับขี่ผู้ใช้รถใช้ถนนนั่นเอง

คนที่ต้องรับมือแก้ไขปัญหา และต้องดูแลความปลอดภัย คงหนีไม่พ้นตำรวจจราจร แต่ด้วยภาระหน้าที่บนท้องถนน ที่ต้องอำนวยความสะดวกให้รถยนต์ที่มีมหาศาลมากกว่าผิวถนน ก็นับว่ายากแล้ว แล้วยังต้องบวกเพิ่มตามหน้าที่ที่ต้องมาดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับผู้ขับขี่อีก ก็นับว่าสาหัสเอาการอยู่

ว่าแล้ว กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็สั่งการลงไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ทันที ต้องมีนโยบายที่ชัดเจนออกมาตั้งรับป้องกันอุบัติเหตุ และหวยก็ไปออกที่ พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ ผกก.3 บก.จร. ที่ต้องไปวางหมากแก้กลยุทธ์ทำให้ท้องถนนเมืองกรุงปลอดภัยให้ได้

ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกกับ พ.ต.อ.วีระวิทย์ ว่า ผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุมักจะเกิดจากความประมาท และทำอย่างไรจะให้ผู้ขับขี่ระมัดระวัง ละเว้นความประมาทที่นำไปสู่ความเสียหายได้ คำตอบที่ออกมาจึงจัดทำแผ่นปลิวแจกจ่ายทั่วกรุงเทพฯ ในหัวข้อ “จราจรห่วงใย เดินทางปลอดภัย มีวินัย เคารพกฎ”

“เมื่อก่อนเราตั้งรับอย่างเดียว” พ.ต.อ.วีระวิทย์ เปิดฉากพูดคุย และเล่าว่า แต่อุบัติเหตุก็ยังไม่ลดน้อยถอยลง เพราะที่ผ่านมาอุบัติเหตุเกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่ทั้งนั้น ดังนั้นเราต้องหามาตรการเชิงรุก ต้องเตือนสติให้คนเล็งเห็นถึงผลเสียของอุบัติเหตุที่ตามมาหากเกิดจากความประมาท และที่สำคัญก็ยังสร้างสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนผู้ขับขี่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย

จราจรเชิงรุกถนนเมืองกรุงต้องปลอดภัย

 

“ตำรวจจราจรในด้านหนึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการรักษากฎระเบียบในการขับขี่ใช้รถใช้ถนนให้เป็นไปตามกฎหมาย ได้แก่ การบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดฝ่าฝืน เพื่อให้เกิดความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรของสังคมโดยรวม และอีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีบทบาทหน้าที่ในการบริการ โดยการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนควบคู่ไปด้วย เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ความรู้เตือนสติแก่ผู้ขับขี่ อันจะทำให้ผู้ขับขี่ได้ตระหนักถึงหลักของความปลอดภัย ไม่ประมาท และมีวินัยการจราจรมากยิ่งขึ้น”

แนวรุกที่ว่าของ พ.ต.อ.วีระวิทย์ คือการกำหนดกลยุทธ์และมาตรการเชิงรุก ให้ตำรวจจราจรในสังกัดของ บก.จร. รณรงค์ให้ความรู้สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้ขับขี่ในโครงการ “จราจรห่วงใย เดินทางปลอดภัย มีวินัย เคารพกฎ” เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เข้าใจรับรู้ข้อมูลที่จำเป็นในการใช้รถใช้ถนนและการปฏิบัติตามกฎหมายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการเติมเต็มความห่วงใยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งลบภาพลักษณ์เดิมที่รู้สึกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจ้องแต่จะจับแล้วปรับอย่างเดียว เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกับผู้ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น

บก.จร.จะจัดทำแผ่นพับ ที่ระบุถึงวิธีการขับขี่รถบนท้องถนนให้ปลอดภัย “ควรรู้ ควรทำอย่างไร เมื่อขับขี่บนท้องถนน” และเริ่มแจกจ่ายตามจุดแยกต่างๆ ของเมืองกรุงภายในเดือน ก.ย.นี้จนถึงเดือน ก.ย. 2556 มุ่งเน้นสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผ่านอีกช่องทางหนึ่ง

พ.ต.อ.วีระวิทย์ ตั้งเป้าว่า เป้าหมายของโครงการนี้คือมุ่งเน้นเลยให้เกิดความปลอดภัย และต้องเคารพกฎหมายจราจร ยิ่งหากรถติดและมีแผ่นพับตัวนี้อยู่ก็สามารถเปิดอ่านดูอย่างน้อยก็ยังได้ฆ่าเวลา และได้ความรู้ความเข้าใจ ที่สำคัญอย่างที่บอกไว้คือให้เคารพกฎจราจร หากผู้ขับขี่ไม่นอกลู่นอกทาง ไม่ทำผิดกฎ ตำรวจก็เข้าไปจับไม่ได้อย่างแน่นอน อีกอย่างต้องการลบภาพเก่าๆ ของตำรวจจราจร ที่ประชาชนเห็นก็เริ่มมองในแง่ร้ายเข้ามาแล้ว

“ยุทธศาสตร์การป้องกันการฝ่าฝืนกฎจราจร โดยปฏิบัติเชิงรุกในการตักเตือนประชาสัมพันธ์ให้ความรู้สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อเป็นแนวร่วมหันมาร่วมกันแก้ไขปัญหา นำหน้าการปราบปรามจับกุมบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น” ผกก.3 บก.จร. ย้ำทิ้งท้าย

มุ่งเน้นสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนเมืองกรุง และสร้างการเคารพกฎจราจรให้แข็งขันมากขึ้น ต้องมาดูว่าโครงการนี้ของ บก.จร.จะมีผลการปฏิบัติเป็นรูปแบบใด แต่ทั้งนี้ต่อให้ทำอะไรลงไปมากน้อยเพียงใด แต่หากความประพฤติของประชาชนผู้ใช้ถนนไม่เปลี่ยน ปัญหาอุบัติเหตุก็ยากที่จะแก้