สธ.ประกาศยกระดับ "การปฏิบัติการด้านการแพทย์สูงสุด"
สาธารณสุขประกาศยกระดับ "การปฏิบัติการด้านการแพทย์สูงสุด" สั่งสำรองเตียงผู้ป่วยแล้ว 1,651 เตียง เลือด 5,366 ยูนิต และแพทย์-พยาบาลเต็มกำลัง
สาธารณสุขประกาศยกระดับ "การปฏิบัติการด้านการแพทย์สูงสุด" สั่งสำรองเตียงผู้ป่วยแล้ว 1,651 เตียง เลือด 5,366 ยูนิต และแพทย์-พยาบาลเต็มกำลัง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข กล่าว่า การประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหากเกิดเหตุรุนแรงในการชุมนุม หลังจากที่มีการเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศขอให้รัฐบาลยุบสภานั้นได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับชาติ ยกการปฏิบัติการเป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เพื่อให้สอดคล้องกับระดับความปลอดภัยของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่ประกาศรักษาความสงบระดับสูงสุดเช่นกัน โดยศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฯ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานกับศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินที่ 79 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์เอราวัณของ กทม. ซึ่งจะมีผลในการดึงบุคลากรและทรัพยากรในทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมปฏิบัติการได้ หากเกิดเหตุรุนแรงและมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
สำหรับพื้นที่จุดชุมนุมที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ได้มีการเตรียมศูนย์สั่งการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ไว้ 4 จุด คือ 1. ศูนย์สั่งการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ทิศเหนือ มอบให้โรงพยาบาลภูมิพลเป็นศูนย์กลาง และให้ศูนย์นเรนทรสั่งการ และมีโรงพยาบาลเครือข่ายส่งต่อ 5 แห่ง โรงพยาบาลอยุธยา โรงพยาบาลสระบุรี โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลนนทบุรี และโรงพยาบาลนครนายก 2.ศูนย์สั่งการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ทิศตะวันออก มีโรงพยาบาลนพรัตน์เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการ มีโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ทั้งหมด ได้แก่ โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา โรงพยาบาลสมุทรปราการ และโรงพยาบาลเอกชนอีก 2 แห่ง 3.ศูนย์สั่งการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ทิศใต้ มีโรงพยาบาลวิภาวดีรังสิตเป็นศูนย์กลาง โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมกับสภากาชาดไทย โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช มูลนิธิร่วมกตัญญู และโรงพยาบาลเมโย และ 4.ศูนย์สั่งการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ทิศตะวันตก อยู่ที่โรงเรียนวัดหลักสี่ และมีศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร มูลนิธิปอเต็กติ๊ง และมีโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลสังกัด กทม.เข้าเป็นเครือข่าย
อย่างไรก็ตาม มีการเตรียมการสำหรับโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างเส้นทางการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมอีกทั้งสิ้น 47 แห่ง เป็นโรงพยาบาลใน กทม. 21 แห่ง และโรงพยาบาลในต่างจังหวัด 26 แห่ง โดยมอบให้มูลนิธิปอเต็กติ๊งเป็นผู้ประสานเครือข่าย "
ขณะนี้ได้สั่งการเตรียมความพร้อมเต็มที่ โดยเตียงผู้ป่วยเบื้องต้นมีการสำรองไว้แล้ว 1,651 เตียง เลือดได้มีสั่งสำรองแล้ว โดยสภากาชาดไทยสำรอง 900 ยูนิต และในโรงพยาบาลทั่วประเทศรวมแล้ว 5,366 ยูนิต ออกซิเจนเตรียมพร้อมเต็มอัตราในทุกโรงพยาบาล รถหน่วยกู้ชีพ 88 คัน เรือ 42 ลำ ส่วนแพทย์และพยาบาลสั่งประจำเต็มเตรียมพร้อมอัตราแล้ว"นายจุรินทร์ กล่าว และว่า จากการชุมนุมทั้ง 2 วันที่ผ่านมา มีเพียง 2 รายที่เกิดเหตุชกต่อยเท่านั้น
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า อยากขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า ในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยกู้ชีพขอให้อำนวยความสะดวกในการเข้าไปดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บด้วย ซึ่งทั้งหมดจะแต่ชุดขาวและมีสัญลักษณ์หน่วยแพทย์ชัดเจน อย่างไรยอมรับว่าพื้นที่ถนนทหารราบที่ 11 ค่อนข้างคับแคบ อาจทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จำกัด จึงขอให้ช่วยกันอำนวยความสะดวกเต็มที่
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่สามารถให้คำตอบว่าจะยุบสภาตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องได้ และอาจนำไปสู่ความรุนแรงเพิ่มขึ้นนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ตอบชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลจะยุบสภาต้องมีเหตุผลรองรับ


