รบพิเศษ'ป่าหวาย'พร้อมลุย เปิดค่ายดัดนิสัยช่างกลตีกัน
เหลือเวลาอีกราว 1 สัปดาห์เท่านั้น ที่นักศึกษาอาชีวะจากกรุงเทพมหานครจะได้เดินทางมาเพื่อเข้าค่ายที่โรงเรียนสงครามพิเศษ
โดย...สุภชาติ เล็บนาค
เหลือเวลาอีกราว 1 สัปดาห์เท่านั้น ที่นักศึกษาอาชีวะจากกรุงเทพมหานครจะได้เดินทางมาเพื่อเข้าค่ายที่โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี เพื่อฝึกระเบียบวินัยและลดปัญหาช่างกลตีกัน ตามนโยบาย ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
พ.ท.วันชนะ สวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด รองโฆษกกองทัพบก จึงได้เปิดบ้านหน่วยรบพิเศษหมวกแดง เพื่ออธิบายให้เห็นว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้านักเรียนอาชีวะจะได้เจอกับอะไรบ้าง
ผู้พันเบิร์ด กล่าวว่า ในมุมมองของกองทัพบกต่อเรื่องเด็กช่างกลตีกันไม่ได้ถูกจำกัดความแค่ปัญหาเล็กๆ หากแต่คือภัยคุกคามต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่ ในรูปแบบเดียวกับปัญหายาเสพติด ภัยธรรมชาติ หรืออาชญากรรม โจร ขโมย ฯลฯ เพราะทำให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในสถานที่สาธารณะ เป็นสิ่งคุกคามความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างปฏิเสธไม่ได้
โครงการสุภาพบุรุษอาชีวะเพื่อนำนักเรียนช่างกล 150 คน จาก 66 สถาบัน เพื่อเข้าฝึกหลักสูตรเร่งรัดเพื่อสร้างความสำนึกต่อความรับผิดชอบต่อสังคมจึงเกิดขึ้น โดยคัดจากเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาทะเลาะวิวาทและเด็กปกติที่ไม่เคยมีปัญหา แต่พกอาวุธติดตัวไปโรงเรียนทุกวันเพื่อป้องกันตัว ซึ่งหลักสูตรนี้จะใช้ระยะเวลา 10 สัปดาห์ แบ่งเป็น 4 สัปดาห์แรกสำหรับการละลายพฤติกรรม และ 6 สัปดาห์หลังเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทั้งเรื่องความรับผิดชอบ แนวคิดการเป็นผู้ให้และความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก่อนจะส่งนักเรียนทั้งหมดมอบคืนให้กับสังคมต่อไป
“เหตุที่เลือกโรงเรียนสงครามพิเศษเป็นสถานที่ฝึก เพราะมีหน้าที่หลักเกี่ยวพันกับงานมวลชนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก อีกอย่างคือเมืองลพบุรีอยู่ไม่ไกลจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้นักเรียนสามารถเดินทางไปศึกษาดูงานในสายอาชีพที่เรียนมาได้อีกด้วย” ผู้พันเบิร์ด กล่าว
ด้าน พ.อ.อรรถพร เป้าประจักษ์ รองผู้บัญชาการโรงเรียนสงครามพิเศษ กล่าวว่า พร้อมแล้วที่จะรับมือกับนักเรียนกลุ่มนี้ พร้อมสำทับว่า แม้หลักสูตรการฝึกนักเรียนอาชีวะจะแตกต่างกับการฝึกหน่วยรบพิเศษปกติ แต่กลิ่นอายการฝึกทหารในถิ่นกำเนิดนักรบพิเศษหมวกแดงจะยังอยู่ครบถ้วนแน่นอน ทั้งการใช้ฐานฝึกอย่างการไต่เชือก ไต่ราว หมอบ คลาน บุคคลท่ามือเปล่า ไปจนถึงการกระโดดหอสูง พร้อมกับการฟิตซ้อมร่างกายให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของครูฝึกทั้งหมด 30 นาย ที่ผ่านการอบรมจิตวิทยาวัยรุ่นจากโรงพยาบาลอานันทมหิดล
“แต่เมื่อนักเรียนอาชีวะไม่ใช่พลทหาร ในบางวันก็จะมีครูอาชีวะหรือทหารช่างเข้ามาร่วมฝึกสอนในวิชาการ และวิชาชีพที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคตได้ด้วย” พ.อ.อรรถพร กล่าว
พ.อ.อรรถพร กล่าวว่า หลังการฝึกอบรมครบ 10 สัปดาห์ กองทัพบกจะติดตามเยาวชนกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กลับไปใช้อาวุธและความรุนแรงอีก ตลอดจนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองจากอบายมุข และความขัดแย้งระหว่างสถาบันอีกด้วย
รองผู้บัญชาการโรงเรียนสงครามพิเศษ กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ผลที่ได้จากการเข้าค่ายครั้งนี้จะไม่ครบทั้งหมด แต่ถ้าได้เป็นส่วนใหญ่ก็ถือว่าเป็นเป้าประสงค์ที่กองทัพบกพอใจ และพร้อมจัดทำโครงการต่อยอดเพื่อใช้ความรู้สายอาชีพของนักเรียนอาชีวะในการซ่อม แซมยุทโธปกรณ์ รถยนต์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ของกองทัพร่วมกันเพื่อให้เด็กช่างกลมีตัวตน มีพื้นที่ยืนในสังคม จนลดปัญหาสังคมลงได้ในที่สุด


