ปูชิ่งแจกรางวัลครุฑทองคำถวิล

นายกฯมอบ "ยงยุทธ" แจกรางวัลผู้บริหารราชการดีเด่น ขณะที่ "ถวิล เปลี่ยนศรี" ติดโผขึ้นรับรางวัลด้วย รับผิดหวังไม่เจอยิ่งลักษณ์

นายยงยุทธมอบรางวัลให้กับนายถวิล

นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)  ยอมรับผิดหวังที่น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ไม่ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลครุฑทองคำประจำปี 2553-2554 โดยนายกฯได้มอบหมายให้นายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยเป็นผู้มอบแทน  

“ผิดหวังนิดหน่อย  ผมตั้งใจในงานนี้ว่าจะได้รับรางวัลจากมือท่านนายกฯ  เพราะท่านนายกฯเป็นผู้บังคับบัญชา แม้ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับท่าน แต่ก็อยากได้รับรางวัลโดยตรงจากท่าน”นายถวิลกล่าว

ก่อนหน้านี้นายเมื่อวันที่ 10 ก.ค. อดีตเลขาสมช.ประกอบด้วย นายสุวิทย์  สุทธานุกูล นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ และนายถวิล ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านมติมติครม.เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่อนุมัติรับโอนพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกฯ ให้มาดำรงตำแหน่งรองเลขาสมช. และโอนย้ายนายสมเกียรติ บุญชู รองเลขาสมช. ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯแทน โดยขอให้นายกฯพิจารณาทบทวนใหม่   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำหนดการสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าเวลา 14.00 น. นายกฯเป็นประธานพิธีมอบรางวัลครุฑทองคำ ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล แต่เมื่อถึงเวลานายกฯมอบหมายให้นายยงยุทธ มาเป็นประธานมอบรางวัล ขณะที่นายกฯไม่ได้มีภารกิจไปไหนโดยเก็บตัวอยู่ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า 

สำหรับผู้บริหารราชการพลเรือนที่ได้รับรางวัลครุฑทองคำประจำปี 2553-2554 ตามที่สมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศพิจารณาคัดเลือก มี 9 คน โดยสายตำแหน่งปลัดกระทรวง ได้แก่ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  สายตำแหน่งอธิบดี 3 คน ได้แก่ นายอนุวัฒน์  เมธีวิบูลวุฒิ  อธิบดีกรมที่ดิน  กระทรวงมหาดไทย  นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  น.ส.ชุติมา  บุณยประภัศร  อดีตอธิบดีกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์  สายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด 3 คน ได้แก่  นายชวน ศิรินันท์พร  อดีตผวจ.แพร่   นายวิทยา  ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา   มล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่  สายตำแหน่งอธิการบดี ได้แก่ รศ. วุฒิชัย กปิลกาญจน์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  สยตำแหน่งเอกอัครราชทูต  1 คนได้แก่ นายวีรชัย พลาศรัย  เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ กระทรวงการต่างประเทศ    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้าราชการที่ได้รับรางวัลครั้งครุฑทองคำครั้งนี้  มี 3 คน ที่ถูกโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมือง โดยมี 2 คนที่ถูกโยกย้ายในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ คือ นายอนุวัฒน เมธีวิบูลวุฒิ  จากอธิบดีกรมที่ดิน ไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย  นายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาฯสมช.ไปดำรงที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ และนางสาวชุติมา บุญยประภัศร  จากอธิบดีกรมการค้าภายใน ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งถูกโยกย้ายในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายถวิล เปลี่ยนศรี  ที่ปรึกษานายกฯ และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  เปิดเผยถึงสาเหตุที่อดีตเลขาธิการสมช. 3 ราย  ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ให้ทบทวนมติครม.การโอนย้ายพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกฯ ให้มาดำรงตำแหน่งรองเลขาสมช. และโอนย้ายนายสมเกียรติ บุญชู รองเลขาสมช. ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯแทน ว่า  อดีตเลขาธิการ สมช. 3 ราย ถือเป็นลูกหม้อของสมช.  มีความเป็นห่วงหน่วยงานและขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ จากการที่มีการโอนย้ายข้าราชการระดับรองเลขาสมช. จึงทำหนังสือเปิดผนึกให้สาธารณชนรับทราบ ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่านายกฯอ่านหรือยัง แต่อยากให้ทราบว่าสถานการณ์ความมั่นคงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การที่จะนำคนมาทำหน้าที่ระดับสูงสมช. ต้องมีคนที่มีประสิทธิภาพ

"อย่างผมและอดีตเลขาสมช. รับราชการสมช. 30 ปี ยังต้องฝึกปรือใช้เวลาศึกษาเพิ่มเติม ดังนั้นคนที่ไม่ได้ฝึกปรือแต่บอกว่ารู้ทั้งหมดแสดงว่าคนนั้นไม่รู้ เพราะงานสมช.เปลี่ยนไปแล้ว  คุณสมเกียรติ ก็เป็นลูกหม้อของสมช. ทำงานมานาน แต่ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ   คนที่เข้ามาแทนก็ไม่รู้ว่ามีความสามารถแค่ไหน  อย่างพล.ท.ภราดา ที่เคยบอกว่ามีความรู้สมช. แต่ท่านก็หายไป เมื่อเข้ามาผมก็ไม่แน่ใจ"นายถวิล กล่าว 

นายถวิล กล่าวว่า   ระบบราชการเป็นกลไกการบริหารประเทศ ถ้ากลไกมีประสิทธิภาพ ก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะกลไกทางการเมืองที่มีความแตกแยกกันสูง กลไกราชการจึงมีความจำเป็น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ข้าราชการเสื่อมลงทั้งปัจจัยภายนอก จากฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง  และถูกแทรกแซงจากภายในเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้า มีการวิ่งเต้นใช้เส้นสาย  จึงฝากถึงนายกฯ ขอความกรุณาให้ความเป็นธรรมยึดมั่นหลักการคุณธรรม ถ้าทำได้กลไกราชการเป็นสิ่งสำคัญทำงานได้อย่างดี  

นายถวิล กล่าวว่า นอกจากฝากถึงนายกฯ ก็ขอฝากถึงข้าราชกาทุกคนว่า วันนี้ในงานรรับมอบครุฑทองคำ เป็นตัวอย่างดีที่สุด ไม่ได้มีวิธีพิสดารอะไร  แต่การรับรางวัลเป็นคุณค่าสำคัญของข้าราชการ ขอให้ข้าราชการทุ่มเทเสียสละยึดมั่น ขอให้มั่นใจในความดี ฝากถึงข้าราชการที่หลงทางอยู่ เพื่อประโยชน์ภายหน้า กฎแห่งกรรมมีอยู่จริง

ขณะที่นายสมเกียรติ กล่าวว่า หลังจากมีการโปรดเกล้าฯลงมา ตนจะพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะดำเนินการร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ในการโอนย้ายครั้งนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ห่วงตัวเองในการถูกโยกย้ายครั้งนี้ แต่ห่วงใยเรื่องงานในหน้าที่รับผิดชอบอย่างการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กำลังเดินหน้า ห่วงองค์กรสมช.ที่ถูกแทรกแซง และมีการโยกย้ายด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถยอมรับได้

“ผมรับผิดชอบเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มาเกือบตลอดชีวิตข้าราชการ หลายครั้งที่งานกำลังเดินหน้าและกำลังมีความต่อเนื่องต้องมาพบปัญหาเพราะมี การโยกย้ายบุคลากรที่รับผิดชอบอยู่เป็นประจำ ทำให้งานต้องสะดุดหรือต้องเริ่มทำกันใหม่ ไม่รู้เป็นเวรเป็นกรรมอะไรของพี่น้องชาวใต้ที่ปัญหาของพวกเขายังแก้ไม่ สำเร็จเพราะสิ่งเหล่านี้”นายสมเกียรติ ระบุ