ครม.มอบวรวัจน์นำทีมแจงศาลแก้รธน.
ครม. ส่ง"วรวัจน์"แม่ทัพพร้อมกฤษฏีกา ทนาย แจงศาลกรณีแก้ไขรธน. - ล้มการปกครอง.
ครม. ส่ง"วรวัจน์"แม่ทัพพร้อมกฤษฏีกา ทนาย แจงศาลกรณีแก้ไขรธน. - ล้มการปกครอง
การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 3 ก.ค. มีมติ มอบหมายให้ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมในการให้ปากคำกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ ครม. ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นอกจากนี้ ครม.มอบหมายให้ นายอัชฌาพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการรกฤษฏีกาและทนายความอีก 1 ราย ร่วมสนับสนุนข้อมูลและชี้แจงกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ครม.ได้จัดทำเอกสารประกอบเสนอศาลรัฐธรรมนูญในการไต่สวนครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายวรวัจน์ เคยเปิดเผยโพสต์ทูเดย์ ถึงแนวทางชี้แจงกับศาลรัฐธรรมนูญว่า จะเน้นให้การตามปรากฎการณ์ข้อเท็จจริงเป็นหลัก ไม่ได้ไปต่อสู้ทางข้อกฎหมาย ยืนยันว่าสิ่งที่จะไปให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญคือความจริงทั้งหมด ไม่ได้มีเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
“ผมจะเอาข้อเท็จจริงไปพูดว่า เจตนารมย์แก้ไขรัฐธรรมนูญคืออะไร เริ่มต้นจากนโยบายรัฐบาลบอกแล้วว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครม.จึงได้จัดทำร่างแก้ไขรธน.ขึ้นมา โดยข้อเท็จจริงร่างแก้ไขรธน.ของครม.ทำเสร็จหลังส.ส.ยกร่างไว้ด้วย ครม.จึงตัดสินประกบร่าง เมื่อสภารับพิจารณา ก็เป็นเรื่องสภาแล้ว ครม.ก็หมดหน้าที่ ครม.ไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย ผมเข้าไปทำงานในฐานะส.ส.ไม่ใช่ตัวแทนที่ครม.ส่ง ขอเอาหัวเป็นประกัน ไม่มีการล้มล้างตามที่กล่าวหา ถ้ามีมาตัดคอทิ้งเลย “ นายวรวัจน์ กล่าว
เมื่อถามว่าเพื่อไทยกำลังเผชิญหน้าตุลาการภิวัฒน์ วรวัจน กล่าวว่า ทุกวันนี้ เราต้องค่อยชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่ศาลมองว่า ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบ ซึ่งข้อเท็จจริง ยืนยันเลยว่าไม่มี จริงๆถ้าแก้กฎหมายเองก็ได้ แต่จะถูกกล่าวหาว่าทำเพื่อตัวเอง ก็บอกว่าให้ประชาชนเลือกเข้ามาแล้วแก้ โดยที่วางกติกาประชาธิปไตยต้องเป็นประชาธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ไม่เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
“เพราะฉนั้นคุณคิดมาได้เลยทำอย่างไรให้บ้านเมืองไปได้ ร่างรัฐธรรมนูญก็ต้องผ่านประชามติอยู่ดี สุดท้ายประชาชนบอกเองว่าใช่หรือไม่ใช่ สื่อมวลชนก็จะสามารถวิจารณ์กฎหมายรัฐธรรมนูญได้อย่างถึงพริกถึงขิงเลย เพราะทุกคนมีส่วนร่วม ถ้าสื่อมวลชนไม่เห็นด้วยสามารถโน้มนำกระแสสังคมได้อยู่แล้ว เพราะมีกระบอกเสียงในมือ”นายวรวัจน์ กล่าว