'เหล้าปั่นเห็ด'เมนูมรณะ ของแสลงนักท่องเที่ยว
เป็นคดีเสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากที่น.ส.โนเอมี เบลานเจอร์ และ น.ส.ออเดรย์ เบลานเจอร์ สองศรีพี่น้องชาวแคนาดา
โดย...ธนก บังพล
เป็นคดีเสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากที่น.ส.โนเอมี เบลานเจอร์ และ น.ส.ออเดรย์ เบลานเจอร์ สองศรีพี่น้องชาวแคนาดา เข้าพักที่โรงแรมพีพี ปาล์ม เรสซิเดนซ์ บนเกาะพีพี จ.กระบี่
ก่อนหน้านี้เธอทั้งสองเพิ่งกลับมาจากเที่ยวบาร์แห่งหนึ่ง แต่เมื่อผ่านไปหลายชั่วโมง จนกระทั่งแม่บ้านของโรงแรมต้องเข้าไปทำความสะอาดห้อง ภาพที่เห็นตรงหน้าแทบผงะ เพราะสาวทั้งสองคนได้เสียชีวิตแล้ว ภายในมีรอยอาเจียนทิ้งไว้หลายแห่ง
ตำรวจไม่พบว่ามีร่องรอยการฆาตกรรมพบแค่เครื่องใช้ส่วนตัวและยาหลายชนิด ซึ่งคาดว่าก่อนจะเสียชีวิตได้รับประทานยาชื่อว่า Ibuprofen ขนาด 400 กรัม จำนวน 1 แผง ที่ตกอยู่บนพื้นห้อง ซึ่งเป็นยาอันตรายห้ามรับประทานหลังจากดื่มแอลกอฮอล์
ตำรวจยังสรุปไม่ได้ว่าสาเหตุการตายมาจากอะไร แต่เชื่อว่าไม่ใช่การฆาตกรรมแน่นอน จึงต้องส่งให้ผู้ชำนาญการพิสูจน์อีกครั้ง และเมื่อยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการฆาตกรรม เรื่องน่าจะจบตรงนี้ แต่ก็ไม่ใช่
เพราะมีการยืนยันจากคนในพื้นที่ว่า ช่วงระยะหลังๆ สถานที่ท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ในภาคใต้ โดยเฉพาะสถานบันเทิงหลายแห่งทั้งในเกาะพีพีและเกาะลันตา นักท่องเที่ยวนิยมรับประทานเมนูยอดนิยมที่ทำมาจากเห็ดชนิดหนึ่ง
เมนูยอดฮิตติดลมบนคือ ไข่เจียวเห็ด และเห็ดปั่นผสมเหล้าแบบค็อกเทล หรือที่เรียกว่าเหล้าปั่น โดยเขียนภาษาอังกฤษว่า Menu Mushroom หรือที่ภาษาถิ่น เรียกว่า “เห็ดขี้ควาย”
เมนูที่ว่านี้เริ่มพบเห็นและเป็นที่นิยมอย่างมากในเกาะพะงันและเกาะสมุย ใน จ.สุราษฎร์ธานี แล้วหอบหิ้วสูตรเด็ดข้ามมายังเกาะพีพี จ.กระบี่
รสชาติเป็นอย่างไรก็สุดจะคาดเดา จะอร่อยกว่าไข่เจียวกุ้งสับหรือไม่ ว่ากันว่าคนที่ร่างกายไม่สามารถต้านทานได้ก็จะมึนเมาอย่างรุนแรง แต่กลับเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะค่ำคืน “ฟูลมูนปาร์ตี้”
ในคืนที่ฟ้านั้นไม่มีดาว เมนูเหล้าปั่นเห็ดสนนราคาตกอยู่ที่แก้วละ 500 บาท โอ๊ะโอ... แพงหูดับตับไหม้นี่ฝรั่งที่ไปฟูลมูนสั่งกันเยอะมาก
หากเป็นเมนูอาหารต้องซอยเห็ดให้เป็นเส้นๆ ใส่ไข่เจียว โดยนิยมนำไปทำเจียวแบบกึ่งสุกกึ่งดิบจิ้มซอสพริก กินแล้วเร่งสี หรืออัพขึ้นเป็นพักๆ เพ้ออยากเป็นโน่นอยากเป็นนี่
หากย้อนกลับไปดูประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2531) เรื่อง ระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 นั้น ปรากฏว่าพืชเห็ดขี้ควาย ที่มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า ไซโลไซเบ คิวเบนซีส ซิง (Psilocybe Cubensis, Sing)
พบมีผู้นำมารับประทานแล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยแก่ผู้บริโภค จึงสมควรควบคุมและปราบปรามพืชดังกล่าว โดยประกาศให้เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
ถ้าเป็นศัพท์ทางวิทยาศาสตร์พืชที่ให้สาร Psilocybin หรือ Psilocin หมายความรวมถึงส่วนต่างๆ ของพืชดังกล่าวด้วย เป็นต้นว่าดอกเห็ด ก้านเห็ด สปอร์ของเห็ด
ยาเสพติดประเภท 5 ถือว่าเป็นยาเสพติดเช่นเดียวกับ กัญชา กระท่อม ฝิ่น โทษทางกฎหมายเท่ากันเป๊ะ หากอธิบายแบบไฮโซก็ต้องบอกว่า เห็ดขี้ควายนี้ออกฤทธิ์กล่อมประสาทเช่นเดียวกับ LSD อาจเรียกว่า แอซิด เป็นสารเสพติดที่สกัดได้จากเชื้อราที่อยู่บนข้าวไรย์
เป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์หลอนประสาทรุนแรงที่สุด ผู้เสพนิยมเรียกว่า กระดาษเมา กระดาษมหัศจรรย์ หรือสแตมป์มรณะ
แต่ถึงแม้จะผิดกฎหมายและเป็นยาเสพติดประเภท 5 หากตรวจปัสสาวะอย่างละเอียดก็เจอเหมือนกัน แต่ถ้าเอาแค่ฉี่สีม่วงหรือไม่ม่วง อุปกรณ์การตรวจทุกวันนี้ยังไม่สามารถหาเจอ
ในขณะที่มูลนิธิหมอชาวบ้านยืนยันว่า เห็ดขี้ควาย เป็นพืชสมุนไพรอย่างหนึ่งที่สามารถนำมารักษาแก้ฝีดาษและใช้ทำยานอนหลับ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการตายของสองสาวแคนาเดียน แต่เมื่อฮือฮาขึ้นมาว่าเมนูเห็ดขี้ควายกำลังระบาดอย่างหนักในพื้นที่ท่องเที่ยวในภาคใต้หลายๆ เกาะ อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ก็ต้องคงรอดูต่อไปว่า สุดท้ายเหล้าปั่นเห็ดจะเป็นเมนูมรณะหรือไม่ และในเวลาอันใกล้นี้จะเข้ามาระบาดใน กทม. เพิ่มเป็นอีกหนึ่งปัญหายาเสพติดหรือเปล่า


