posttoday

อดีตอธิการมธ.เตือน อย่าผลักภาระให้ในหลวง

09 มิถุนายน 2555

สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า

สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า

ถ้ารัฐสภาลงมติในวาระ3 เห็นชอบกับการแก้ไขมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนต่อไปรัฐสภาต้องทูลเกล้าฯ เสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยภายใน 20 วัน ซึ่งเท่ากับว่ารัฐสภาได้เสนอเรื่องนี้ให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจเลือกว่าจะทำตามศาลรัฐธรรมนูญ หรือจะลงพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นทางเลือกที่จะสร้างความลำบากให้กับประมุขของรัฐ เป็นการผลักให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องเลือกข้าง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ เพื่อไม่ให้เอาภาระการวินิจฉัยไปตกอยู่ที่พระมหากษัตริย์

อดีตอธิการมธ.เตือน อย่าผลักภาระให้ในหลวง

สุรพล ระบุว่า แม้เรื่องนี้เป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะตัดสินใจดำเนินการ แต่แท้จริงแล้วเห็นว่าเป็นอำนาจของคนเพียง 3 คนเท่านั้น คือ ประธานรัฐสภา รองประธานรัฐสภา และผู้ที่มีอำนาจเหนือรัฐสภาที่อยู่ในต่างประเทศ แต่คนที่มีบทบาทสูงสุด อาจเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือรัฐสภาที่อยู่ในต่างประเทศ ที่จะเลือกใช้ดุลพินิจในทางที่เหมาะสม ไม่เป็นภาระ ไม่สร้างความกดดันต่อประมุขของรัฐ ให้ต้องวินิจฉัยเรื่องที่ยังมีความขัดแย้งในสังคม ก่อให้เกิดผลกระทบทางการเมืองอย่างรุนแรง

สุรพล กล่าวว่า ประธานรัฐสภาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากชะลอการพิจารณาเรื่องนี้ไว้ก่อนจนกว่าจะมีข้อยุติทางหนึ่งทางใด เพราะไม่เห็นว่าการรอการลงมติไว้จะก่อให้เกิดความเสียหายใดต่อประเทศชาติในปัจจุบัน

อดีตอธิการบดี มธ. กล่าวว่า ประเด็นการรับเรื่องผ่านหรือไม่ผ่านอัยการสูงสุด ในทางกฎหมายชัดเจนว่าผู้ที่มีอำนาจวินิจฉัยคือศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลมีอำนาจตีความ ซึ่งมีพื้นฐานทางกฎหมายรองรับ และอยู่บนพื้นฐานการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และการที่ศาลบอกให้ชะลอการพิจารณาก่อน ไม่ได้เป็นการวินิจฉัยชี้ขาด ฉะนั้นการดำเนินการชั้นต่อไปจึงอยู่ที่ดุลพินิจของรัฐสภาว่าจะทำอย่างไร

 

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ