posttoday

บังบด

13 พฤษภาคม 2555

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

คนรุ่นปู่ย่าตายาย หรือพระกรรมฐาน หรือใครที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาของพระกรรมฐานก็อาจเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยว “บังบด” จากปากของท่าน หรือจากประวัติของท่านในหนังสือที่เคยเล่าสู่ลูกศิษย์ลูกหาฟัง

“บังบด” หรือบางคนอาจเรียกว่า “ผีบังบด” เป็นชื่อที่คนโบราณเรียกขานกัน ว่ากันว่าเป็นเทวดาจำพวกหนึ่งอยู่ชั้นจาตุมหาราชซึ่งเป็นชั้นที่ต่ำที่สุด

ทว่ารูปร่างหน้าตา การแต่งเนื้อแต่งตัว การประกอบอาชีพก็เหมือนกับมนุษย์เราทั่วไปนั่นเอง เช่น เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เรียกว่ามีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ไม่ต่างจากมนุษย์

สถานที่อยู่ก็อยู่ในโลกมนุษย์นี่แหละ อาจจะอยู่ในหนองน้ำ ในป่า ในเขา ในจอมปลวก ในถ้ำ ที่โคนต้นไม้ ที่ปลายนา เป็นต้น แต่อยู่ในภพภูมิของเขา

เราไม่สามารถมองเห็นเขาได้นอกจากเขาต้องการแสดงตัวให้เราเห็นเอง หรือไม่ก็คนที่จะเห็นเขาได้จะต้องเป็นคนที่มีศีลธรรมบริสุทธิ์บริบูรณ์ เช่น พระสงฆ์ผู้ทรงศีล ซึ่งก็จะเห็นว่ามีพระกรรมฐานหลายรูปได้เห็นคนพวกนี้

ซึ่งปรากฏการณ์นี้ช่างสมกับชื่อเรียกที่ว่า “บังบด” เสียจริง เพราะถ้าจะสลับคำทั้งสองจากบังบดเป็น “บดบัง” ก็ยิ่งเห็นจะเห็นความหมายของคำว่าบังบดเป็นอย่างดี

แม้จะอยู่ในโลกมนุษย์ แต่ก็เป็นภพภูมิหนึ่งเฉพาะของเขาในโลกมนุษย์เท่านั้น ถ้าเขาไม่ต้องการให้มนุษย์เห็นเขาก็จะบดบังไม่ให้เห็นด้วยอำนาจของเขา แต่ถ้าต้องการให้เห็น เขาจะแสดงตัวให้เห็นเอง

อนึ่ง แม้มนุษย์จะทำอะไรในที่ที่เขาอยู่ก็ไม่ถือว่ากล้ำกรายกัน เพราะอยู่กันคนละภพ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบให้เข้าใจแล้วก็เหมือนอยู่บนกระดาษแผ่นเดียวกันแต่เป็นภาพสามมิติทำนองนั้น

อ.สวิง บุญเจิม เปรียญธรรม 9 ประโยค ปราชญ์เมืองอุบลราชธานี เล่าให้ฟังถึงเหล่าบังบดว่า “เป็นผู้ที่บูชาในคำสัตย์” อย่างยิ่งยวด และตั้งมั่นในศีลธรรมยิ่งกว่ามนุษย์

“ในเรื่องของการรักษาคำสัตย์ หรือศีลข้อที่ 4 มุสาวาทา เวรมณี มนุษย์ไม่ได้เศษเสี้ยวของพวกบังบดแม้แต่น้อย เพราะพวกมนุษย์ไม่ค่อยรักษาคำสัตย์กัน”

อาจารย์สวิงบอกว่า พวกมนุษย์ชอบแก้ตัว ไม่ค่อยยอมรับความผิดของตัวเองที่ก่อขึ้น ชอบปัดความผิดของตนไปให้คนอื่นอยู่เสมอ

“วันนี้พูดอย่างนี้ วันหน้าพูดอีกอย่าง ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวทำนองเดียว แต่ต้องพูดไม่ให้เหมือนหรือให้เพี้ยนไปจากเดิมเพราะต้องการเอาตัวรอด เหมือนกับนักการเมืองสมัยนี้”

เห็นได้ว่าพวกบังบดจะไม่ประพฤติตัวเหมือนพวกมนุษย์ แต่พวกเขาชอบในการทำบุญ เช่น ตักบาตร รักษาศีล และฟังธรรมอยู่เสมอ โดยเฉพาะการฟังธรรมก็จะไปฟังจากพระสงฆ์ของเรานี่เอง ซึ่งจะเห็นว่ามีพระกรรมฐานหลายท่านได้สนทนากับพวกบังบด

ในเรื่องการบูชาคำสัตย์ของพวกบังบด ปราชญ์เมืองอุบลเล่าให้ฟังว่า ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ อ.ค้อวัง จ.ยโสธร มีเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับพวกบังบด

กล่าวคือมีชาวบังบดมาขอยืม “ฟืมทอผ้า” (อีสานเรียกฟืมต่ำหูก) จากชาวบ้าน โดยบอกว่าถ้าทอเสร็จเมื่อไหร่จะเอามาคืนทันที แล้วเขาก็เอามาคืนเจ้าของจริงๆ

อ.สวิง เล่าว่า สมัยโน้นมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก จนชาวบ้านบางคนเกิดความสงสัยเพราะคนที่มาขอยืมก็ไม่ได้คุ้นหน้าคุ้นตาแต่ก็ให้ยืมไป แต่ด้วยความอยากรู้ก็แอบติดตามไปเห็นเขาเดินลงหนองน้ำแล้วหายไป

เพราะฉะนั้น อย่าได้แปลกใจถ้าเห็นใครที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาโดยเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมานั่งฟังเทศน์ฟังธรรมใกล้ๆ กับเรา ไม่แน่นะเขาอาจจะเป็นบังบดก็ได้

ว่าแต่สมัยนี้มนุษย์ไม่ค่อยมีความจริงใจให้กัน ไม่มีความซื่อสัตย์ต่อกัน ก็ยากนะที่เหล่าบังบดจะมาเกลือกกลั้วกับเหล่ามนุษย์

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’