จับแก๊งขโมยกะโหลกคนทำไสยศาสตร์
ตร.ปทุมธานีจับแก๊งลอบขโมยหัวกะโหลกจากโกดังเก็บศพวัด ก่อนนำไปตัดเป็นชิ้นเพื่อทำเครื่องรางของขลัง
ตร.ปทุมธานีจับแก๊งลอบขโมยหัวกะโหลกจากโกดังเก็บศพวัด ก่อนนำไปตัดเป็นชิ้นเพื่อทำเครื่องรางของขลัง
ตำรวจจังหวัดปทุมธานี จับกุม นายศิงขร เครือแดง อายุ 41 ปี นายนิพนธ์ ศรีสุข อายุ 38 ปี และนายวรเชษฐ์ ถาวรเพียร อายุ 18 ปี ทั้งสามคนเป็นชาว อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าเป็นต้นตอที่มาของหัวกระโหลกปริศนา แก๊งลักหัวกระโหลกยอมรับว่านำมาเพื่อทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดยตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลาง เศษขี้เถ้า 2 ถุง เลื่อยไฟฟ้า 1 อัน กระดาษรูปอักขระ 4 ชิ้น เลื่อยฉลุ 1 อัน เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เศษกระดูก 6 ชิ้น ตำราไสยศาสตร์ 8 เล่ม และเครื่องไอแพด 1 เครื่อง
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี พบกะโหลกมนุษย์ จำนวน 5 หัว มีลักษณะรอยเจาะเป็นวงกลมบริเวณหน้าผาก ด้านข้าง และด้านหลัง คล้ายกับการทำคุณไสย์ บรรจุอยู่ในกระสอบอาหารสัตว์ลอยน้ำมาติดอยู่บริเวณตอม่อใต้สะพานคลอง 13 หมู่ 6 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว กระทั่งวันที่ 29 เม.ย.เจ้าหน้าที่ทราบว่า นายวรเชษฐ์ ได้นำกะโหลกศรีษะไปขายให้กับชายคนหนึ่ง จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ โดย นายวรเชษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณต้นเดือน ก.ย.54 ตนร่วมมือกับ นายนิพนธ์ และ นายธวัชชัย อ่อนสมทรง ที่กำลังหลบหนีเข้าไปขโมยกะโหลกศรีษะที่โกดังเก็บศพภายใน วัดพิชิตปิตยาราม ย่านคลอง 13 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้นก็นำไปขายให้กับ นายศิงขร ในราคา 1,200 บาท แล้วนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปจับกุมตัว นายศิงขร ได้พร้อมของกลางดังกล่าว
นายศิงขร ให้การรับสารภาพว่า มีร้านมินิมาร์อยู่ที่คลอง 13 และเปิดสำนักสักยันต์อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยตนรับซื้อกะโหลกจากทั้ง 3 คนจริง เนื่องจากจะนำมาประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับคุณไสย หรือที่เรียกว่า ปั้นเหน่งสำหรับกะโหลกอีก 5 หัว ที่พบบริเวณตอม่อใต้สะพานคลอง 13 หมู่ 6 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นั้นตนเป็นคนขโมยมาจากสุสานเม่งหุย หรือมูลนิธิไตรสรณะพุทธสมาคมชลบุรี ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เพราะก่อนหน้านี้ เคยบวชเป็นพระที่ย่านดังกล่าว และเห็นมีหลุมฝังศพมาไม่ค่อยมีคนดูแ ลและสดวกแก่การขโมย
นายศิงขร กล่าวต่อว่า นายนิพนธ์ เป็นคนตัด และเจียร เนื่องจากมีฝีมือด้านการช่าง หลังจากนั้นจะนำมาทำเป็นฐานรองเทียนและธูป แล้วทำหุ่นสามีภรรยาหันเข้าหากัน เพื่อทำพิธีทางไสยศาสตร์ โดยกะโหลก 1 หัว จะเจียรได้ 4-6 ชิ้น ซึ่งตนศึกษาจากตำราที่วางขายทั่วไป ที่ผ่านมาทำแล้วหลายเดือน โดยมีลูกค้าที่มาทำเดือนละ 2 ราย ลูกค้าจะให้เงินครั้งละไม่เกิน 2,000 บาท แต่ที่ทำมาไม่เคยได้ผลเลย
ตำรวจระบุว่า กะโหลกที่ นายศิงขร ไปขโมยมาจากสุสานนั้นล้วนแต่มีชื่อของเจ้าของซึ่งกะโหลกแต่ละชิ้นนั้น มีร่องรอยผ่าพิสูจน์ และตัดเย็บมา ของสถาบันนิติเวชที่เก็บข้อมูล และกองพิสูจน์หลักฐานกลางที่เก็บพยานหลักฐาน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับ นายวรเชษฐ์ ว่าร่วมกันลักทรัพย์ ส่วน นายศิงขร และ นายนิพนธ์ ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นหรือรับของโจร


