ระวังพระปลอม หากินง่าย-รายได้ดี
นับเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนวงการพุทธศาสนาอยู่ไม่น้อย เมื่อพระสงฆ์ 2 รูป จากวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม
โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ
นับเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนวงการพุทธศาสนาอยู่ไม่น้อย เมื่อพระสงฆ์ 2 รูป จากวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม จ.ศรีสะเกษ คือ พระอภิรักษ์ ธัมรโต อายุ 37 ปี และพระวิรัตน์ จิตตธัมโม อายุ 66 ปี ก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนเป็นเหตุให้พระอภิรักษ์ลงมือฆ่าพระรุ่นพี่ ที่เป็นอดีตทหารยศพันเอกเกษียณราชการ เสียชีวิตคาวัด
คดีนี้ตำรวจติดตามจับกุมพระอภิรักษ์ไว้ได้ทันควัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าพระก่อเหตุฆาตกรรมพระด้วยกันเพราะอะไร พยานที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุพระทั้งสองรูป“นั่งดวดเหล้า” กันภายในกุฏิ ก่อนก่อเหตุสลดสะเทือนเมืองพุทธ
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สังคมพูดถึงความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์อีกครั้ง ต้องยอมรับว่าปัจจุบันยังมีพระจริง (บางรูป) ที่ประพฤติปฏิบัตินอกเหนือกิจของสงฆ์ ทั้งออกเรี่ยไร หรือเสพสุรา ยาเมา เคล้าสีกา และพระปลอมที่ยังคงมีอยู่ออกหากินโดยใช้ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน จนทำให้พระพุทธศาสนามัวหมอง
ยังไม่นับรวมอีกหลายเหตุการณ์ที่พระสงฆ์ (บางส่วน บางรูป) ก่อเหตุให้ชาวพุทธต้องสิ้นศรัทธา ไม่เว้นแม้แต่สาวประเภทสองที่มาอยู่ในคราบผ้าเหลืองอย่างไม่เหมาะสม ทั้งออกมาในรูปแบบภาพ หรือคลิปวิดีโอบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่แพร่ออกมาให้เห็นกันอย่างดาษดื่น
เรื่องนี้ “ตำรวจพระ” หรือที่เรียกอย่างถูกต้องว่า “พระวินยาธิการ” ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าคณะจังหวัด หรือเจ้าคณะปกครอง ต้องออกมากวดขัน
พระรัตนเมธี หัวหน้าพระวินยาธิการ กรุงเทพฯ อธิบายว่า คนที่จะเข้ามาบวชเป็นพระ ใช่ว่าจะเป็นคนดีทั้งหมด ต้องเข้าใจก่อนว่า “พระ” ก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ต้องมีทั้งด้านมืดและด้านสว่างอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะควบคุมกันได้มากน้อยแค่ไหน
อีกทั้งในปัจจุบันแต่ละวัดยังขาดการตรวจสอบคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาบวชอย่างถี่ถ้วน ถึงแม้จะมีข้อบัญญัติระบุชัดถึงข้อห้ามต่างๆ ไม่ให้บุคคลต้องห้ามบวชก็ตาม เพราะบางคนก็เข้ามาบวชด้วยเหตุผลหลากหลาย บ้างก็ไม่ได้มีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา หรือบางคนบวชเพราะผลประโยชน์ หรือที่เรียกว่าเกาะชายผ้าเหลืองหากิน ออกเรี่ยไรอย่างไม่ถูกต้องและถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎ
ทั้งนี้ ทำให้มีคนไม่ดีเข้ามาปะปนกับพระสงฆ์ที่ต้องการศึกษาพระธรรม พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง อย่างนี้ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นพระปลอมเช่นกัน เพราะว่าไม่ได้ช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนา กลับยิ่งมาทำให้เสื่อมลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ระยะหลังเริ่มมีพระปลอมออกมาเรี่ยไรกันมากขึ้น พระรัตนเมธี มองว่า น่าจะเกิดจากสภาพปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้คนเร่ร่อน คนตกงาน หรือไม่มีจะกิน ต้องหาผ้าเหลืองออกมาหาเรี่ยไร หรือบิณฑบาตหากินกับประชาชนทั่วไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งของกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ระบุเช่นกันว่า ที่เคยเจอพระปลอมมา หลังจากได้รับแจ้งจากประชาชนให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นชาวบ้านธรรมดาที่ตกงาน ช่วงเช้าก็แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ เอาผ้าเหลืองมาคลุมและออกบิณฑบาต สายหน่อยก็ไปเรี่ยไรเงิน อ้างจะนำไปต่อเติมโบสถ์ ศาลา เป็นต้น ตกบ่ายก็กลับที่พัก เมื่อจับได้และเข้าไปสอบถามก็ยอมรับว่า ทำจริง เพราะต้องหาเงินหาข้าวเลี้ยงดูลูกๆ
“โทษสำหรับพระปลอมเมื่อถูกจับได้ก็ไม่รุนแรง ทำให้ปัญหาพระปลอมไม่หมดไปเสียที ตำรวจจับได้มาก็ต้องปล่อย แน่นอนว่าก็ยังวนเวียนอยู่อย่างนี้ต่อไป หากจะแก้ปัญหากันจริงๆ จึงต้องมีมาตรการที่ชัดเจนกว่านี้ ทั้งโทษที่จะได้รับที่ต้องหนักมากกว่าเดิม คนจะได้ไม่กล้าออกมาปลอมเป็นพระหากินกันอีก” นายตำรวจคนเดิมเสนอแนะ


