ครอบครัวอัคฮาดลั่นรัฐต้องหาคนผิดมาลงโทษ
ครอบครัวอัคฮาหนุนพ.ร.บ.นิรโทษทุกฝ่าย-จี้หาตัวการสั่งฆ่าประชาชน-ชดเชยผู้ได้รับผล เห็นด้วยกับข้อเสนอนิติราษฎร์
ครอบครัวอัคฮาหนุนพ.ร.บ.นิรโทษทุกฝ่าย-จี้หาตัวการสั่งฆ่าประชาชน-ชดเชยผู้ได้รับผล เห็นด้วยกับข้อเสนอนิติราษฎร์
เมื่อเวลา 17.00 น. ครอบครัวน.ส.กมลเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาซึ่งถูกยิงเสียชีวิต ที่วัดปทุมวนาราม ในช่วงเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อเดือนเมษายน ปี 2553 นำโดย นางพะเยาว์ และนายณัทพัช อัคฮาด ซึ่งเป็นมารดาและน้องชายของน.ส.กมลเกด ได้จัดงานครบรอบวันคล้ายวันเกิด อายุครบ 27 ปี ที่บริเวณแยกราชประสงค์
ทั้งนี้ นางพะเยาว์ และนายณัทพัช ได้ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล รัฐสภา และสาธารณชน พิจารณาถึงแนวทางการสร้างปรองดอง ว่า 1.ข้อเสนอให้ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผู้ชุมนุมทางการเมือง และผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง ตั้งแต่ช่วงรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ทุกฝ่ายโดยเร่งด่วน เพื่อลดเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคมในวงกว้าง
2.เร่งให้มีการดำเนินการสอบสวนการเสียชีวิตและการพิจารณาคดีบนชั้นศาล กรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุม ดำเนินการไปอย่างไม่ล่าช้า ทั้งนี้ หากปรากฏว่าแกนนำนปช.เป็นผู้กระทำผิด ก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม และหากว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชากระทำผิด อาจพิจารณาให้นิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ระดับล่าง และต้องไม่ละเว้นการดำเนินคดีกับผู้สั่งการและผู้บังคับบัญชาในการสลายการชุมนุม
3.ให้รัฐบาลชดเชยค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจากการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่รัฐประหาร 19 ก.ย. ให้กับทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ และ 4. ส่วนกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวก ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบ 2 มาตรฐาน หรือกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ที่สืบเนื่องจากการรัฐประหาร 19 ก.ย. ควรดำเนินการตามแนวทางข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ ในการลบล้างผลพวงรัฐประหาร
ทั้งนี้ นางพะเยาว์ ได้อ่านแถลงการณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “วันนี้เมื่อ 27 ปีที่แล้ว น้องเกดได้เกิดมาในครอบครัวอัคฮาด แต่ตอนนี้ต้องจากไปขณะทำหน้าที่พยาบาลอาสาในสถานการณ์ที่ฝ่ายหนึ่งกำลังชุมนุม เพื่อยืนยันในหลักความยุติธรรม และอีกฝ่ายกำลังเคลื่อนกองกำลังติดอาวุธเจ้าสลายการชุมนุม วันนี้น้องเกดได้เกิดอีกครั้งในฐานะลูกของผู้รักความถูกต้อง รักเสรีภาพ รักประชาธิปไตย คบเพลิงแห่งเสรีชนยังสว่างไสวในความรู้สึกนึกคิดของคนทั้งแผ่นดิน”
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกรัฐมนตรี เข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อรดน้ำดำหัว นายณัทพัช กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลประชาชน เพราะนายกฯเป็นนายกฯของประเทศ และพล.อ.เปรมถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ดังนั้น เห็นด้วยกับการเข้าพบครั้งนี้
“ผมอยากถามกลับว่า ทำไมพล.อ.เปรมถึงมารับนัดนายกฯในวันนี้ ทั้งที่ตนประกาศตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ว่าจะมีการจัดงานรำลึก และยืนยันว่ากลุ่มญาติวีรชนยังคงสนับสนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต่อไป จนถึงวินาทีสุดท้าย เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะนำกระบวนการยุติธรรมเข้ามาใกล้เรามากที่สุด และยืนยันว่าเราไม่ได้ขัดแย้งกับรัฐบาล และในการออกแถลงการณ์เป็นการเสนอแนวทาง ไม่ใช่ความแตกแยก และเราจะเป็นตัวผลักดันให้รัฐบาลต่อสู้ พร้อมทั้งต้องขออภัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ทำให้มีประเด็นเกิดขึ้นมา และอยากถามพล.อ.เปรมอีกครั้งว่า การรับนัดครั้งนี้เพื่อต้องการกระแสน้องเกดหรือไม่”นายณัทพัช กล่าว
ภายหลังจบแถลงการณ์ นางพะเยาว์ได้นำอัฐิน.ส.กมลเกด มารดน้ำพร้อมให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่เข้าร่วมงานรดน้ำด้วย ทั้งนี้ ระหว่างประกอบพิธีน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้นำดอกไม้มาแสดงความเสียใจและร่วมรดน้ำอัฐฐิน.ส.กมลเกด ทำให้บรรยากาศในการจัดดังกล่าวเป็นไปอย่างโศกเศร้า
ต่อมาในช่วงเวลา 19.00 น. ทางครอบครัวและผู้มาร่วมงานได้มีการจุดเทียนอวยพรวันเกิดใหเกับ น.ส.กมลเกด
ทั้งนี้ นายณัทพัช ได้กล่าวบนเวทีว่า ขอให้พี่สาวไปสบาย ไม่ต้องโกรธแค้นเคืองใคร ให้รอเยาะเย้ยคนที่มาสั่งฆ่าพี่
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่น.ส.ขัตติยาเสร็จจากการร่วมพิธีรดน้ำอัฐฐิน.ส.กมลเกด ได้ขึ้นเวทีปราศรัยชั่วคราว โดยกล่าวว่า การมาในวันนี้ไม่ได้มาในสส.พรรคเพื่อไทย แต่มาในฐานะผู้สูญเสีย ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงไม่ลืมการสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ตนอยากให้ทุกคนมั่นใจในกระบานการยุติธรรม เพราะหากไม่เชื่อมั่นในกระบวนการดังกล่าว ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครได้อีก นอกจากตัวของเราเอง
“ดิฉันไม่ต่างจากแม่น้องเกด ที่อยากให้ผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบในบ้านเมือง ออกมาติดตามตรวจสอบ ดังนั้น ขอให้ทุกคนใจเย็น ทำทุกอย่างอย่างมีสติ และรู้ว่าการที่ดิฉันมายืนตรงนี้ไม่ใช่ตอบแทน แต่มาเพื่อต่อสู้ ขอให้ทุกคนอย่าหยุดต่อสู้ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง”น.ส.ขัตติยา กล่าว


