หวั่นท่วมซ้ำบานประตูเขื่อนนเรศวรพัง
ชาวพิษณุโลกหวั่นน้ำท่วมซ้ำหลังบานประตูเขื่อนนเรศวรพัง ผวจ.สองแควรุดตรวจสอบวอนอย่าตื่นตระหนกกู้ซ่อมแซมได้
ชาวพิษณุโลกหวั่นน้ำท่วมซ้ำหลังบานประตูเขื่อนนเรศวรพัง ผู้ว่าฯ รุดตรวจสอบวอนอย่าตื่นตระหนกกู้ซ่อมแซมได้
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่พื้นที่ใต้เขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำน่าน จำนวนมากแห่ไปดูบานประตูน้ำหลุดออกทำให้น้ำแม่น้ำน่านไหลอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหวั่นว่าน้ำจะท่วมในพื้นที่ใต้เขื่อนซ้ำรอยปลายปี 2554 โดยประตูน้ำเปิดปิดบานที่ 5 ของเขื่อนนเรศวร ที่มีขนาดความยาว 12.55 เมตร ยาว 7.66 เมตร ลึก 12 เมตร น้ำหนัก 28 ตัน ได้หลุดออก เนื่องจากสลิงขาดและชำรุด ทำให้บานประตู หลุดออกไปอยู่บริเวณใต้เขื่อน ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่านไหลอย่างรวดเร็ว
นายสาธิต บุตรสาจันทร์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม โครงการเขื่อนนเรศวร กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา บานประตูน้ำของเขื่อนนเรศวรได้พังและหลุดลง เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน ส่งผลให้สลิงที่รั้งประตูเขื่อนได้ขาด บานกระตูไหลไปกับน้ำและจมอยู่ใต้เขื่อน ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบและพบแล้วว่าบานประตูอยู่บริเวณจุดใด หลังจากนั้นก็จะนำรถเครน มาดึงขึ้นและซ่อมแซมบานประตูใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ส่วนระดับน้ำแม่น้ำน่านที่กักเก็บไว้ไหลออก ประมาณ 300-400 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งถือว่ายังน้อยไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
ด้านนายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก กล่าวภายหลังไปตรวจสอบเขื่อนนเรศวรว่าขณะนี้ ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมประตูระบายน้ำของเขื่อนนเรศวร เพื่อป้องกันชาวบ้านได้รับผลกระทบ และประกาศเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกสามารถซ่อมแซมได้ เพราะที่ผ่านมามีการบำรุงรักษาทุกๆ 3 ปี และในเดือนหน้าก็จะมีการซ่อมแซมแต่ก็มาพังเสียหายก่อน แต่ก็ถือว่าโชคดีที่มาเกิดในช่วงฤดูแล้ง ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนมากนัก เพียงแต่ส่งผลกระทบกับพี่น้องที่เลี้ยงประชังที่อยู่ท้ายเขื่อนประมาณ 200-300 ราย
ทั้งนี้ ในส่วนหัวเขื่อนนั้น ก็จะมีผู้เครื่องสูบน้ำไฟฟ้า อาจจะได้รับความเสียหายบ้าง ส่วนวิธีการแก้ไขในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่เขื่อนก็จะใช้ สต๊อบล็อค กั้นน้ำไว้ชั่วคราว หลังจากนั้นก็จะกู้บานประตูขึ้นมาและติดตั้งใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานก็จะกลับมาสู่สภาพปกติ จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกว่าเขื่อนนเรศวรแตกแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถป้องกันและแก้ไขได้อย่างแน่นอน


