ภัยในสถานีขนส่ง อันตรายที่ป้องกันได้

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

วายร้ายสมัยนี้ก่อเหตุอย่างไม่กลัวนรกจะกินหัว ล่าสุดที่เป็นข่าวครึกโครม พระสงฆ์รูปหนึ่งรอเดินทางด้วยรถไฟที่สถานีหัวลำโพง มีคนใจบุญนำ “นมถั่วเหลือง” มาถวาย โดยไม่มีใครคาดคิดว่าคนสมัยนี้จะปองร้ายต่อพระสงฆ์องคเจ้า ซึ่งลงเอยด้วยพระต้องหมดสติ รู้สึกตัวอีกทีก็มีคนนำท่านไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงฆ์

หมอตรวจพบยานอนหลับชนิดหนึ่งในร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกิดจากคนร้ายที่แฝงตัวเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีถวายนมถั่วเหลืองให้ฉันนั่นเอง

ที่น่าสนใจคือ โรงพยาบาลสงฆ์แห่งนี้ พบว่ามีพระสงฆ์อยู่ในอาการเดียวกันเข้ามารักษาตัวอยู่นับ 10 รูปในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา บางรูปพอหมดสติก็ยังถูกขโมยเอาเงินในยามไปจนหมด

สถานีขนส่งไม่ว่าจะเป็นหัวลำโพง สถานีรถไฟสถานีใหญ่ของประเทศ หรือตามสถานีขนส่งต่างๆ รอบกรุงที่เป็นจุดระบายคนออกไปยังต่างจังหวัด ทั้งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ หรือสถานีขนส่งเอกมัย ดูจะไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไป ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจัดการปัญหาลักษณะนี้แค่ไหน หรือต้องปล่อยไปตามยถากรรม

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างที่ “หมอชิต” ที่มีผู้คนเยอะแยะแทบจะตลอดเวลา แน่นอนว่าเมื่อคนเยอะ ปัญหาอาชญากรรมก็ต้องเยอะตามมา ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางซื่อนายหนึ่ง เล่าให้ฟังถึงปัญหาภายในหมอชิต ที่พบบ่อยจะเป็นการชิงทรัพย์ ลักกระเป๋าเดินทาง หรือชิงกระเป๋าสะพายไปต่อหน้าต่อตา

นอกจากนั้น จะมีปัญหาประชาชนถูกจี้ปล้น คนร้ายจะเลือกเหยื่อที่ดูลักษณะไม่ทันคน หลอกง่าย ทำทีเข้าไปตีสนิทด้วย เมื่อเหยื่อเผลอ หรือพาไปที่ลับตาคนได้แล้ว ก็จะจี้ชิงทรัพย์ทันที เหตุอย่างนี้จะพบบ่อยมากและจับคนร้ายยาก เมื่อได้ของไปแล้วจะออกจากพื้นที่ทันที

อีกปัญหาที่พบเห็นบ่อยไม่แพ้กัน คือการมอมยา ลักษณะที่พบคนร้ายจะนำน้ำมาให้เหยื่อดื่ม แสดงความมีน้ำใจ แต่ในน้ำก็ใส่ยานอนหลับเอาไว้ แต่ปัจจุบันคนร้ายใช้วิธีฉีดยาเข้าไปในกระป๋องหรือขวดน้ำเลย เพื่อหลอกให้เนียนที่สุด รวมถึงปัญหาขายตั๋วปลอม เหยื่อซื้อไปแล้วแต่ขึ้นรถไม่ได้ ผู้โดยสารก็ต้องเสียเงินเสียทองไปฟรี

พ.ต.อ.สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผกก.สน.บางซื่อ ยอมรับว่าปัญหาอาชญากรรมในหมอชิตมีจำนวนมาก ได้จัดสายตรวจลงพื้นที่ตลอดเวลา เพื่อคอยป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น การเกาะติดพื้นที่ทำให้คดีลดลงไปพอสมควร

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของกองบังคับการตำรวจรถไฟ ก็พบว่าบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงก็เกิดปัญหามากไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการลักทรัพย์บนรถไฟ ยิ่งเป็นขบวนที่วิ่งเวลากลางคืน ก็เป็นจุดล่อมิจฉาชีพให้ก่อเหตุอยู่ไม่น้อย

แน่นอนว่ากลางคืนผู้โดยสารหลับ คนร้ายก็ออกย่องเบาทันที เมื่อได้ของก็รีบลงสถานีถัดไป กว่าผู้โดยสารจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะตกเป็นเหยื่อ รองลงมาจะเป็นการทำร้ายร่างกายเพื่อชิงทรัพย์ ยิ่งเป็นผู้โดยสารที่ตกรถไฟและนอนพักอยู่ในชานชลายิ่งต้องระวัง

ปัญหาอาชญากรรม ทั้งลักวิ่งชิงปล้น มอมยารูดทรัพย์ ในสถานีขนส่งจะแก้อย่างไรให้หมดไป ตำรวจจึงต้องแสดงฝีมือเอาจริงเอาจังกัน ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์เข้ามาแล้ว ถ้าไม่เตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ ปัญหาจะกลับมาซ้ำเติมประชาชนจนเป็นข่าวซ้ำซากอีก