5อันดับรถยอดฮิต โจรจ้องเขมือบ...
รถยอดฮิตที่เป็นที่หมายปองของแก๊งโจรกรรมรถเวลานี้ต้องยกให้ โตโยต้า "วีโก้"เรียกว่าแรงจัด ประหยัดจริง สมคำโฆษณา พ่วงด้วยรถสุดหรูโตโยต้า "ฟอร์จูนเนอร์"
รถยอดฮิตที่เป็นที่หมายปองของแก๊งโจรกรรมรถเวลานี้ต้องยกให้ โตโยต้า "วีโก้"เรียกว่าแรงจัด ประหยัดจริง สมคำโฆษณา พ่วงด้วยรถสุดหรูโตโยต้า "ฟอร์จูนเนอร์"
โดย...อิทธิกร เถกิงมหาโชค
คุณจะรู้สึกอย่างไร...ถ้าเดินออกมาหน้าบ้าน แต่ "รถ"สุดที่รักต้องอันตรธานหายไป! ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถกระบะ หรือแม้แต่รถจักรยานยนต์ ทรัพย์สินพวกนี้หามาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย แค่รู้ว่า "รถหาย"หัวใจเจ้าของรถก็สลายไปพร้อมกับรถแล้ว
รถยอดฮิตที่เป็นที่หมายปองของแก๊งโจรกรรมรถเวลานี้ต้องยกให้ โตโยต้า "วีโก้"เรียกว่าแรงจัด ประหยัดจริง สมคำโฆษณา พ่วงด้วยรถสุดหรูโตโยต้า "ฟอร์จูนเนอร์"ที่ตกเป็นเป้าหมายนานข้ามปีมาแล้ว
นอกจากนั้น ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) ชี้ชัดในรอบปี 2551-2552 สุดยอดรถยนต์นั่งที่หายเป็นอันดับ 1 ยังเป็น ฮอนด้า แจ๊ซ คนร้ายมักเลือกฉกรถ "สตรี"เป็นคนขับโดนทุกสี ไม่มีข้อยกเว้นหรือเห็นใจ
รองลงมาคือ โตโยต้า วีออส กับ ยาริส ออร์เดอร์เพียบจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนรถกระบะยังเป็น วีโก้ รุ่นขับเคลื่อนสองล้อธรรมดา และดีแมคซ์ รุ่นไฮ-แลนเดอร์ ยกสูงสุดถูกใจลูกค้าใน "ตลาดมืด"ที่หายกันได้หายกันดีวันละหลายคัน...
มีข้อมูลจากสมาคมประกันภัย แจ้งสถิติรถหายเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2552 รวม 388 คัน
อันดับ 1 โตโยต้า Vios, Vigo, Tiger, Commuter, Camry,Fortuner รวม 98 คัน
อันดับ 2 อีซูซุ SPACECAB, SLX, EX, Hi-Lander รวม84 คัน อันดับ 3 ฮอนด้า Civic, City, Jazz, CR-V รวม 47 คัน อันดับ 4 มิตซูบิชิ Triton, Strada, Grandis, Mega cab,G-wa รวม 20 คัน อันดับ 5 มาสด้า Mazda 3, BT-50 รวม8 คัน อันดับ 6 นิสสัน TEANA, BIG M, FRONTIER, SUNNY รวม 5 คัน
ขณะที่สถิติปี 2551-2552 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ข้อมูลว่า รถยนต์นั่งที่หายอันดับ 1 โตโยต้า Vios สีบรอนซ์เงิน บรอนซ์เทา ดำ อันดับ 2 ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว อันดับ 3 โตโยต้า ยาริส สีแดง อันดับ 4 ฮอนด้า เก่าใหม่ทุกสี ส่วนรถกระบะ อันดับ 1 วีโก้ ทุกสี อันดับ 2 อีซูซุ ดีแมคซ์ โดยเฉพาะไฮแลนเดอร์ ส่วนรถตู้คือ โตโยต้า New Hiace Ventury สีขาว
พ.ต.ท.รณชัย โพธิ์มีสารวัตรหัวหน้าชุด ศปจร.ตร.ภาค 4 อธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานีมุกดาหาร นครพนม และร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งคดีรถยี่ห้อดังสูญหายมากที่สุด
เรื่องที่น่าตกใจก็คือ คนร้ายมีความชำนาญเข้าขั้น "มือโปร" และลงมือทำเป็นขบวนการใหญ่ แม้ว่าเจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์จะใช้ระบบล็อกรถดีเยี่ยมแค่ไหน ทั้งล็อกพวงมาลัย ล็อกชุดเกียร์ ล็อกคันเร่ง สารพัดจะป้องกันรถแล้ว แต่คนร้าย "มือผี"หรือจอมงัดแงะรถที่มาแค่คนเดียว ใช้เวลาแค่3 นาที ก็ปลดพันธนาการที่คุ้มกันรถได้อย่างง่ายดาย!
ในแต่ละปี ศปจร.ตร. รวบรวมสถิติรถหายทั่วประเทศพบไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคัน พื้นที่สีแดงที่มีคดีรถหายมากที่สุดไม่ใช่ที่ไหนไกล กรุงเทพมหานคร (กทม.) นี่เอง แค่สถิติปลายปี 2552 ก็ทะลัก 5,000 คันเข้าไปแล้ว เขตบางกะปิและเขตดินแดงครองแชมป์หายสูงที่สุด
แม้ว่าแก๊งโจรกรรมรถฮอนด้า ซีวิค รายใหญ่เมืองกรุง"อ๊อฟ ซีวิค" หรือ ปิยะวัฒน์ ภูคำใบจะถูกจับตายด้วยฝีมือพ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปจร.น. ที่ตามล่อซื้อมาถึงพื้นที่ สน.ห้วยขวาง และปิดบัญชีขบวนการลักรถตัวแสบไปได้อีกแก๊ง แต่ยังมีอีกกว่า 200 แก๊งที่ยังออกอาละวาดและไม่มีแนวโน้มจะลดจำนวนลงง่ายๆ
พ.ต.ท.อรรถพร บอกถึงพฤติกรรมแก๊งนี้ว่า ส่วนใหญ่เลือกลักรถฮอนด้า แจ๊ซ และซีวิค โดยต่อสายไฟตรงก่อนขับไปจอดรถทิ้งไว้ย่านถนนพุทธมณฑลสาย 1 หลังจากนั้นนายหน้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยอยู่ตามชายแดน
จะรับรถต่อเอาไปชำแหละอะไหล่ขาย หรืออาจจ้างวานร้านค้าย่านคลองถมปลอมทะเบียน และเอกสารรถ ก่อนออกเร่ขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
สนนราคาตกแค่คันละ 3-4 หมื่นบาท ตอนบอกขายก็อ้างไปเรื่อยข้างๆ คูๆ ว่าเป็นรถหลุดไฟแนนซ์หรือเป็นรถของกลาง เอาออกมาจำหน่ายราคาถูกในราคาพรรคพวกกัน ซึ่งแก๊งนี้ทำมาแล้ว 2-3 ปี ลักรถไปแล้วกว่า 100 คัน
รถหรูที่ถูกขโมยส่วนใหญ่เป็น "รถตลาด"แก๊งลักรถมักได้รับ "ใบสั่ง"จากนายหน้ามาก่อนแล้วว่าช่วงนี้คนเมืองฮิตขับรถแบบไหน ยี่ห้อ รุ่น ขนาด และสีไหนที่นิยม หลังจากนั้นจึงออกตระเวน "หาเหยื่อ" ในสถานที่ต่างๆ เพื่อหารถตามใบสั่ง
ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุดคือบ้านพัก กลับกลายเป็นแหล่ง "เป้าหมาย"ของมิจฉาชีพพวกนี้ กลายเป็นว่า หน้าบ้านพักอาศัย หอพัก อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม และแมนชัน นั่นแหละเสี่ยงถูกฉกรถมากที่สุด
ประสบการณ์ของชุดสืบสวน ศปจร.น. วิเคราะห์ว่าเป็นสถานที่ "จอดประจำ"คนร้ายจึงลงมือง่าย แค่ขับรถมาดูลาดเลา รู้จังหวะเข้า-ออกของเจ้าของรถ อาศัยทีเผลอ แค่นี้ก็กวาดเรียบร้อยทั้งคันไม่เหลือเงาให้ช้ำใจ
สถานที่จอดอื่นๆ ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยจากสายตามิจฉาชีพแนวนี้ ตามลานจอดตลาดสด ห้างสรรพสินค้าสถานบันเทิง ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน สถานที่พักผ่อนท่องเที่ยว และสวนสาธารณะ รถก็หายกันมานักต่อนักแล้วเช่นกัน
สำหรับรถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ที่มีการจดทะเบียนใช้งานอยู่ในเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคันก็หายบ่อยไม่แพ้กัน รถสวยๆ ที่นิยมในหมู่วัยซิ่ง เช่นยามาฮ่า ฟีโน่ ฮอนด้า คลิก ฮอนด้า เวฟ ฯลฯ
การลักรถจักรยานยนต์ยิ่งง่าย และแนบเนียนกว่าลักรถยนต์ ถีบคอแล้วต่อสายตรงก็ขี่ไปได้แล้ว สุดท้ายปลายทางก็คล้ายกันคือ ถูกส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน หรือไม่ก็แยกชิ้นส่วนขาย อีกแบบที่หากินง่ายๆคือ ลบหมายเลขเครื่องทำทะเบียนปลอมขาย
หนักหนาสาหัสกว่านั้นคือ แก๊งรับปล่อยเงินกู้หลอกเหยื่อให้ดาวน์รถจักรยานยนต์ แต่ไปแจ้งความรถหายแลกกับการได้กู้เงิน ใช้เงินดาวน์น้อย ปล่อยให้ดาวน์ 999 บาท เอาแค่สำเนาบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านของคนซื้อไว้
หรือไปแจ้งหาย ประกันภัยก็ไปจ่ายไฟแนนซ์ แก๊งพวกนี้มีนายทุนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตัวจริง นายทุนเอารถไปขายได้ 3 หมื่นบาท แต่ลงทุนจ้างชาวบ้านแค่ 5,000 บาท ทำอย่างนี้ 10 คัน ก็ได้เงินหลักแสนบาทแล้วก็แยกย้ายกันหลบหนี ย้ายถิ่นหากินเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ
ทางป้องกัน"รถหาย" ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นรถ 2 หรือ4 ล้อ พ.ต.ท.อรรถพร ยอมรับว่า ไม่มีวิธีใดที่ป้องกันได้ผลเต็ม 100% แม้จะใช้วิธีการล็อกแบบ 3 ง่ามที่ใช้กับรถยนต์ และล็อกดิสก์เบรกสำหรับมอเตอร์ไซค์ก็ตามแต่ที่สุดแล้ว "มือผี"แต่ละแก๊งก็หาวิธี "ปลดล็อก"ได้ไม่ยาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ป้องกันเลย และยื้อเกมลักรถให้นานที่สุด ดังนั้นการยึดหลักรู้เขา-รู้เรา เมื่อรู้ว่าโจรคิดแบบไหน ก็อย่าคิดว่าจะได้ "รถ"ไปเสี่ยงง่ายๆ !!!
ล็อกรถก่อนไม่มีให้ล็อก
ศปจร.น. แนะนำว่า หาก "รถหาย"ให้รีบแจ้งสายด่วน 1599 หรือแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุเพื่อความรวดเร็วในการติดตามสกัดจับคนร้าย และเพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวสารข้อมูลของรถที่ถูกโจรกรรมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับ "รถใหม่"ควรติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยเพิ่มเติม เช่น เปลี่ยนกุญแจใหม่ ติดตั้งชุดล็อกเกียร์ ล็อกครัตช์ ล็อกพวงมาลัย และสัญญาณกันขโมย ปิดโอกาสไม่ให้คนร้ายฉวยโอกาสโจรกรรมรถได้ง่ายๆ
การตกลงซื้อรถเก่าจากผู้ขายตามเต็นท์ขายรถต้องขอหมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง และสำเนาทะเบียนรถ มาตรวจสอบกับทะเบียนรถที่จดไว้กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อความรอบคอบ
ไม่ควรจอดรถในที่ส่วนบุคคล ที่สาธารณะ แม้จอดทิ้งไว้ระยะสั้นควรมีคนเฝ้าดูแล หรือยาม รปภ. ก่อนทิ้งรถควรไปตรวจสอบการล็อกกุญแจประตู และใช้อุปกรณ์กันขโมยให้ครบถ้วน อย่าทิ้งทรัพย์สินสิ่งของมีค่าไว้ในรถล่อตาคนร้าย บางครั้งรถไม่หาย แต่ของหาย
"เจ้าของรถ"ควรจดจำข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถของตนเองไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะตำหนิ รูปพรรณ พิเศษอื่นๆ โดยถ่ายเอกสารทะเบียนรถเก็บไว้รวมทั้งถ่ายรูปรถให้ปรากฏรอย ตำหนิพิเศษ เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ต้องล็อกล้อ ล่ามโซ่หากต้องจอดไว้ไกลตา นอกจากล็อกกุญแจคอเรียบร้อยแล้ว เพราะคนร้ายขโมยได้ง่าย หรือยกขึ้นรถกระบะได้สะดวก จึงต้องทำให้โจรกรรมยากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
ข้อควรจำจอดรถในห้างสรรพสินค้า
1.เจ้าของรถอ่านข้อตกลงที่ระบุไว้ในบัตรจอดรถอย่างละเอียด และควรเก็บบัตรจอดรถไว้กับตัว อย่าเก็บไว้ภายในรถเด็ดขาด
2.เลือกบริเวณจอดรถที่มีไฟสว่าง มีกล้องวงจรปิด ไม่ใช่มุมอับ มีเสาบัง หรือเปลี่ยว
3.ก่อนลงจากรถควรล็อกรถ หรืออุปกรณ์กันขโมยให้เรียบร้อย และก่อนออกจากห้างฯ ควรเดินดูรอบรถว่ามีสิ่งปกติหรือไม่
4.กรณีที่รถมีความผิดปกติ เช่น มีรอยขีดข่วนอุปกรณ์หาย หรือรถหาย อย่าเพิ่งขับรถออกจากห้างแบบไหน ก็อย่าคิดว่าจะได้ "รถ"ไปเสี่ยงง่ายๆ !!! ให้แจ้ง รปภ. รับทราบ และหากสะดวกถ่ายภาพก็ควรถ่ายเอาไว้ และอย่าเคลื่อนย้ายรถ
5.รปภ. มักจะแจ้งตำรวจในพื้นที่ในที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เช่น นำผู้เสียหายไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน นำหลักฐานมาขอดูภาพวงจรปิด
ข้อควรจำ ห้างฯ ส่วนใหญ่มักจะกำหนดในข้อตกลงว่า จะไม่ขอรับผิดชอบใดๆ จึงยากที่จะเรียกค่าเสียหายจากห้างฯ จำไว้!


