posttoday

ครม.ให้สุรพงษ์ประสานพม่าแก้หมอกควันเหนือ

06 มีนาคม 2555

ครม.สั่งสุรพงษ์ดูข้อตกลงขอความร่วมมือพม่าลดปัญหาหมอกควัน มอบ"เฉลิม"ลงพื้นที่ตามความคืบหน้า 3 วัน

ครม.สั่งสุรพงษ์ดูข้อตกลงขอความร่วมมือพม่าลดปัญหาหมอกควัน มอบ"เฉลิม"ลงพื้นที่ตามความคืบหน้า 3 วัน

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคํา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้รายงานสภาพปัญหาหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าเกณณฑ์มาตรฐานทรี่กำหนดให้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัม   

นายปรีชา  เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รายงานถึงการลงตรวจพื้นที่ 9 จังหวัด โดยมีการกำชับให้นำกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้ให้มีประสิทธิภาพ  ทั้งกฎหมายสาธารณสุข  ที่เกี่ยวกับมลภาวะเป็นพิษ  พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 20 กรณีที่มีผู้ทำให้เกิดเพลิงไหม้ไหล่ทางมีความผิด   พร้อมกันนี้ขอให้นำดาวเทียมจิสด้า มาถ่ายดูผลการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่และหลังปฏิบัติมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า   มีการรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันที่มากเกินเกณฑ์ปกติ ส่วนใหญ่มาจากประเทศพม่า ลุกลามมาถึงภาคเหนือของประเทศไทย  นายกฯจึงขอให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ไปพิจารณากรอบข้อตกลงต่างๆที่ทำกับประเทศพม่า เพื่อหาช่องทางคุยกับพม่าในการช่วยลดปัญหาหมอกควันได้หรือไม่  ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่เป็นเวลา 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้( 7 มี.ค. )  เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา ทั้ง  9  จังหวัด

นพ.สุรวิทย์  คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หารือกันถึงการแก้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีรายงานเพิ่มเติมว่าได้กระจายไปอีก 1  จังหวัด ทำให้มีจังหวัดประสบภัยแล้ว ได้แก่  จ.ลำปาง แพร่ ลำพูน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน และ ตาก 

นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า   น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำชับให้ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่และหาวิธีการแก้ปัญหาโดยเร็ว  รวมถึงให้กระทรวงมหาไทย นำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้ให้มีประสิทธิภาพกับผู้เผาป่า

ทั้งนี้ ได้นำเสนอนายกฯว่า  วิธีหนึ่งที่จะแก้ปัญหาได้ คือการรณรงค์ให้เกษตรกรเปลี่ยนวิธีเผามาเป็นการนำเศษใบไม้ใบหญ้ามาทำปุ๋ยชีวภาพ  ซึ่งเป็นผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการจัดทำเครื่องย่อยสลายใบไม้   เมื่อย่อยสลายใบไม้ซางข้าวโพด ก็นำมาเข้าสู่กระบวนการทำปุ๋ยชีวภาพต่อไป   โดยปัจจุบัน เครื่องย่อยสลายใบไม้มีจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว  ราคาเครื่อง 1.5 แสนบาท พร้อมกับใบมีด 3 หมื่นบาท รวม 1. 8 แสนบาท สามารถจัดซื้อให้  อบต. 917 ตำบตำบลที่ได้รับผลกระทบ ตำบลละ 1 เครื่อง คิดเป็นงบประมาณ 160 ล้านบาท  โดยนายกฯเห็นด้วยกับข้อเสนอ ส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยนำไปพิจารณาต่อไป

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?