posttoday

เด็กน้อยแห่ขายตัวมะเร็งร้ายกัดกินสังคม

12 ธันวาคม 2554

เป็นเรื่องน่าตกใจไม่น้อยเมื่อพบว่ามีเด็กสาวเพิ่งแตกเนื้อสาวมาหมาดๆหันหน้ามาขายบริการทางเพศ

โดย...วัลยศ งามขำ

ยังอยู่ในคราบของนักเรียนมัธยมปลาย หรือเด็กบางคนยังสวมชุดประถม หันหน้ามาขายบริการทางเพศ ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ เด็กเหล่านี้ล้วนสมัครใจพลีกายแลกกับเงินเพื่อนำไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอางเท่านั้น

จากการลงพื้นที่ของมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ทำให้รู้ทันทีว่าสัญญาณไม่ดีกำลังเกิดขึ้นกับบรรดาเด็กสาวโดยเฉพาะในภาคอีสาน กำลังหันหน้าสู่หุบเหวของวงการน้ำกาม และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นในเมืองใหญ่เหมือนข้อมูลเดิมที่มีอยู่ในมือเท่านั้น เพราะปัจจุบันการขายตัวของเด็กวัยประถมปลายและมัธยมต้น กำลังกินวงลงไปสู่ชุมชนหมู่บ้านที่ไม่มีแม้ห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อ

มหาสารคาม อุดรธานี ขอนแก่น เป็นจังหวัดหลักๆ ที่เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้น มนตรี สินทวิชัย หรือ “ครูยุ่น” เลขาธิการมูลนิธิบอกว่า พบข้อมูลมีเด็กชั้นประถมวัย 12 ปี อย่างน้อย 2 คน กลายเป็นเหยื่อการค้าประเวณีของหัวงูใน จ.มหาสารคาม จนต้องนำตัวเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อจัดการกับพวกชอบกินหญ้าอ่อน เด็กเหล่านี้ยังบอกด้วยว่า ไม่ใช่แค่เธอ 2 คนเท่านั้นที่หันหน้าสู่วงการค้ากามเพื่อแลกกับเงินเพียงครั้งละ 2,000 บาท แต่ยังมีเพื่อนอีกหลายคนกำลังถูกชักจูงเข้าสู่วงการนี้ด้วย

ครูยุ่นได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเด็กหญิงหลายคนถูกชักนำไปค้าประเวณี เหตุเกิดต่อเนื่องมาเป็นระยะแล้ว เป็นที่ทราบกันในหมู่บ้านหนึ่งของ ต.แวงดง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ทำให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ลงพื้นที่เกิดเหตุทันที

เด็กน้อยแห่ขายตัวมะเร็งร้ายกัดกินสังคม

จากการสืบข้อเท็จจริงก็ทราบว่ามีนักเรียนหลายคนทั้งเด็กประถมและมัธยมต้น เป็นเหยื่อค้าประเวณี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เพราะก่อนหน้านี้เรารับรู้แต่เพียงว่ามีเด็กนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้นที่ขายบริการทางเพศ แต่ครั้งนี้เป็นเด็กที่ยังไม่เป็นนางสาว เด็กไม่ได้ขายบริการแบบนัดเจอกันในห้าง แต่ขายกันในหมู่บ้าน หรือชุมชน ร้านหมูกระทะ เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ปัญหาหลักอีกอย่างหนึ่งคือ คนที่ซื้อบริการทางเพศไม่สนใจว่าเด็กจะมีอายุเท่าไหร่ เป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ดูด้วยว่าผู้หญิงที่มาขายบริการนั้นยังเป็นแค่เด็กชั้นประถม ในขณะที่ตัวเด็กเองหากปล่อยให้ขายตัวไปนานๆ ก็จะทำให้สูญเสียจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี เด็กจะแยกไม่ออก และจะเริ่มชักชวนเพื่อนๆ ให้เข้าสู่เส้นทางนี้ด้วย ที่สำคัญผู้ปกครองเด็กบางคนก็รับรู้แต่กลับไม่สนใจตักเตือน ปล่อยเลยตามเลย

“จากการส่งเจ้าหน้าที่ผู้หญิงไปพูดคุยกับพ่อแม่เด็กที่ขายตัว พบว่าบางคนไม่รู้สึกเสียใจที่ลูกสาวเป็นแบบนี้ เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากที่พ่อแม่คิดว่าลูกสาวเสียไปแล้วก็เสียไป จะอันตรายต่ออนาคตของเด็กมาก เด็กเองก็จะกลายเป็นเหยื่ออย่างไม่รู้ตัว ปัจจุบันมีพ่อแม่ลักษณะนี้จำนวนหนึ่งอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย” ครูยุ่น บอกข้อมูลน่าตกใจ

จากข้อมูลของมูลนิธิ พบว่าเด็กส่วนใหญ่ที่ขายตัว เพียงเพราะต้องการเงินมากินใช้ไปวันๆ เท่านั้น แบบเห็นเพื่อนๆ ทำก็ทำตาม บางคนก็เอาเงินไปซื้อเครื่องสำอางและเสื้อผ้า การขายตัวจะขายกันโดยตรงไปนัดเจอกันที่ร้านหมูกระทะ หรือตามรีสอร์ตเล็กๆ ที่เปิดเหมือนโรงแรมม่านรูด ซึ่งรีสอร์ตแบบนี้กำลังขยายตัวมากในชุมชนท้องถิ่น ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้มีการค้าบริการมากขึ้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลของตำรวจกองปราบปราม พบว่าการขายบริการของเด็กหรือหญิงสาวนั้นกระจายไปในหลายพื้นที่ ใน จ.มหาสารคาม ถือว่าเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นเมืองการศึกษา เป็นศูนย์การศึกษาของภาคอีสาน จึงมีนักเรียนนักศึกษาขายตัวกันมากในพื้นที่ อ.เมือง และใกล้เคียง ส่วนใน จ.ขอนแก่น เด็กนักเรียนหญิงมัธยมปลายก็มีการขายตัวกันสูง โดยจะอาศัยช่วงเวลาเลิกเรียนมาแอบขายบริการ ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านในเวลาปกติ

ส่วนที่ จ.อุดรธานี จะมีทั้งนักศึกษา นักเรียน ขณะเดียวกันก็มีการขายตัวของเด็กสาวชาวลาวแฝงมาด้วย ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

ข่าวล่าสุด

ญี่ปุ่นเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้ง หลังเหตุฟุกุชิมะ 15 ปี