posttoday

วัลลี2011น้องแจ๋วนิสิตม.นเรศวรยอดกตัญญู

03 ธันวาคม 2554

ปีพ.ศ. 2524 สังคมไทยได้รับรู้เรื่องราว ด.ญ.วัลลี ณรงค์เวช หรือ‘ด.ญ.วัลลียอดกตัญญู’นักเรียนเรียนชั้นป.5

โดย...ชิณวัฒน์ สิงหะ

ปีพ.ศ. 2524 สังคมไทยได้รับรู้เรื่องราว ด.ญ.วัลลี ณรงค์เวช หรือ‘ด.ญ.วัลลียอดกตัญญู’นักเรียนเรียนชั้นป.5 โรงเรียนวัดโรงธรรม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ที่แบกรับภาระหนัก ต้องวิ่งไปมาระหว่างโรงเรียนกับบ้าน เพราะต้องคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับแม่ซึงป่วยเป็นอัมพาตและช่วยดูแลยายชราซึ่งช่วยตนเองไม่ได้จนเป็นข่าวโด่งดังยุคนั้น

ปีพ.ศ.2554 หรือ ปี ค.ศ. 2011 ‘วัลลี2’ น.ส.ศันสนีย์ ชำนิเขตร์กิจ หรือ น้องแจ๋ว อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 3 เอกเคมี คณะวิทยาศษสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก แบกรับภาระหนักสาหัสสากรรจ์ไม่แพ้กันเพราะวิ่งรอกระหว่างห้องเรียนหอพักแสนสุขหลังมหาวิทยาลัยเพราะต้องคอยดูแลแม่ คือ นางสอน ชำนิเขตร์กิจ วัย 63 ปี ที่ล้มป่วยเป็นอัมพาตช่วยตัวเองไม่ ก่อนจะไปเรียนหนังสือ ขณะที่พักเรียนกลางวันต้องรีบกลับมาหอพักหาอาหารให้แม่รับประทานได้อิ่มท้อง ก่อนจะกลับไปเรียนหนังสือ ส่วนหลังเลิกเรียนก็จะรีบกลับมาดูแลแม่ที่นอนรออยู่ที่บ้านคนเดียว ซึ่งเป็นกิจวัตรที่น้องแจ๋วปฎิบัติต่อแม่ผู้บังเกิดเกล้าเช่นนี้ทุกวัน

วัลลี2011น้องแจ๋วนิสิตม.นเรศวรยอดกตัญญู

น้องแจ๋ว เล่าว่า ที่บ้านพ่อแม่มีอาชีพทำไร่ทำนา อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.1 ต.ไทรงาม อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร มีพี่ชาย 2 คน แต่แยกกันอยู่ เธอเป็นคนสุดท้อง จนกระทั่งช่วงสองปีที่ผ่านมา แม่ล้มป่วยลงและมีอาการไม่ดีเริ่มขยับตัวไม่ได้ หลังจากไปพบแพทย์ปรากฏว่าเป็นโรคเส้นเลือดตีบในสมอง ทำให้เป็นอัมพาตไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้แม่ต้องนอนอยู่บนที่นอนอย่างเดียว แต่สามารถพูดคุยได้

“ขณะเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ต้องขี่รถจักรยานยนต์ไปดูแลแม่ในเวลาว่างที่ จ.กำแพงเพชร และขี่รถจักรยานยนต์กลับมาเรียน ทำให้หยุดเรียนบ่อย ช่วงหลังไม่มีใครดูแลแม่ จึงตัดสินใจพาแม่มาอยู่ที่หอพักด้วย โดยทางลุงเนี้ยว กับป้าอยู่ เจ้าของหอพัก ได้อนุเคราะห์ให้ห้องพักอาศัยกับแม่ โดยจะไม่เก็บค่าเช่า แต่เกรงใจจ่ายเป็นค่าห้องเดือนละ 500 บาท”

ลูกสาวยอดกตัญญู เล่าต่อว่า เธอพาแม่มาอยู่หอพักด้วยเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ตอนเช้าทุกจะลุกขึ้นมาดูแลแม่ เช็ดอุจาระเก็บปัสสาวะให้ เช็ดตัวแม่ ป้อนยาแม่ และดูแลความเรียบร้อย หลังจากนั้นก่อนที่จะเตรียมตัวอาบน้ำไปเรียนหนังสือตามปกติ หลังถึงเวลาเที่ยงจะต้องรีบกลับมาดูแลแม่ป้อนข้าวป้อนน้ำ เอายาให้ทาน หลังจากเสร็จแล้วก็จะกลับไปเรียนต่อเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ได้นำาแม่มาอยู่ด้วย

“แม้ว่าต้องแบกรับภาระหนักทั้งเรียนหนังสือและดูแลแม่ควบคู่กันไป แต่ไม่เคยท้อแท้ ภูมิใจที่ได้ตอบแทนบุญคุณแม่ผู้ให้กำเนิด ที่ผ่านมาแม่ทำงานหนักและเหนื่อยกว่าเลี้ยงลูกเติบโตแม่เหนื่อยกว่านี้หลายเท่า หากมีเวลาว่างก็หาอาชีพเสริมรายได้ด้วยการรับจ้างอาจารย์เดินเอกสารได้ชั่วโมงละ 40 บาท ส่วนค่าเล่าเรียนหนังสือนั้นได้กู้เงินกองทุนการศึกษาทำให้ไม่ต้องรับภาระส่วนนี้”

วันพ่อปีนี้น้องแจ๋วคงไม่มีโอกาสได้กลับไปกราบเท้าพ่อที่จ.กำแพงเพชร หรือบอกรักพ่อเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากบิดาเธอจากโลกนี้ไปแล้วเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา หลังจากทราบว่าแม้ล้มป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบทำให้พ่อบังเกิดเกล้าเกิดความเครียดจนช็อคเสียชีวิต แต่น้องแจ๋วก็ไม่เคยปริปากบอกแม่ว่าพ่อจากครอบครัวไปไม่มีวันกลับเพราะกลัวแม่เครียดจนอาการทรุด หากแม่สอบถามถึงพ่อก็บอกว่าพ่อสบายดียังอยู่กับลูกชายที่กำแพงเพชร

“ทุกวันนี้ยอมรับว่าหนูลำบากมากๆ โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวัน เพราะไม่มีรายได้อะไร อนาคตเรียนจบแล้ว หนูอยากจะเป็นครูแม่พิมพ์ของชาติ” น้องแจ๋วกล่าวด้วยอาการเศร้าหมองปนเสียงสะอื้น

สำหรับผู้ใจบุญสนใจติดต่อช่วยเหลือทุนการศึกษาติดต่อที่เบอร์น้องแจ๋ว 08-0686-5141

 

ข่าวล่าสุด

ตำรวจไซเบอร์-ทหาร ถกเข้มชายแดนสระแก้ว เตรียมรับคนไทยจากกัมพูชากลับบ้าน!