โสภณชนเฉลิม ปริศนาเงินสุพจน์..ทุจริตรถไฟฟ้า
ปมการปล้นเงินของสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองทันที หลัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
ปมการปล้นเงินของสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองทันที หลัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
ออกมาฟันธงว่าเป็นเงินการทุจริตจากโครงการรถไฟฟ้าจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ระหว่างที่พรรคเพื่อไทยตั้งกระทู้ถามสดระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 24 พ.ย.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พ.ย. โสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะอดีต รมว.คมนาคม ก็มาตอบโต้ทันทีว่าเป็นการสร้างละครกลบเกลื่อน เรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องความล้มเหลว ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพร้อมขู่ฟ้องกลับ ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม ท้าทายให้ฟ้องพร้อมเดินหน้าคุ้ยเรื่องนี้ต่อไป
การตอบโต้ทั้งสองฝ่ายมีสาระสำคัญ ดังนี้
โสภณ กล่าวว่า กระทู้สดดังกล่าวถือเป็นการสร้างละครจัดฉาก โดยใช้สภาอันทรงเกียรติเป็นเครื่องมือในการสร้างละครเพื่อกลบ 2 ประเด็น คือ 1.การตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2.การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่มีการทุจริต
“ผมจะเตรียมฟ้องกลับ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ผู้ตั้งกระทู้ และ ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อให้ผมมีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเช่นกันว่าไม่เคยมีการทุจริต”
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสีม่วง (บางใหญ่บางซื่อ) และสีแดงว่ามีการทุจริตก็ไม่เป็นความจริง เพราะได้เคยชี้แจงไปแล้วตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าที่มีการยกเลิกสัญญาการวางรางที่ 5 เพราะผู้ได้สัญญาขาดคุณสมบัติและไจกาก็ยกเลิกสัญญาเพราะเห็นว่าขาดคุณสมบัติ และยืนยันไม่เคยมีการเอาเงินมาแบ่งกันตามที่กล่าวหา
ขณะที่โครงการสายสีแดงมีการลงนามทำสัญญาตั้งแต่รัฐบาลสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ส่วนโครงการสายสีน้ำเงินยังไม่มีการลงนาม ดังนั้นการหยิบยกโครงการสายสีต่างๆ เป็นเพียงการมาสร้างตัวเลขให้มันสูงเพื่อสร้างละครเบี่ยงเบนกระแส และสร้างเรื่องเพิ่มเข้าไปในกระแสความสนใจของประชาชนเกี่ยวกับการปล้นบ้านปลัดคมนาคม
ร.ต.อ.เฉลิม การตอบกระทู้สดเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ไม่ใช่เป็นการเล่นละครเพื่อกลบประเด็นทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ หรือน้ำท่วม แต่ประเด็นที่ชี้แจงไปมีข้อเท็จจริงว่าทำเป็นกระบวนการ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คนในต้องรู้ ไม่คนขับรถ คนที่นำเงินมาให้ หรือก็คนแบกเงินเข้าบ้าน โดยไม่ได้นำมาจากสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีแหล่งข่าวเชื่อถือได้นำข้อมูลมาบอกให้ทราบ นำภาพในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดมาให้
“เรื่องปล้นบ้านปลัด ผมยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่ามีเรื่องทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ผมไม่บอกนะว่ามีนักการเมืองคนใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ไม่ใช่ว่ากลัวถูกฟ้อง”
ทั้งนี้ ผมย้ำไปหลายครั้งแล้วว่า เกิดจากรถไฟฟ้าสายบางซื่อบางใหญ่ ที่ตอนแรกจะกู้เงินต่างประเทศ จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 2,000 ล้านบาท แต่ภายหลังปรากฏว่าไปกู้เงินจากไจกาแทน ทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวนั้นไม่ต้องเสีย แล้วพวกอุบาทว์ก็เอาเงินดังกล่าวไปให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เป็นพรรคพวก
“เพื่อความชัดเจน ผมเตรียมมาฉายหนังซ้ำอีกไม่เกิน 23 อาทิตย์นี้ รับรองสะเทือน ทั้งนี้ผมไม่จำเป็นต้องเล่นละคร เพราะอายุเยอะแล้ว หากเป็นสมัยอายุ 25 ปีก็ว่าไปอย่าง เพราะยังหล่อเฟี้ยว” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
การที่โสภณจะฟ้องกลับก็ทำได้เต็มที่ แต่อยากรู้ว่าจะฟ้องในข้อหาอะไร เพราะไม่ได้เอ่ยชื่อแต่คำเดียว แต่ทราบว่ามีนักการเมืองที่ยากจนไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ หากจับกุมโก้หัวหน้ากลุ่มได้ จะทำให้คดีมีความชัดเจนมากขึ้น และขณะนี้ได้ให้ตำรวจภูธรภาค 4 เดินทางไปประเทศลาวแล้ว
“หากผมไม่กลัวที่ถูกสื่อด่า จะส่งตำรวจไปค้นบ้าน 34 หลังข้างๆ เชื่อว่าจะได้อีกหลายพัน อย่าไปบอกใครนะว่าผมรู้จักโสภณ มาตั้งแต่ปี 2531 ตอนนั้นผมเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนโสภณเป็นครูประชาบาล อ.ลำปลายมาศ หากเจอหน้าจะหยิกแก้มสักที” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว


