หนุ่มใหญ่คลั่งยิงเพื่อนบ้าน 2 ศพ
หนุ่มใหญ่ขี้โมโห ควงปืนวิ่งไล่ยิงเพื่อนบ้านพ่อ-ลูกดับ 2 ศพ เหตุเครียดทะเลาะกันหลังเพื่อนบ้านถูกแจ้งตำรวจจับข้อหาถ้ำมอง หลังก่อเหตุจ่อขมับยิงตัวเองอาการเป็นตายเท่ากัน
หนุ่มใหญ่ขี้โมโห ควงปืนวิ่งไล่ยิงเพื่อนบ้านพ่อ-ลูกดับ 2 ศพ เหตุเครียดทะเลาะกันหลังเพื่อนบ้านถูกแจ้งตำรวจจับข้อหาถ้ำมอง หลังก่อเหตุจ่อขมับยิงตัวเองอาการเป็นตายเท่ากัน
เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.จักรวาล แก่นเรณู พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 68/66 หมู่ 10 ซอยเอกชัย 10/1 แยก 2 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม.จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบก.น.9 พ.ต.ท.วิฑูรย์ นุชบุษบา สวป.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส.สน.บางขุนเทียน พบรถจักรยานยนต์( จยย.)ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บยพ 323 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่กลางถนนข้างรถพบศพ นายเรวัติ กรกนก อายุ 56 ปี อาชีพรับจ้างใส่ตลับพระเครื่อง อยู่ท่าพระจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 68/72 ภายในซอยดังกล่าว นอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายพราง นุ่งกางเกงขาสามส่วนลายสก๊อต มีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงเข้าที่ราวนมซ้าย 1 นัด ข้อศอกซ้าย 1 นัด และแผ่นหลัง 3 นัด ห่างไปประมาณ 1 เมตร พบศพ น.ส.สาวิตรี กรกนก อายุ 30 ปี ลูกสาวนายเรวัติ ทำงานตำแหน่งหัวหน้าแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาท่าพระ อยู่บ้านเลขที่ 68/70 ซอยเดียวกัน นอนหงายอยู่ในชุดเครื่องแบบพนักงาน มีบาดแผลถูกอาวะปืนขนาดเดียวกันยิงเข้าที่ใต้รักแร้ซ้ายทะลุอกซ้ายตัดขั้วหัวใจ 2 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม.ตกกระจัดกระจายอยู่ 6 ปลอก ทางตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุยิงสองพ่อ-ลูก ทั้งสองรายเสียชีวิตชื่อนายยงเกียรติ สังวรกุล อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านใกล้กับผู้ตายทั้งสอง มีอาชีพขายแผ่นซีดีในตลาดคลองถม อยู่บ้านเลขที่ 68/71 หลังก่อเหตุวิ่งถืออาวุธปืนเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน จึงช่วยกันวางกำลังล้อมเอาไว้เกลี่ยกล่อมให้ยอมมอบตัว เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง ตำรวจตัดสินใจนำคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่มาเตรียมเอาไว้ตัดแม่กุญแจหมายจะเข้าชาร์จตัว แต่เมื่อนายยงเกียรติ มือปืนเห็นจึงใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุจ่อขมับขวาตัวเองและเหนี่ยวลั่นไก จำนวน 1 นัด กระสุนทะลุขมับซ้ายทำลายเนื้อสมองอาการสาหัส ตำรวจจึงรีบพังประตูบ้านช่วยกันหามร่างให้หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล เบื้องต้นขณะนี้แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประคองชีวิตเพื่อรอการตัดสินใจอีกครั้งว่าจะทำการผ่าตัดหรือไม่
นางชลทิศ เสรีสันติกุล อายุ 52 ปี ญาติผู้ตาย อยู่ในซอยเดียวกันให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไหว้พระอยู่ในบ้านได้ยินเสียงปืนดังติดกันหลายนัดเลยออกมาดูพบร่างพ่อกับลูกสาวเหยื่อกระสุน นอนแน่นิ่งอยู่กลางถนน โดย นายยงเกียรติ ถืออาวุธปืนเดินเข้าไปกบดานในบ้านพักอย่างใจเย็น ส่วนสาเหตุเชื่อว่ามาจากชนวนเรื่องก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา น.ส.สาวิตรี จับได้ว่าถูกนายยงเกียรติ แอบถ้ำมองเวลาอาบน้ำ จึงแจ้งความกับตำรวจ สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายยงเกียรติ โดยตำรวจแค่เปรียบเทียบปรับ จากนั้นนายยงเกียรติ ก็มีเรื่องระหองระแหงกับ น.ส.สาวิตรี และเพื่อนบ้านหลังอื่นๆ ที่พักอาศัยอยู่ในซอยเดียวกันเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องพูดคุยกันเสียงดัง หรือปิดประตูบ้านดัง ก็จะเป็นประเด็นทำให้ นายยงเกียรติ ถืออาวุธปืนออกมาข่มขู่อยู่บ่อยครั้ง บางคราวถ้ามีปากเสียงกันรุนแรงก็จะชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้าประกาศศักดิ์ดา จนเพื่อนบ้านต้องเรียกตำรวจมาระงับอยู่เป็นประจำ
ด้านนายบัณฑิต กรกนก อายุ 60 ปี พี่ชายเรวัติ ผู้ตาย กล่าวว่า นายยงเกียรติ คนใจร้อนและถือเป็นบุคคลอันตรายมากโดยเฉพาะระยะหลังเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ปล่อยให้ภรรยาออกไปขายซีดีที่ตลาดนัดคลองถมเพียงลำพัง ซึ่งตนเชื่อว่าที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะคงไปมีเรื่องกับกลุ่มผู้ค้าในตลาดเลยไม่สามารถเดินทางไปขายของได้ ที่ผ่านมาตนเคยเตือนน้องชายและหลานสาวไม่ให้เข้ามายุ่งกับบุคคลคนนี้เนื่องจากมักเห็นปืนเป็นของเล่นเวลามีปากเสียงกับใครก็จะชักปืนยิงขึ้นฟ้าอยู่เสมอ กระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น โดยตนเชื่อว่าเมื่อช่วงเช้าขณะที่ นายเรวัติ ขับรถ จยย.ออกจากบ้านมารับ น.ส.สาวิตรี เพื่อไปส่งทำงานที่ห้างเดอะมอลล์ ก็คงจอดรถรอแล้วไม่ได้ดับเครื่องยนต์ หรือไม่ น.ส.สาวิตรี ก็อาจจะปิดประตูบ้านดังจน นายยงเกียรติ เกิดความรำคาญอีกจึงคว้าปืนออกมาไล่ยิงจนรถ จยย.ล้มคว่ำเหยื่อกระสุนกลายเป็นศพทั้งคู่
ขณะที่ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายยงเกียรติ มือปืนยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดอาการเป็นตายเท่ากัน จึงได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ไปเฝ้าเอาไว้และสั่งการให้พนักงานสอบสวน รีบทำเรื่องอายัดตัวเพื่อรอสอบปากคำพยานรวมทั้งเร่งรวบรวมหลักฐานไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับตามฐานความผิดคดีฆ่าผู้อื่น เอาไว้ก่อนส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนเซมิออโตเมติกแบบพกซุกซ่อน ยี่ห้อโคล์ท รุ่นดีเฟนเดอร์ ไลท์เวท ขนาด 11 ม.ม. ความจุกระสุน 7 บวก 1 นัด ตำรวจได้ยึดไว้รอการตรวจสอบแล้วว่าครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่หากเป็นการครอบครองโดยผิดกฎหมายก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป


