เปิดประตูมหาสวัสดิ์70-80ซม.ระบายนนทบุรี
ศปภ.สั่งเปิดประตูระบายน้ำทุกคลองฝั่งตะวันตก 70-80 ซม. เพื่อระบายน้ำจากนนทบุรี “วีระ” เชื่อ 4-5 วันน้ำย่านบางกรวยลดชัดเจน
ศปภ.สั่งเปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ 70-80 ซม. เพื่อระบายน้ำจากนนทบุรี “วีระ” เชื่อ 4-5 วันน้ำย่านบางกรวยลดชัดเจน
วันที่ 21 พ.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. ได้เปิดแถลงข่าวภายหลังประชุมร่วมกับคณะกรรมการศปภ. และคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรงถึงการแก้ปัญหาหาสถานการณ์น้ำภายในจ.นนทบุรี โดยมีน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.สารสนเทศและการสื่อสาร นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี นายวีระ วงค์แสงนาค หัวหน้าคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง ศปภ. นายจุมพล สำเภาพล รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนายอุดมเดช รัตนเสถียร สส.จ.นนทบุรีเข้าร่วมแถลงข่าวด้วย
นายวิเชียร เปิดเผยว่า ขณะนี้จ.นนทบุรี ได้ดำเนินการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน โดยเปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ทุกประตู 50 ซม โดยทุกคลองซอยจะปรับเพิ่มให้ตามประสิทธิภาพที่แต่ละคลองจะไม่เดือดร้อน และกทม.ไม่ต้องรับน้ำเพิ่มเติม โดยจะปรับขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ขณะที่บางประตูอาจเปิด 70 ซม. 80 ซม. หรืออาจเกิน 100 ซม.
ในส่วนของคลองบางพลัด คลองบางอ้อ หรือคลองบางบำหรุนั้น จะลดคันลงให้ไหลเข้าประตูระบายน้ำ ตามศักยภาพของประตูระบายน้ำที่พอจะทำได้ ส่วนการเปิดไซฟ่อนคลองประปาเข้าสู่บางตลาด เพื่อระบายน้ำออกจากจ.นนทบุรีนั้น จะมีกาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง และจะนำเรื่องที่ประชุมวันนี้ไปหารือกับชาวบ้านจ.นนทบุรี ในวันที่ 22 พ.ย. อีกครั้ง
ด้าน นายวีระกล่าวว่า คณะทำงานกำลังเร่งระบายน้ำจากคลองโยง คลองมหาสวัสดิ์ และคลองพระพิมลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงให้กรมชลประทานเพิ่มเครื่องสูบน้ำในคลองหลักทุกคลอง รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มในคลองพระอุดม คลองบางบัวทอง และคลองบางกรวยอีกด้วย ซึ่งจะสามารถระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากในช่วงนี้ ถึงวันที่ 25 พ.ย. เป็นช่วงที่น้ำทะเลยังไม่หนุนสูง
สำหรับพื้นที่บางกรวยนั้น หากกทม.สามารถเปิดคันกั้นน้ำเพิ่มในบางจุดก็จะทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัดใน 4-5 วัน หรือในวันที่ 26 พ.ย.นี้ และในระยะนี้ พื้นที่บางกรวยน้ำจะลดลงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
“ปริมาณน้ำที่ค้างทุ่งอยู่ที่ทุ่งพระพิมล จ.นนทบุรี และด้านเหนือจ.นนทบุรีอยู่ประมาณ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งแต่ละวันสามารถระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีนได้ประมาณ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร และลงสู่คลองภาษีเจริญ เข้าเขตกทม.อีกวันละ 149 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งโดยภาพรวมนั้น ขณะนี้ทุ่งพระพิมลยังต้องรับน้ำเข้าอีกวันละประมาณ 228 ล้านลูกบาศก์เมตร และระบายออกวันละประมาณ 233 ล้านลูกบาศก์เมตร” นายวีระกล่าว
ด้านพล.ต.อ.ประชากล่าวว่า หลังจากเดินทางไปดูสถานการณ์น้ำทั่วไปที่คลองรังสิต และประตูน้ำจุฬาลงกรณ์นั้น จากเดิมที่มีเครื่องสูบน้ำ 11 เครื่อง ได้เพิ่มเครื่องขึ้นอีกเป็น 26 เครื่อง อย่างไรก็ตามขณะนี้มีขยะเข้าติดในเครื่องสูบน้ำจำนวนมาก จนทำให้เครื่องชำรุดไป 3 เครื่อง และทำให้สามารถใช้การได้เพียง 23 เครื่องเท่านั้น ซึ่งในช่วงนี้จะเร่งเอาน้ำจากพื้นที่เมืองเอก และหลัก 6 ลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุด รวมถึงจะเร่งเก็บขยะ
"เชื่อว่าจะหากเดินเครื่องเต็มกำลังจะทำให้ระบายน้ำเห็นผลใน 1-2 สัปดาห์นี้ ส่วนการประสานงานกับดอนเมืองโทลล์เวย์เพื่อให้ยืดระยะเวลาใช้ฟรีออกไปอีกนั้น คงต้องขอเวลาอีกสักระยะ เนื่องจากต้องประสานงานร่วมกันหลายหน่วยงาน"พล.ต.อ.ประชากล่าว
นายอุดมเดชกล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จ.นนทบุรีรับน้ำเต็มที่ และประชาชนส่วนใหญ่ที่อยู่ในบ้านจัดสรรนั้นก็เดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากบ้านจัดสรรโครงการต่าง ๆ ในเขตอ.บางกรวย อ.ไทรน้อย อ.บางบัวทอง และอ.บางใหญ่ ล้วนสร้างขึ้นบนพื้นที่ทุ่งรับน้ำทั้งนั้น ซึ่งมาตรการของคณะทำงาน จะต้องปิดน้ำไม่ให้น้ำด้านบนจากจ.ปทุมธานีเข้ามาเติม และใช้สถานีสูบน้ำในเขตคลองอ้อมนนท์ คลองบางกรวย และคลองบางบัวทองสูบออกอย่างเต็มกำลัง ออกทั้งทางแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีน และคลองภาษีเจริญก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนเพิ่มเติม ซึ่งได้ระดมเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำจากทุกหน่วยงานลงมาในทุกพื้นที่แล้ว
“ขณะนี้แผนของจ.นนทบุรีคือการเร่งกู้ถ.สายหลัก เช่น ถ.บางกรวย-ไทรน้อยเป็นต้น และจะค่อย ๆ ระดมเครื่องสูบน้ำลงไปตามหมู่บ้านจัดสรร และพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มเติม ส่วนจะให้แห้งหมดจนสามารถใช้ถ.สัญจรได้หมดในวันที่ 1 ธ.ค.ตามที่ชาวบ้านเรียกร้องนั้นอาจจะไม่ทัน แต่ก็น่าจะลดลงไปมากแล้วเมื่อถึงตอนนั้น จึงเชื่อว่าชาวบ้านน่าจะมีความพอใจ” นายอุดมเดชกล่าว
ส่วนนายจุมพลกล่าวว่าในส่วนของคลองบางอ้อ คลองบางพลัด และคลองบางบำหรุนั้น ได้เปิดเพื่อช่วยเหลือประชาชนในจ.นนทบุรีอย่างเต็มที่โดยจะมีการเพิ่ม เครื่องสูบน้ำเข้ามาในประตูบางบำหรุเพิ่มเติม โดยกทม.ยืนยันว่าการเปิดประตูน้ำทั้งหมดจะมีการควบคุมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีการควบคุมปริมาณน้ำเข้า และน้ำออกให้มีความสัมพันธ์กัน และน้ำจะไม่เข้ามาในพื้นที่ฝั่งธนบุรีเพิ่มเติม


