รถไฟใต้ตกราง9โบกี้หวิดตายหมู่
รถไฟขบวนนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯตกราง 9 โบกี้ ผู้โดยสารหวิดเสียชีวิตหมู่
รถไฟขบวนนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯตกราง 9 โบกี้ ผู้โดยสารหวิดเสียชีวิตหมู่
ร.ต.ท.มนตรี ปานอ่อน ร้อยเวร สภ.พระพรหม จ. นครศรีธรรมราช เดินทางไปตรวจสอบเหตุรถไฟตกรางที่ถนนพาดรอบต่อระหว่าง ม.3 ต.ช้างซ้าย และ ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม เมื่อไปถึงพบรถไฟโดยสาร เป็นรถด่วนขบวนนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ มีผู้โดยสารว่า 200 คนนั่งทั้ง 13 โบกี้ ซึ่งออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชเมื่อช่วงเวลา 14.45 น.วันเดียวกัน โดยพบว่าตู้โบกี้ตั้งแต่โบกี้ที่ 4 ไปจนถึงโบกี้ที่ 12 รวม 9 โบกี้อยู่ในสภาพตะแคง ล้อหลุดออกจากราง ส่วนอีก 4 โบกี้ที่อยู่ด้านหน้าขบวนรถไม่ตกรางแต่อย่างใด และสภาพรางได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ขณะที่ไม้หมอนอยู่ในสภาพฉีกขาดเสียหายยับเยิน
นางจุไรรัตน์ ชูสุข กล่าวว่า ขณะโดยสารโบกี้ที่ 3 รู้สึกถึงความผิดปกติมาตั้งแต่ขบวนรถออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชแล้ว โดยตู้โบกี้จะสะเทือนผิดปกติ และมีเสียงดังตลอดเวลา กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่าเสียงดังครืนเป็นระยะทางยาวมากจนรู้ได้ว่ารถไฟตกรางแน่ สักพักขบวนรถไฟก็หยุด เมื่อชะเง้อดูพบว่าตกรางถึง 9 โบกี้ เพียงแค่ตะแคงเท่านั้น ซึ่งหากตู้โบกี้พลิกคว่ำเชื่อว่าอาจจะเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ก็ได้ ซึ่งขณะเกิดเหตุผู้โดยสารต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่โดชคดีไม่มีใครเสียชีวิตและบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกรางในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่การรถไฟได้ตรวจสอบพบว่าน่าจะมาจากรางและไม้หมอนเสื่อมสภาพ เนื่องจากใช้งานมาเป็นเวลาหลายสิบปี และในบริเวณดังกล่าวก็ไม่เคยเกิดเหตุมาก่อนจึงยังไม่มีการซ่อมแซมรางแต่อย่างใด และคาดว่าการรถไฟจะทำการซ่อมแซมแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนขบวนรถไฟที่ไม่สามารถแล่นผ่านไปมาได้มีเพียง 3 ขบวน คือขบวนนครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก และขบวนนครศรีธรรมราช-พัทลุง และขบวนนครศรีธรรมราช-ยะลา


