มุขแป๊กแท็กซี่ ริอยากเป็นโจร
เขียว เหลือง แดง น้ำเงิน ชมพู อ๊ะๆ ไม่ใช่เสื้อหลากสีนะ
โดย...ธนก บังผล
เขียว เหลือง แดง น้ำเงิน ชมพู อ๊ะๆ ไม่ใช่เสื้อหลากสีนะ แต่เป็นสารพัดสีจากแท็กซี่ตะหาก แท็กซี่เมืองกรุงมากมายหลายสี มากมายหลายสหกรณ์ ให้เลือกแยะ มากเสียจนล้นถนนหนทาง มากจนบางครั้งแท็กซี่ฆ่ากันเองเพราะแย่งผู้โดยสารด้วยซ้ำ
โชเฟอร์ที่ดี มีน้ำใจ เก็บเงินคืนผู้โดยสารก็มีอยู่ไม่น้อย แต่พวกเหลือบไรที่แฝงตัวมาขับแท็กซี่เพื่อคอยหาโอกาสปล้น ข่มขืน ก็มีมากมาย
“ผู้หญิง” ก็กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของเหลือบไร หากไม่รู้เท่าทันโชเฟอร์เถื่อนเหล่านี้ ตกเป็นผู้เสียหายเมื่อไหร่ มิวายต้องน้ำตานอง
มาดูเล่ห์เหลี่ยมฉ้อโกงกันว่าใครเจออะไรมาบ้าง เผื่อเกิดเหตุกับตัวเองเมื่อไหร่จะได้ป้องกันได้ทัน
จากที่เคยหวาดกลัวกันว่าจะโดนมอมยาสลบทางช่องแอร์นั้นลืมไปได้เลย เดี๋ยวนี้มุขรถเสียกำลังมาแรง
หลังจากเหยื่อเรียกแท็กซี่แล้ว ระหว่างทางมิจฉาชีพในคราบโชเฟอร์จะแกล้งออกอุบายรถเสียบ้าง แก๊สหมดบ้าง เครื่องขัดข้องบ้าง แล้วแต่จะหามุขมา แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สรุปคือ ต้องให้ผู้โดยสารลงจากรถ อาจจะลงไปเข็นรถ หรืออะไรก็แล้วแต่
เมื่อลงจากรถปุ๊บ พอผู้โดยสารเดินไปท้ายรถ โชเฟอร์ก็บึ่งไปทันที บางรายอาจจะถูกหลอกให้เข็นรถจนหมดแรงด้วยซ้ำ พอหอบๆ มาเจอเรื่องตกใจก็ลืมป้ายทะเบียนกับสีรถไปเลย รู้ตัวอีกทีของที่วางอยู่บนรถก็เสร็จโจร ส่วนใหญ่จะเป็นกระเป๋าเงิน โทรศัพท์
โชเฟอร์แท็กซี่เหล่านี้มักจะเลือกผู้โดยสารผู้หญิง ที่หอบสัมภาระพะรุงพะรังมากมาย บางคนเพิ่งไปช็อปในห้างมาก็เสร็จโจรละครับ ถ้าทิ้งกระเป๋าและโทรศัพท์ด้วย ก็เรียกได้ว่าเจ๊ง
เพราะไม่ว่าจะไปกันกี่คน หรือจะมีผู้ชายไปด้วยหรือไม่ เจอมุขรถเสียเป็นอันต้องละเหี่ยใจกันทุกราย
พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง เปิดเผยมุขแป๊กของโชเฟอร์โจรว่า มีผู้เสียหายหญิงชาวไทยและชาวต่างชาติหลายรายเข้าแจ้งความที่ สน.บางโพงพาง ถูกคนร้ายในคราบโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่สีชมพูชิงทรัพย์ไป
โดยคนร้ายจะออกอุบายหลอกผู้เสียหายว่ารถแท็กซี่เสีย จากนั้นจะขอร้องให้ผู้เสียหายลงจากรถไปช่วยเข็น เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อลงไปเข็นรถตามที่บอก คนร้ายก็จะรีบสตาร์ตเครื่องรถแล้วรีบขับหลบหนีไปพร้อมกับกระเป๋าและทรัพย์สินที่ผู้เสียหายยังวางไว้ในรถ
สมปอง นันชัย โชเฟอร์โจร อ้างถึงสาเหตุที่ทำลงไปมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ไม่ได้เอาไปซื้อยาเสพติดหรือเล่นการพนัน แต่เป็นเพราะป่วยเป็นโรคหอบ ต้องเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ และต้องการเงินไปรักษาแม่ที่ป่วย
วิธีการตบตาเหยื่อและตำรวจอย่างง่ายๆ ก็คือ จะเอาสติกเกอร์ไปแปะทับเลข 7 ตัวสุดท้ายของทะเบียนรถเอาไว้ก่อนจะออกตระเวนหาเหยื่อ โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงและมีกระเป๋าสัมภาระมาด้วย
จากนั้นจะขับรถไปบริเวณทางลาดบนสะพานข้ามแยกต่างๆ แล้วแกล้งปล่อยคลัตช์แรงๆ ให้รถกระตุกจนเครื่องดับ พร้อมทั้งขอให้เหยื่อช่วยลงไปเข็นรถ เมื่อเหยื่อหลงกล ก็จะรีบเข้าไปรถสตาร์ตเครื่องแล้วขับหลบหนีไปทันที 3 เดือนก่อเหตุมา 8 ครั้ง ทุกครั้งเมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะไปขายทันที
มุขรถเสียนี้ไม่เฉพาะปล้นเท่านั้น แต่ยังคงหมายถึงการก่ออาชญากรรมอื่นๆ ด้วย เช่น ข่มขืน หากแท็กซี่พวกนี้เห็นเราไม่ยอมลงจากรถ ถ้าทางเปลี่ยวและเป็นช่วงกลางคืนด้วยแล้ว โอกาสที่โชเฟอร์กลุ่มนี้จะก่อเหตุก็มีมากขึ้น
อีกคดีหนึ่งที่มักจะเห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งคือโชเฟอร์แท็กซี่ข่มขืนผู้โดยสาร มุขนี้มีหลากวิธี แต่ที่บ่อยสุดที่เจอคือพาออกนอกพื้นที่
ผู้เสียหายรายหนึ่ง อายุ 15 ปี ขึ้นรถแท็กซี่สีชมพู (อีกแล้วครับทั่น) เด็กสาวคนนี้โบกแท็กซี่บริเวณริมถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. เพื่อที่จะไปย่านบางกะปิ
ขึ้นรถไปสักพักก็เริ่มรู้สึกผิดปกติ คือแทนที่จะไปถนนลาดพร้าวกลับพาไปถนนรามอินทรา โชเฟอร์แท็กซี่จอดรถที่ซอยรามอินทรา 19 เมื่อผู้เสียหายขัดขืนโชเฟอร์หื่นก็เผยธาตุแท้ ด้วยการใช้กำลังทำร้ายร่างกายทั้งทุบตี เตะต่อย กระทั่งผู้เสียหายร้องให้คนช่วยเหลือ
เดชะบุญ เจ้าข้าเอ๊ย เสียงร้องขอความช่วยเหลือของสาวน้อยทำให้ผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ที่โชเฟอร์ไปจอดเพื่อกระทำการอนาจารได้ยินและเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้
เชื่อหรือไม่ว่าพวกโชเฟอร์แท็กซี่หื่นหรือพวกที่ตั้งใจก่อเหตุเหล่านี้มักไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน ก็เพื่อป้องกันการติดตามของตำรวจหลังก่อเหตุ


