posttoday

เลือกตั้งตรังร้อนแรง ปชป.เสี่ยงเสียแชมป์

14 มีนาคม 2562

ในทางการเมือง "ตรัง" เสมือนเป็น "เมืองหลวง" ของพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับการเลือกตั้ง สส.ครั้งนี้ถือว่าร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งใด

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

เมืองตรัง ซึ่งในทางการเมืองมองเป็น เสมือนกับ "เมืองหลวง" ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สำหรับการเลือกตั้ง สส.ครั้งนี้ถือได้ว่าร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งใด นอกจากถูกหั่นเหลือ 3 เขต จาก 4 เขต แล้วแชมป์เก่ามีโอกาสที่จะสูญเสียเก้าอี้ไปได้ ถึงแม้ในอดีตบางพื้นที่จะได้คะแนนสูงนับแสนติดอันดับประเทศก็ตาม แต่กระแสของผู้คนบางกลุ่มที่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ บ้าง และอยากให้บ้านเมืองเกิดการพัฒนามากกว่านี้ ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อต้องเจอแม่ทัพอย่าง "ชวน หลีกภัย" อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และอดีตหัวหน้าพรรค 3 สมัย ที่ครองพื้นที่มายาวนาน

สนามเลือกตั้งเขตที่ 1 สมัยล่าสุดนั้น "สุกิจ อัถโถปกรณ์" จากพรรคประชาธิปัตย์นั่งเก้าอี้ตัวนี้มาถึง 3 ครั้งแล้ว ดังนั้น เจ้าตัวจึงเชื่อมั่นว่าจะได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาอีกครั้ง แม้จะมีกระแสออกมาโจมตีว่า ไม่มีผลงานบ้าง หรือบอกให้เปลี่ยนตัวผู้แทนบ้าง แต่เมื่อเข้าไปอธิบาย ทุกคนก็เกิดความเข้าใจ และให้การสนับสนุนอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเจ้าของพื้นที่บอกว่า เป็นแนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่น และทำเสมอมาทุกสมัยของการเลือกตั้ง ถึงแม้ครั้งนี้จะมีผู้ลงสมัครแข่งขันเป็นจำนวนมากมายเพียงใดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เขตนี้ก็มีคู่แข่งที่น่าสนใจอยู่หลายคนและอาจมีโอกาสเข้าวินได้เหมือนกันนับตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ส่ง "นิพันธ์ ศิริธร" อดีตรอง ผวจ.ตรัง และก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นทั้งปลัดจังหวัดตรัง และนายอำเภอเมืองตรัง ส่วนพรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) ส่ง "ชาลี กางอิ่ม" อดีตนายกเทศมนตรีนครตรังหลายสมัย รวมทั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ส่ง "จิโรจน์ พีระเกียรติขจร" อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง

สนามเลือกตั้งเขตที่ 2 สส.สมัยล่าสุดคือ "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นมาแล้วถึง 5 สมัย มั่นใจว่าจะรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ อีกทั้ง จ.ตรัง ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญต่อการได้เป็นรัฐบาลในครั้งนี้ด้วย

แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ยึดเมืองตรังได้ทุกยุคทุกสมัย แต่เลือกตั้งครั้งนี้คงเหนื่อยไม่น้อยทีเดียว เพราะมีคู่ต่อกรหลายคนที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ส่ง "โชคดี คีรีกิ้น" อดีต สจ. 5 สมัย รวมทั้งยังเคยเป็นรองนายก อบจ.ตรัง และประธานสภา อบจ.ตรัง มาแล้วด้วย ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ธรรมดา เพราะส่ง "วิโรจน์ ทองโอเอี่ยม" คุณหมอใจบุญที่รักษาผู้คนราคาถูก แถมยังได้รับการสนับสนุนจาก "ทวี สุระบาล" อดีต สส.ตรัง หลายสมัย ก่อนหน้านั้นก็เคยอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ จึงมีฐานเสียงหนาแน่น แต่เที่ยวนี้ได้มาลงระบบบัญชีรายชื่อแทน

สนามเลือกตั้งเขตที่ 3 แชมป์เก่าคือ "สมชาย โล่สถาพรพิพิธ" จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นมาแล้ว 4 สมัย แต่ได้วางมือทางการเมือง แล้วผลักดันทายาทรุ่นใหม่ "สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ" ลงสู้ศึกแทน โดยชูจุดเด่นด้านการศึกษาที่จบทั้งเนติบัณฑิตไทยและปริญญาโทถึง 2 ใบ จากประเทศอังกฤษ หรือด้านการเมืองท้องถิ่น ที่เคยเป็นเลขานุการนายก อบจ.ตรัง และยังเป็นหนึ่งใน ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม NEW DEM คนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งสำคัญ ก็คือ ได้แรงสนับสนุนจากตระกูลที่กว้างขวาง และทำงานการเมืองทุกระดับมาตลอด

แต่กระนั้นเขตนี้ก็มีคู่แข่งที่จับตามองอยู่หลายคน โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่ง "ดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์" หลานแท้ๆ ของตระกูล โล่สถาพรพิพิธ และเคยทำงานการเมืองระดับชาติมาแล้ว ทั้งผู้ช่วย สส. และ ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ส่วนพรรคประชาชาติ (ปช.) ส่ง "เนติวิทย์ ขาวดี" อดีตปลัดอำเภอชื่อดังของตรัง ที่เคยลงสมัครมาแล้วทั้ง สว. และ สส. แถมยังมีฐานเสียงหลักในกลุ่มมุสลิม รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ซึ่งส่ง "ยศวัฒน์ ธีรัตน์วัฒนากุล" ที่เพิ่งถูกแกล้งจับในคดีค้างเก่าที่เคลียร์จบไปตั้งนานแล้ว

เที่ยวนี้พรรคประชาธิปัตย์แชมป์เก่า จึงต้องลุ้นจนถึงวินาทีสุดท้ายจริงๆ