posttoday

ประชันโฉม! "ว่าที่นายกรัฐมนตรี"

03 กุมภาพันธ์ 2562

โฉมหน้าว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังพรรคการเมืองทยอยเปิดรายชื่อบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตในบัญชีของพรรค

โฉมหน้าว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังพรรคการเมืองทยอยเปิดรายชื่อบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตในบัญชีของพรรค

******************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

โฉมหน้าว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปเริ่มปรากฏเค้าลางชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังพรรคการเมืองทยอยเปิดรายชื่อบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตในบัญชีของพรรคตามที่กฎหมายกำหนด ​ซึ่งจะต้องชี้ขาดกันที่​คะแนนเสียงที่แต่ละพรรคจะได้รับในการเลือกตั้งครั้งนี้

เริ่มตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งล่าสุดพรรคพลังประชารัฐได้ส่งเทียบเชิญมาเป็นแคนดิเดตในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคอย่างเป็นทางการ ​ด้วยจุดเด่นที่อยู่ในอำนาจมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังรัฐประหาร ทั้งในฐานะหัวหน้า คสช.​และนายกรัฐมนตรีมายาวนานกว่า 4 ปี รวมทั้งได้เริ่มต้นบรรดานโยบายสำคัญไว้หลายเรื่อง โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวข้องและต่อยอดจากโครงการประชารัฐทั้งหลาย

ในแง่ประวัติส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 ​เติบโตจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ “ทหารเสือราชินี” เริ่มมาจากตำแหน่ง
ผู้บังคับการกองพัน จนถึงผู้บังคับการกรม จากนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และรับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 ​ก่อนขยับขั้นมาสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในปี 2553

ถัดมา​ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย หนึ่งใน 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกชูขึ้นมาเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงอีกคนหนึ่งของพรรค ด้วยจุดเด่นเรื่องประสบการณ์การทำงานตั้งแต่สมัยพรรคพลังธรรม เรื่อยมาจนถึงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ก่อนจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ในปี 2550 เพราะเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549

งานด้านบริหารเคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง ทั้ง ​​รมช.คมนาคม ปี 2537 รมว.สาธารณสุข ปี 2544 รมว.เกษตรและสหกรณ์ ปี 2548 ประวัติการศึกษา จบปริญญาตรีด้านการตลาด จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ ​

ส่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแคนดิเดตหนึ่งเดียวในบัญชีของพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยจุดเด่นที่คณะกรรมการบริหารพรรคหยิบยกมา 5 ข้อ อาทิ มีความทุ่มเทในการทำงาน ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เคยมีประวัติทุจริตคอร์รัปชั่น และมีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ​

ประวัติส่วนตัวจบปริญญาสาขาวิชาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เคยเป็นผู้นำฝ่ายค้านในปี 2548 และเป็นนายกรัฐมนตรี
ปี 2551 และต้องบริหารราชการท่ามกลางการประท้วงใหญ่ในเดือน ​เม.ย. 2552 และเดือน​ พ.ค. 2553 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อภิสิทธิ์ประกาศไม่จับมือเพื่อไทย และไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล หนึ่งเดียวจากบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ด้วยจุดยืนไม่ได้อยู่ภายใต้การชี้นำของใคร ของตัวเอง ไม่ได้อยู่ข้างใคร และว่ากันว่าจะเป็นอีกตัวแปรสำคัญสำหรับการเมืองรอบนี้ โดยเฉพาะล่าสุดกับการประกาศตัวขอเป็นนายกรัฐมนตรี​กลางเวทีสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ในแง่ประสบการณ์ อนุทิน​เคยรับตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข และ รมช.พาณิชย์ เป็นบุตรชาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย จบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Hofstra ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2532 ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ต่อมาได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเมื่อปี 2555

ด้าน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค​ เป็นอดีตรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ​จบการศึกษาภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ​

จบปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง ​จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทใบที่ 2 สาขาการเงินระหว่างประเทศ ที่โรงเรียนธุรกิจสเติร์น มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ​ประเทศสหรัฐอเมริกา และยังปริญญาโทใบที่ 3 สาขากฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยซังคท์กัลเลิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ​

ส่วน กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา แม้จะเป็นรายชื่อที่พรรคเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนตัวระบุว่าการเสนอชื่อดังกล่าวเป็นไปตามกติกาและพรรคพิจารณาเสนอชื่อเท่านั้น พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นมิตรกับทุกคน และขอเป็นพันธมิตรกับทุกพรรค ​​

ประวัติ ​กัญจนา ​จบปริญญาตรี สถิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ ปี​ 2542

ส่วนใครจะได้ขยับสถานะจากแคนดิเดตเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงนั้น คงต้องติดตามกันหลังเลือกตั้ง​ โดยมีคะแนนเสียงของประชาชนจะเป็นตัวชี้ขาด

ข่าวล่าสุด

“พาณิชย์” จับมือผู้ผลิต ห้าง ลดราคาสินค้ากว่าหมื่นรายการ ของขวัญปีใหม่