posttoday

กกต.ขอทุกคนหวงสิทธิ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้ง

13 มกราคม 2562

"อิทธิพร บุญประคอง" ประธาน กกต. ขอให้ทุกคนหวงสิทธิ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้ง นำประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย

"อิทธิพร บุญประคอง" ประธาน กกต. ขอให้ทุกคนหวงสิทธิ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้ง นำประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย

*******************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

แม้วันเลือกตั้งตามโรดแมปเบื้องต้นซึ่งถูกกำหนดไว้ให้เป็นวันที่ 24 ก.พ. 2562 จะยังไม่ชัดเจนแน่นอนหน่วยงานที่ถูกจับจ้องในประเด็นนี้อย่างเลี่ยงไม่พ้น คือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเฉพาะความพร้อมต่อการจัดการเลือกตั้ง

“อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. ยืนยันผ่าน “โพสต์ทูเดย์” ว่า กกต.เตรียมการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ชุดที่แล้ว เพราะถ้าจะนับกันจริงๆ ต้องถอยไปตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีผลใช้บังคับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. รวมถึง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ประกาศออกมา

อิทธิพร กล่าวต่อว่า จึงเป็นหน้าที่อัตโนมัติต้องรีบดำเนินการและเตรียมการเบื้องต้น เพื่อนำไปสู่วันเลือกตั้งในที่สุดที่จะมีขึ้น ดังนั้นเมื่อเวลาเหลือสั้น กกต.ทั้งชุดก่อนและปัจจุบันจึงเน้นเตรียมการในเรื่องของบุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ ร่างระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใกล้ครบถ้วนเหลือเพียงระเบียบอีกไม่กี่ฉบับ

สำหรับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การให้ข้อมูลประชาชน ซึ่งจากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนช่วงที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังไม่เข้าใจเรื่องของบัตรเลือกตั้ง ฉะนั้นจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าการให้สัมภาษณ์สื่อหรือโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์

ขณะเดียวกันจะใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่ง กกต.ชุดที่ผ่านมาทำไว้ เพื่อช่วยกระจายข่าวไปสู่ระดับชุมชนให้ได้มากที่สุด เพราะผลสำรวจเข้าใจว่าเป็นการทำในระดับเขตเมือง แต่เขตชนบทอาจจะมีความรู้กับการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มาก หรืออาจมากในระดับหนึ่ง

“เรามีเครือข่ายระดับรากหญ้าจำนวนไม่น้อย และมีหน่วยงานศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยระดับตำบล เรามีหมดทุกตำบล 7,000 กว่าหน่วย ซึ่งมีหน้าที่ให้ข้อมูลการเลือกตั้ง เพื่อเตรียมประชาชนให้เข้าสู่การเลือกตั้ง และยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์สำคัญที่สุดว่าทำอย่างไรให้เข้าใจถูกต้อง”

ส่วนพรรคการเมืองก็เป็นหน้าที่โดยตรงของ กกต.ในการให้ข้อมูล ชี้แจง สนับสนุนการดำเนินการใดๆ ของพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาตนเองเป็นสถาบันการเมืองที่มีคุณค่า ซึ่งถือเป็นภาพใหญ่ แต่กฎหมายปัจจุบันต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะเขียนเช่นนี้ในทางปฏิบัติตีความออกมาจะทำได้หรือไม่

“เราทำมาตั้งแต่ กกต.ชุดที่แล้ว คือ จัดประชุมชี้แจงข้อมูลให้กับพรรคการเมืองชุดก่อน 1 ครั้ง และชุดใหม่ 2 ครั้ง และจะมีอีก 1 ครั้งก่อนการเลือกตั้ง แต่จะดูว่ามีประเด็นอะไรต่างๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีก เพื่อให้ข้อมูลชัดเจนแก่พรรคการเมือง ได้ปฏิบัติถูกต้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน”

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกอย่าง กกต.ทำโดยเรียงลำดับความสำคัญเร่งด่วน เพื่อออกระเบียบต่างๆ ของ กกต. ทั้งว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง การสนับสนุนของรัฐให้พรรคการเมืองในการเลือกตั้ง การหาเสียงลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง รวมถึงการหาเสียงอิเล็กทรอนิกส์ ต้องรีบออก และสิ่งที่ กกต.ทำขณะนี้คือ ร่างที่ต้องทำให้เสร็จอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 11 ฉบับ รวมถึงการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง

สำหรับเรื่องการหาเสียงอิเล็กทรอนิกส์ อิทธิพร อธิบายคร่าวๆ ว่าต้องแจ้ง ไม่ได้ห้าม ไม่ได้ควบคุม แต่ถ้าจะใช้ต้องบอกว่าใช้เมื่อไหร่ ช่องทางไหน เพื่อ กกต.จะได้รู้ว่าสมมติ พรรค ก. ใช้ช่วงนี้ ช่องทางนี้ อะไรก็ตามที่มาอ้างว่า พรรค ก. ใช้ ไม่ใช่พรรค ก. อาจเป็นพวกปลอม หรือเรื่องหาเสียงห้ามเลยเวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้ง ทั้งหมดจะหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องรวมถึงแพลตฟอร์มต่างๆ ว่าทำได้อย่างไรบ้าง

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของพรรคการเมืองต่อ กกต. โดยเฉพาะเวลาเรียกประชุมแต่เหมือนไม่ได้รับคำตอบใดๆ นั้น อิทธิพรยอมรับว่าที่ไม่ตอบทันที เพราะหากผิดพลาดไปอาจมีการอ้างกันผิดๆ ซึ่งการตอบคำถามที่ถูกต้องจริงๆ คือคำถามที่ตอบโดยตามมติ กกต. ส่วนเรื่องที่ทราบกันดีในการปฏิบัติหรือมติก่อนๆ กกต.ก็สามารถตอบชัดได้ แต่หลายเรื่องไม่สามารถตอบตามที่คิดได้ เพราะเป็นกฎหมายใหม่

“กกต.ก็เปรียบเสมือนนิติและตุลาการในตัวเอง หากตอบอะไรโดยไม่ศึกษาครบขั้นตอน ก็ไม่เป็นผลดีต่อการเลือกตั้ง การเมือง จึงต้องถี่ถ้วนรอบคอบ มันมีมาตราที่เขียนไว้ใน พ.ร.ป.กกต. ว่ามีหน้าที่ต้องตอบคำถามพรรคการเมืองภายใน 30 วัน หากไม่แล้วถือว่าจงใจฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ไม่อยากตอบอะไรไปจนเกิดความไขว้เขวและสับสน”

กกต.ขอทุกคนหวงสิทธิ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้ง

อิทธิพร มองว่า การเลือกตั้ง สส.ถือว่ามีความเข้มข้น เพราะเป็นสนามใหญ่และกว้างดังนั้นจะมีการจับสลากผู้ตรวจการเลือกตั้ง 606 คน ในช่วงเลือก สว. ให้ทำงานเลือกตั้ง สส. โดยเขย่าใหม่ เนื่องจากวิธีการเลือก สว.กับ สส.ต่างกัน จึงต้องจับชุดใหม่เพื่อมาฝึกอบรม

ประธาน กกต.ไม่ได้กังวลต่อการเลือกตั้งดุเดือด รวมถึงการถูกเชื่อมโยงว่าเอื้อต่อบางพรรค ถือเป็นเรื่องที่สาธารณะสามารถมีความเห็นได้ การชี้แจงพึงกระทำได้ก็กระทำ แต่ว่าการแก้ตัวหรือออกมาพูดโดยไม่จำเป็น เป็นสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยง เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องรับฟังความเห็น ไม่ว่าจะเป็นเชิงอะไรก็ตาม

“หน้าที่สำคัญเมื่อมาทำงานตรงนี้และตระหนักดีถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์อาจจะเป็นอย่างนี้ในขณะนี้ ก็ต้องทำให้เห็นว่าการทำงานของ กกต.แต่ละเรื่องยึดถือความเป็นกลาง ความเป็นองค์กรอิสระ การทำหน้าที่ของ 7 ท่าน แม้การตัดสินใจจะออกมาหลากหลาย หรือเป็นเอกฉันท์ แต่ไม่ได้เป็นการตัดสินใจโดยอำเภอใจ

หากตัดสินใจโดยไม่สามารถอธิบายได้ว่า ผมว่าปัญหาจะตกหนักอยู่กับเรา และเสียงวิพากษ์วิจารณ์เราคงไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือการใช้กฎหมายต้องเป็นธรรม ซึ่งเป็นหลักสากล แม้สิ่งที่ทำไปอาจจะไม่เป็นที่พอใจของทุกภาคส่วน การตัดสินใจอย่างไรก็อาจกระทบต่อภาคใดภาคหนึ่ง แต่การตัดสินใจ ที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นกลาง พื้นฐานกฎหมาย มันจะเป็นเกราะคุ้มครองเราในที่สุด”

ส่วนเรื่องบัตรเลือกตั้งที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจพิมพ์ไม่ทันหากกระชั้นชิด อิทธิพร ยกตัวอย่าง เหมือนการพิมพ์ธนบัตร คงไม่สามารถให้ทุกโรงพิมพ์ทำได้ มีบางแห่งเท่านั้นที่พิมพ์แบบพิเศษ ป้องกันการโกง การทำปลอม และโรงพิมพ์ต่างๆเท่าที่ได้ตรวจสอบ มีไม่เกิน 5 โรงพิมพ์ซึ่งมีศักยภาพทำได้

“เราเลือกเฉยๆ ไม่ได้ เพราะติดในเรื่องเงื่อนเวลา เพราะถ้าต้องออกบัตรแต่ละเขตไม่เหมือนกันเลย แต่ละเขตมีชื่อพรรค โลโก้ ไม่เหมือนกัน โรงพิมพ์ทำทันหรือไม่ หลายโรงพิมพ์ไม่มีศักยภาพ บางที่มีศักยภาพแต่ว่าใช้เวลานาน จำเป็นต้องตัดออก แต่ทั้งหมดอยู่ระหว่างพิจารณา และยืนยันว่าทุกกระบวนการเป็นไปตามกฎหมาย โปร่งใส ตรวจสอบได้”

สำหรับการใช้สิทธินั้น อิทธิพร ยอมรับไม่อยากตั้งเป้า แต่ที่ตั้งไว้ 80% เพราะครั้งที่แล้วมาใช้สิทธิถึง 70% กว่า แต่เวลานี้มีปัจจัยคือไม่ได้เลือกตั้งมาระยะหนึ่ง ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุ 18 ปี บวก5 ปี มี 7-8 ล้านคนตามตัวเลข เป็นปัจจัยให้เด็กรุ่นใหม่อยากมาใช้สิทธิ

“เราอยากเชิญชวนให้ออกมา เพราะเป็นอีกโอกาสในการนำประเทศไทยกลับไปสู่การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยด้วยการเลือกตั้ง อำนาจอธิปไตย คือ อำนาจของประชาชน ผมอยากเน้นจุดนี้ อย่าเบื่อก่อน จึงอยากให้ใช้วิจารณญาณเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโอกาสนำประเทศไทยไปสู่ทิศทางใหม่ แล้วคนนำเป็นประชาชน จึงอยากให้ทุกคนหวงแหนสิทธิตรงนี้แล้วออกมาใช้สิทธิ”