posttoday

ครม.สัญจรเชียงราย ปฏิบัติการเจาะฐาน"ทักษิณ"

03 กันยายน 2561

ทุกครั้งที่ “บิ๊กตู่” จัดประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดใด ต้องจับตาสนามการเมืองในพื้นที่นั้นทันที

ทุกครั้งที่ “บิ๊กตู่” จัดประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดใด ต้องจับตาสนามการเมืองในพื้นที่นั้นทันที

*********************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ทุกครั้งที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดใด ต้องจับตาสนามการเมืองในพื้นที่นั้นทันที เพราะอาจเป็นพื้นที่เป้าหมายทางการเมือง

ล่าสุดการประชุม ครม.สัญจรที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 คือ จ.พะเยา แพร่ น่าน และเชียงราย เป็นที่ทราบดีว่า 4 จังหวัดเหนือตอนบนนี้ เป็นพื้นที่สีแดงทางการเมือง โดยเฉพาะ จ.เชียงราย สถานที่ประชุม ครม. เป็นฐานที่มั่นอันดับ 2 ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีถิ่นเกิดใน จ.เชียงใหม่ ภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นของพรรคเพื่อไทยยึดครองเก้าอี้

ภาคเหนือตอนบนตระกูลการเมืองล้วนเข้มแข็งและยึดครองกันเพียงไม่กี่ตระกูล อย่าง จ.เชียงราย อาทิ ตระกูลปัญญาดี ได้แก่ จ.ส.อ.ทรงธรรม ปัญญาดีและอำไพ ปัญญาดี ตระกูลจงสุทธนามณี ได้แก่ มงคล จงสุทธนามณี และ รัตนา จงสุทธนามณี ตระกูลติยะไพรัช ได้แก่ ยงยุทธ ติยะไพรัช และละออง ติยะไพรัช ตระกูลเตชะธีราวัฒน์ ได้แก่ วิสาร เตชะธีราวัฒน์ และวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ และตระกูลวันไชยธนวงศ์ ได้แก่ สมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ และรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์

ทุกครั้งที่ “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ไม่มีพลาดที่จะเทงบประมาณและโครงการสนับสนุนเอาใจพี่น้องประชาชน

สำหรับ จ.พะเยา จังหวัดที่ “บิ๊กตู่” ลงไปตรวจราชการ รัฐบาลเตรียมอัดงบสนับสนุนโครงการการขับเคลื่อน จ.พะเยา ให้เป็นเมืองแห่งนกยูง โครงการเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปมูลค่าสูงเพื่อการส่งออกและการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และโครงการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรภาคเหนือ รวมถึงอัดงบสนับสนุนการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยเน้นโครงการไทยนิยม ยั่งยืน อาทิ การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำปี้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงม่วน การพัฒนากว๊านพะเยาและโครงการฝาย เป็นต้น

และในการประชุม ครม. ที่ จ.เชียงราย ครั้งนี้ “บิ๊กตู่” จะมาโชว์ผลงานความสำเร็จที่ไม่มีเคยมีรัฐบาลไหนสามารถทำได้ คือ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2562 งบประมาณ 8.5 หมื่นล้านบาท ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบ ครม. เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ “บิ๊กตู่” ขยับคู่ขนานไปกับความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มสามมิตร” มี สมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต สส.สุโขทัย และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม เป็นแกนนำ ที่เตรียมประกาศสังกัดพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย กลุ่มสามมิตรเชื่อมผ่าน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งเคยร่วมงานกับทักษิณ ยุคพรรคไทยรักไทย กลุ่มสามมิตร หรือพลังประชารัฐ เดินเกมดูดอดีต สส.ภาคอีสานและภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย ล่าสุดยกตัวเลขมาโชว์ว่าได้เกือบ 30 คนแล้ว ประเดิมเปิดตัวที่ จ.เลย

จึงปรากฏภาพ สุริยะ สมศักดิ์ พร้อมทั้ง ภิรมย์ พลวิเศษ อดีต สส.นครราชสีมา และ อนุชา นาคาศัย อดีต สส.ชัยนาท รวมถึง ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต สส.เลย และ เปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข และ วันชัย บุษบา ตอบรับเข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีอดีต สส.อีสานพรรคเพื่อไทยอีกหลายจังหวัดขานรับเข้าร่วมเช่น นครราชสีมา ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น และมหาสารคาม เป็นต้น

สำหรับภาคเหนือในนามพรรคพลังประชารัฐได้ตัวผู้กองมนัส หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นแม่ทัพในฐานะเจ้าถิ่นเมืองพะเยา ซึ่งประกาศลั่นจะส่งน้องชายและญาติ รวมถึงคนรุ่นใหม่ และอดีต สส.พรรคเพื่อไทยและไทยรักไทยลงสมัครเลือกตั้งท้าชนทุกจังหวัดในภาคเหนือ ส่วนตัวเองจะลงบัญชีรายชื่อ พร้อมประกาศลั่นว่าคนเหนือจะเลือกที่ตัวบุคคลไม่ใช่พรรค

แม้ทราบดีว่าภาคเหนือและภาคอีสานเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อไทย และยากที่จะเปลี่ยนใจไปจาก “ทักษิณ” หรือ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ ร.อ.ธรรมนัส มั่นใจว่าจะเจาะเข้า เพราะอย่าลืมว่าศักยภาพด้านกำลังทุนและคอนเนกชั่นทางการเมืองแข็งโป้ก ของ ร.อ.ธรรมนัส ที่เป็นทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจ ในฐานะประธานบริษัท ธรรมนัส กรุ๊ป เป็นนักการเมืองผู้กว้างขวาง เปรียบบารมีได้เท่ากับเพื่อนซี้ที่เรียนรุ่นเดียวกัน คือ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มาในนามของนักธุรกิจ ที่ข่าวลือกันว่าทั้ง ร.อ.ธรรมนัสกับเสี่ยหนูจะเป็นกองหนุนของ คสช. พร้อมร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐในอนาคต

ในเดือน ก.ย.นี้ หลังปลดล็อกการเมืองต้องจับตาท่าที “บิ๊กตู่” ที่เคยสัญญาว่าจะประกาศชัดอนาคตทางการเมืองของตัวเองในเดือนนี้ว่าจะเล่นการเมืองหรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวลือสะพัดที่เชื่อกันว่า “บิ๊กตู่” ได้รับอำนาจพิเศษบางอย่างหนุนหลังให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป จะด้วยอำนาจพิเศษหรืออำนาจกระสุนดินดำ โน้มน้าวทำให้ อดีต สส.พาเหรดไหลเข้าพรรคพลังประชารัฐกันต่อเนื่อง จะเป็นเช่นไรคงไม่อาจทราบได้ ให้แน่นอนต้องรอพิสูจน์กันหลังเลือกตั้งเดือน ก.พ. 2562 พลังประชารัฐหรือเพื่อไทย ใครจะแพ้ยับ!