posttoday

ย้อนรอย4ปี เทกระจาดแสนล้าน ครม.สัญจร

30 พฤษภาคม 2561

ออกตัวเสมอว่าการเดินสายไปตรวจราชการไม่ใช่การหาเสียง หรือแฝงนัยทางการเมือง แต่ครม.สัญจรทุกครั้งในรอบ 4 ปีของ "บิ๊กตู่" แต่ละครั้งกวาดคะแนนนิยมให้กับรัฐบาลผ่านโครงการและงบประมาณจำนวนมหาศาล

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ออกตัวเสมอว่าการเดินสายไปตรวจราชการไม่ใช่ทั้งการหาเสียง หรือแฝงนัยทางการเมือง แต่ทุกครั้งในรอบ 4 ปีของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประชุมคณะรัฐมนตรี (นอกสถานที่) หรือ ครม.สัญจร ไปแล้วอย่างน้อย 7 ครั้ง แต่ละครั้งกวาดคะแนนนิยมให้กับรัฐบาลผ่านโครงการและงบประมาณจำนวนมหาศาล

ครั้งล่าสุดที่จะเกิดขึ้นนับเป็นนัดที่ 8 ระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย.นี้  "บิ๊กตู่" นัดประชุม ครม.สัญจร เลือกกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ดังนี้ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ โดยเลือกลงพื้นที่ จ.พิจิตร เพื่อพบปะประชาชน ก่อนที่จะประชุม ครม.สัญจรที่ จ.นครสวรรค์

ครม.สัญจรเป้าหมายสร้างคะแนนนิยมไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ย้อนกลับไป 4 ปี คสช. การประชุม ครม.สัญจรนัดแรก ระหว่างวันที่ 21-22 ส.ค. 2560 ที่ จ.นครราชสีมา รัฐบาลอนุมัติ 2,600 ล้านบาท ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพื่อยกระดับช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา และเห็นชอบโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา 3.3 หมื่นล้านบาท แถมยังเทงบแก้น้ำท่วมและภัยแล้งให้ชาวอีสานอีก 2,000 ล้านบาท

พอมา ครม.สัญจร ครั้งที่ 2 ระหว่าง วันที่ 18-19 ก.ย. 2560 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี มาคราวนี้มาเอาใจคนภาคกลาง อนุมัติวงเงินช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรวงเงิน 8.7 หมื่นล้านบาท เพราะทราบดีว่าภาคกลางชาวนากระดูกสันหลังของชาติ คือ ฐานเสียงสำคัญทางการเมือง ต่อมา ครม.สัญจร ครั้งที่ 3 คราวนี้ล่องใต้ ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย. 2560 ที่ จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา แม้ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยของบเพื่อพัฒนากว่า 5 แสนล้านบาท แต่ที่ประชุม ครม. อนุมัติเพียงมาตรการด้านการเงินสำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2,800 ล้านบาท กับพักชำระหนี้ผู้ประสบภัยจากภัยก่อการร้าย 90 ล้านบาท พร้อมเห็นชอบโครงการสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อมุสลิม 200 ล้านบาท ให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)

หลังจากนั้นเป็นต้นมาพอนักการเมืองในพื้นที่รู้ข่าวว่า "บิ๊กตู่" จะไปประชุม ครม.สัญจร ต่างเริ่มทำแผนของบประมาณออกสื่อกันครึกโครม อย่างประชุม ครม. ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 25-26 ธ.ค.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก และ จ.สุโขทัย "สมศักดิ์ เทพสุทิน" นักการเมืองใหญ่ ประกาศขอพบและของบจาก "บิ๊กตู่" เพื่อให้รัฐบาลก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่ทราบดีว่าเผือกร้อนเสี่ยงถูกภาคประชาชนต่อต้าน ในที่สุด ครม.สัญจร "บิ๊กตู่" จัดให้โครงการแก้น้ำท่วมน้ำแล้งในลุ่มน้ำยม ตามแผนเร่งด่วน 1,900 ล้านบาท จากที่มีการขอทั้งหมด 6,500 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

พอมา ครม.สัญจร ครั้งที่ 5 ในระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ. 2561 ที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด นับว่า ครม.สัญจร ครั้งนี้รัฐบาลจัดหนัก ไฟเขียวโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภาคตะวันออก 7.73 หมื่นล้านบาท รวมทั้งการพัฒนาระบบขนส่งทางรางที่มีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 2.36 แสนล้านบาท

ต่อมา ครม.สัญจร ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 5-6  มี.ค. 2561 ที่ จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ครม.เห็นชอบโครงการการบรรเทาอุทกภัยและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ จ.เพชรบุรี ตอนล่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 573 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 7,400 ล้านบาท จะมีการเสนอเป็นโครงการขนาดใหญ่ต่อไป

แต่ ครม.สัญจร นัดที่สร้างเสียงฮือฮา ที่สุด คือ ครม.สัญจร ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค. 2561 ที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ เป็นที่ทราบดีว่าเป็นถิ่นของ เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่กล้าเอาใจ "บิ๊กตู่" เต็มที่ด้วยการจัดเต็มขนคนมาต้อนรับเต็มสนามช้าง อารีนา กว่า 3 หมื่นคน พร้อมกับของบไป 2 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาอีสานใต้ให้เป็นสปอร์ตซิตี้ แต่ "บิ๊กตู่" เทงบให้เพียงโครงการเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งจำนวน 20 โครงการ วงเงิน 3,400 ล้านบาท

แต่การประชุม ครม.สัญจร นัดที่ 8 ย่อมพิเศษกว่าครั้งก่อนๆ เพราะใกล้ โค้งสุดท้ายของรัฐบาลจึงเร่งอัดฉีดงบและโครงการไทยนิยมยั่งยืนราวแสน ล้านบาท ที่กระจายอยู่ตามกระทรวง ต่างๆ ไล่ตั้งแต่ กระทรวงมหาดไทย 2 หมื่นกว่าโครงการเป้าหมายสร้าง งานสร้างรายได้ 82,371 หมู่บ้าน แจกหมู่บ้านละ 2 แสนบาท เป็นเงิน 1.6 หมื่น ล้านบาท

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้งบ 2.4 หมื่นล้านบาท 21 โครงการ โดยเน้นการพัฒนาอาชีพ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มประมง เป้าหมายเกษตรกร 2.1 ล้านคน รวมถึงโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ที่จะกระจายไปทั่วทุกหมู่บ้านละไม่เกิน 3 แสนล้านบาท และกระทรวงพลังงานเทงบ 3,000 ล้านบาท ในการสนับสนุนให้เกษตรกรได้ใช้อุปกรณ์และเครื่องมือในการลดการใช้พลังงาน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการสูบน้ำ สุดท้ายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอัดงบประมาณ 821 ล้านบาท สนับสนุนให้ชาวบ้านจัดโครงการท่องเที่ยวในหมู่บ้านละ 2 แสนบาททั่วประเทศ

ดังนั้น จากนี้ไปโค้งสุดท้ายก่อน "บิ๊กตู่" จะลงจากหลังเสือ การเดินหน้าจัดประชุม ครม.สัญจร รัฐบาลเร่งโหมโครงการไทยนิยมฯ หว่านงบประมาณแบบปูพรมเพื่อสร้างฐานเสียงปูทางสู่การเลือกตั้งนั่นเอง