posttoday

นวัตกรรมหุ่นยนต์สู่งานรพ. เพิ่มประสิทธิภาพ-ไม่เกิดภาระ

17 มกราคม 2561

ภาพหุ่นยนต์ในชุดสีเหลือง 3 ตัว เดินผ่านไปมาภายในโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สร้างความแปลกตาให้กับผู้ป่วยที่เดินทางมาใช้บริการ หลายคนต่างหยุดยืนมองด้วยความสนใจ

โดย...เอกชัย จั่นทอง

ภาพหุ่นยนต์ในชุดสีเหลือง 3 ตัว เดินผ่านไปมาภายในโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สร้างความแปลกตาให้กับผู้ป่วยที่เดินทางมาใช้บริการ หลายคนต่างหยุดยืนมองด้วยความสนใจ เกิดความสงสัยว่าเหตุใดเจ้าหุ่นยนต์ทั้ง 3 ตัวนี้ทำไมถึงมาเดินในโรงพยาบาลได้

ไขความจริงจาก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของหุ่นยนต์ 3 ตัวนี้ว่า โรงพยาบาลถือเป็นอุตสาหกรรมประเภทหนึ่ง ที่ทั่วโลกได้พัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่ยุค 4.0 เป็นระบบดิจิทัลหมดแล้ว เพราะอุตสาหกรรมจำเป็นต้องมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับหุ่นยนต์เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งของระบบอัตโนมัติหรือระบบหุ่นยนต์ที่นำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในกระบวนการ เช่น กระบวนการผลิตในโรงพยาบาล หรือการให้บริการ ฯลฯ

ดังนั้น ระบบอัตโนมัติสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในโรงพยาบาลได้ เช่น การจัดยาอัตโนมัติ การขนส่งลำเลียง ระบบท่อลมส่งของในคลังสินค้าอุตสาหกรรม เพราะทุกวันนี้คลังของโรงพยาบาลใหญ่โตกินพื้นที่ และยังเกิดความผิดพลาด ของหมดอายุ เสื่อมสภาพ เพราะฉะนั้นการจัดการบริการระบบอัตโนมัติ หรือ WarehouseManagement  จะเข้ามาช่วยได้  ซึ่งระบบอัตโนมัติและระบบหุ่นยนต์จะทำให้ต้นทุนการบริหารลดต่ำลงในจุดที่มีประสิทธิผลคุ้มที่สุด

“หุ่นยนต์ไม่สามารถไปแทนคนได้หมด แต่หุ่นยนต์จะทำตามโปรแกรมที่มนุษย์สั่งการ ทำกิจกรรมซ้ำซากไม่ได้ใช้สมอง แต่สมองของหุ่นยนต์มาจากโปรแกรมที่มนุษย์ลงให้ เพราะฉะนั้นหุ่นยนต์จะมาแบ่งเบาภาระ” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ย้ำมนุษย์ยังจำเป็น

นวัตกรรมหุ่นยนต์สู่งานรพ. เพิ่มประสิทธิภาพ-ไม่เกิดภาระ

ขณะนี้เริ่มนำหุ่นยนต์มาใช้ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยมีหุ่นยนต์ทั้งหมด 3 ตัว มีชื่อว่า R1 R2 และ 3 โดยอักษรภาษาอังกฤษตัว “R” ย่อมาจากคำว่า “Robot” ปัจจุบันหุ่นยนต์ทั้ง 3 ตัว มีหน้าที่เดินส่งของเอกสารต่างๆ และของเบาเท่านั้น แต่ในอนาคตจะนำหุ่นยนต์มาขนส่งของหนัก เช่น ในห้องผ่าตัดจะให้ส่งถาดเครื่องมือที่ใช้ผ่าตัดที่มีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม

ส่วนการทำงานของหุ่นยนต์ 3 ตัวนี้ สามารถวิ่งเร็วได้เหมือนคนปกติ แต่ทางโรงพยาบาลตั้งค่าให้เดินช้าเพื่อป้องกันอันตราย โดยหุ่นยนต์ทั้งหมดมีระบบเซ็นเซอร์หากเดินเข้าใกล้หรือพบสิ่งกีดขวางจะหยุดเดินทันที นอกจากนี้ยังสามารถพูดได้ เช่น ขอโทษค่ะ ประทานโทษค่ะ และยังสามารถตั้งค่าให้หุ่นยนต์พูดข้อความอื่นๆ ได้ด้วย

“ผลพลอยได้อีกอย่างคือเมื่อคนไข้รอคิวนานอาจจะเบื่อ ก็สามารถดูหุ่นยนต์อย่างเพลินๆ เป็นการฆ่าเวลา ช่วยให้ผู้ป่วยไม่เกิดความเครียด”

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ บอกอีกว่า หุ่นยนต์จะเป็นการนำร่องให้บุคลากรในโรงพยาบาลเข้าใจการพัฒนาระบบอัตโนมัติจากง่ายไปยาก เนื่องจากภายในปีนี้โรงพยาบาลมีแผนจะพัฒนาไปสู่ Hospital Automation หรืออุตสาหกรรม 4.0 ที่นำมาผสมผสานการทำงานในโรงพยาบาลเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงและควบคุมต้นทุนการผลิตได้ และที่สำคัญค่ารักษาพยาบาลก็สามารถควบคุมได้

พล.ต.นพ.เหรียญทอง กางแผนพัฒนาโรงพยาบาลว่า กลางปี 2561 โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจะมีการใช้ระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์เข้ามาช่วยงานในระบบคลัง ศูนย์เภสัชกรรมกลาง ลำเลียงอาหาร ลำเลียงขยะ ทำความสะอาด ระบบขนส่งในโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลจะทำทั้งหมดแบบทีละขั้นตอนในรูปแบบ Automated Guided Vehicle (AGV)

ขณะเดียวกัน มีเป้าหมายคือลดความผิดพลาด เพิ่มความรวดเร็ว ลดความสิ้นเปลืองบุคลากรที่ไม่จำเป็น และให้บุคลากรเหล่านั้นไปทำอย่างอื่นที่เกิดประโยชน์

“ยืนยันไม่มีนโยบายลดจำนวนบุคลากรอย่างแน่นอน โดยจะให้บุคลากรไปคุมหุ่นยนต์ทำงานแทน เช่น แม่บ้าน 1 คน คุมหุ่นยนต์ 10 ตัวเพื่อทำงานแทน เราจะเน้นเพิ่มทักษะให้บุคลากรมากขึ้น”

พล.ต.นพ.เหรียญทอง ทิ้งท้ายว่า โรงพยาบาลทั่วประเทศในอนาคตจะมีระบบอัตโนมัติเกี่ยวข้องในโรงพยาบาลมากขึ้น เพราะความจำเป็นที่โรงพยาบาลแต่ละแห่งต้องมีโดยไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางธุรกิจ แต่เกิดความจำเป็นเพราะในเรื่องประสิทธิภาพบริหารและกระบวนการผลิตมากกว่า      

นวัตกรรมหุ่นยนต์สู่งานรพ. เพิ่มประสิทธิภาพ-ไม่เกิดภาระ