posttoday

"โบดำ-โบแดง" รัฐบาล คสช.

26 ธันวาคม 2560

รัฐบาล คสช.ได้สร้างผลงานโบดำและโบแดงไว้มากมาย ทั้งที่สร้างความพึงพอใจและขัดใจประชาชน

โดย..ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

นับแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจ จัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศ

สถานการณ์บ้านเมืองกลับคืนสู่ความสงบเรียบร้อยจนถึงปัจจุบัน นักวิจารณ์การเมืองถึงกับเปรียบเปรย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาดับไฟความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมกับประกาศสัญญาจะนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปประเทศ กวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชั่น และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ พล.อ. ประยุทธ์ ประกาศลั่นว่าปฏิวัติรัฐประหารครั้งนี้ ไม่เสียของแน่นอน!

ผ่านมาถึงวันนี้ 3 ปีกว่า รัฐบาล คสช.ได้สร้างผลงานโบดำและโบแดงไว้มากมาย ทั้งที่สร้างความพึงพอใจและขัดใจประชาชน

สำหรับผลงานชิ้นโบแดงที่โดดเด่นที่สุดของรัฐบาล คือ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ทุกสำนักโพลให้คะแนนเกือบเต็ม ด้านความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ทั้งในรูปแบบการใช้มาตรา 44 เพื่อโยกย้ายข้าราชการ รวม 331 คน ที่ถูกร้องเรียน ปฏิบัติงานผิดพลาด หรือเกี่ยวพันกับคดีทุจริต โดยเป็นการโยกย้ายออกจากตำแหน่งเพื่อให้หน่วยงานตรวจสอบ หากไม่พบความผิดจึงจะพิจารณาแต่งตั้งกลับเข้าสู่ตำแหน่ง และการออกกฎหมาย เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและปราบปรามให้เกิดการพิจารณาคดีอย่างรวดเร็ว และไม่นับอายุความสำหรับจำเลยที่หลบหนีคดี พร้อมกับเพิ่มโทษโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบนหรือเงินใต้โต๊ะ โดยเฉพาะการจัดตั้งศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยให้เป็นอิสระปราศจากการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง

และได้แก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและปัญหา อาทิ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ที่ได้มีการยกระดับวิธีการป้องกันและป้องปรามการทุจริตในภาครัฐให้เข้มข้นมากขึ้น

ขณะที่อีก 3 ฉบับกำลังดำเนินการ อาทิร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม อยู่ในชั้นกรรมาธิการกำลังพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. มาตรการติดตามทรัพย์สินของรัฐคืนจากการเอาไปโดยมิชอบ อยู่ในชั้นการพิจารณาของกฤษฎีกา และร่างปรับปรุงกฎหมายการเปิดเผยข้อมูลสาร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักนายกรัฐมนตรี

อีกผลงานที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการยกย่องว่าเอาจริงกับการปราบทุจริตและเห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน คือ การพุ่งเป้าจัดการปราบคอร์รัปชั่นไปยังอดีตรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในโครงการทุจริตรับจำนำข้าวที่อดีตรัฐบาลได้ทิ้งปัญหาไว้

ต้องยอมรับว่าภายใต้เงื่อนไขการเป็นรัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้าน ภายใต้อำนาจที่เบ็ดเสร็จ และภายใต้การสนับสนุนของกองทัพ ย่อมมีกลไกการทำงานครบมือ จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความเด็ดขาดและกล้าตัดสินใจ ดังนั้นรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาบางอย่างที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งทำไม่ได้ แต่รัฐบาล คสช.ทำได้ จึงกลายเป็นที่มาของผลงานชิ้นโบแดง

อาทิการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือไอยูยู ที่รัฐบาลดำเนินการตามขั้นตอนของสหภาพยุโรป จนทำให้รัฐบาลได้รับการยอมรับในการทำงาน ด้วยการยกระดับการแก้ปัญหาเป็น “วาระแห่งชาติ” ยกเครื่องและเร่งออกกฎหมายโดยด่วนเป็นพระราชกำหนดการประมง

ปรับปรุงกฎหมายการทำประมงให้สอดคล้องกับหลักสากลระหว่างประเทศนับร้อยฉบับ พร้อมจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เพื่อแก้ไขปัญหาในทุกจุด จนได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกว่ามีความตั้งใจและมีความก้าวหน้าในการแก้ปัญหา จนในที่สุดไทยได้ปรับระดับในรายงานการค้ามนุษย์ (TIP Report) ส่ง “ผลดี” ต่อการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย

อีกผลงานยอดเยี่ยม คือ การแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ภายหลัง ICAO ได้พบข้อบกพร่องในการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนของประเทศไทย และประกาศติดธงแดง เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2558 ส่งผลกระทบต่อสายการบินของประเทศไทยที่ทำการบินไปยังประเทศต่างๆ หัวหน้า คสช.จึงมีคำสั่งจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบปพ.) ดำเนินการแก้ไขปัญหาสำคัญ ได้แก่ 1.การแก้ปัญหาด้านกฎหมายหลักด้านการบินพลเรือน 2.แก้ปัญหาด้านโครงสร้างด้านการบิน 3.การแก้ปัญหาด้านบุคลากร จนปัจจุบันปลดธงแดงให้กับประเทศไทยแล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์รู้ทุกปัญหา แต่การแก้ปัญหาบางเรื่องในทางปฏิบัติกลับกลายเป็นเรื่องยาก ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด แม้รัฐบาลจะมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ เพราะปัญหาบางเรื่องต้องยอมรับว่าแก้ยาก 

ปัญหาแรกที่รัฐบาลถูกโจมตีมากที่สุดจนกลายเป็นผลงานชิ้นโบดำ คือ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ที่ต้องให้คะแนนติดลบ โดยเฉพาะยางพารา แม้จะพยายามออกนโยบายมามากมายเพื่อดูดซับยางพาราที่ล้นตลาด เพื่อดันราคาให้สูงขึ้น แต่ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาระยะสั้น ไม่ได้สร้างความพึงพอใจต่อเกษตรกรในภาพรวม

อีกผลงานที่เกือบทุกสำนักโพลประเมินตรงกัน คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง ทุกรัฐบาลใช้กระทรวงพาณิชย์มาควบคุมราคา ซึ่งในความเป็นจริงนั้นควบคุมได้ยากและจำกัด หากย้อนดูทุกสำนักโพลให้คะแนนใกล้เคียงกันว่ารัฐบาลสอบตก ในการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ปัญหาปากท้องของประชาชน

อีกผลงานที่สอบตก คือการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หนึ่งในปัญหาใหญ่ของประเทศที่รัฐบาลต้องทำให้เกิดความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลพยายามใช้หลายยุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือแต่งตั้งคณะผู้แทนพิเศษของคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.ส่วนหน้า) แต่ในภาพรวมผลคะแนนที่ออกมายังไม่เป็นที่พอใจการทำงานของรัฐบาลเท่าที่ควร