จับตา "พล.ต.อ.ประวุฒิ" หายตัวลึกลับท่ามกลางข่าวลือ

โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์

คำสั่งล่าสุดจากปลายปากกาของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ลงนามให้เปลี่ยนตัวโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จาก พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษาสบ.10 เป็นพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษาสบ. 10 เข้ามาทำหน้าที่แทน

ทำให้เกิดคำถามตามมาภายในรั้วปทุมวันว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะ ภาพพจน์ของ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถือเป็นนายตำรวจน้ำดี อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ทำหน้าที่กระบอกเสียงสีกากี

กอปรกับ สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่มีใครเห็นตัวพล.ต.อ.ประวุฒิ เดินวนเวียนภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหมือนเช่นเคย ล่าสุดที่ปรากฎตัว คือการแถลงข่าวของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขณะกำลังชี้แจงเรื่องการจับกุมผู้ต้องหาคดีแอบอ้างเบื้องสูงที่มีการออกหมายจับ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ"หมอหยอง" และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ "สารวัตรเอี๊ยด" สว.กก.1บก.ปอท. เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา

และคำสั่งสุดท้ายของพล.ต.อ.ประวุฒิ ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวโฆษกฯ คือการสั่งห้ามขายสุราในช่วงวันออกพรรษา จากนั้น ก็เงียบหายไปพร้อมกับข่าวลือว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ที่เกิดขึ้นซึ่ง ผบ.ตร.จะตั้งโต๊ะแถลงในวันพรุ่งนี้ ท่ามกลางข่าวลืออีกระลอก คือพล.ต.อ.ประวุฒิ ได้ลาออกจากราชการแล้ว

ความกระจ่างของข่าวลือยังไม่ปรากฎความจริง แต่ภายในห้องทำงานของพล.ต.อ.ประวุฒิ พบว่ามีการลาราชการจริงเพื่อเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งมีรายงานเช่นกันว่าพล.ต.อ.ประวุฒิ จะกลับเข้ามาทำงานตามปกติในวันที่ 30 ต.ค.นี้

แต่ชั่วโมงนี้ยังไม่เห็นเงาของพล.ต.อ.ประวุฒิ  บวกกับกระแสที่จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมกับบุคคลที่ทำผิดแอบอ้างสถาบัน ว่าอาจจะมีข้าราชการผู้ใหญ่ระดับยศ “นายพล” เข้ามาเกี่ยวข้อง

ข่าวที่ทำภาพบางอย่าง ปรากฎขึ้นในความรู้สึกของคนที่ติดตามข่าวคดีใหญ่ล่าสุด ด้วยเป็นภาพของพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา สุริยันต์ สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ผู้ต้องหาคดีแอบอ้างเบื้องสูงล่าสุด และหลายภาพที่มักจะถ่ายคู่กันกับพล.ต.อ.ประวุฒิ โดยเฉพาะงานสำคัญใหญ่ๆ ของประเทศ

กระนั้นก็ตาม มองย้อนหลังประวัติของพล.ต.อ.ประวุฒิ พบว่าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 31 รุ่นเดียวกับอดีตผบ.ตร.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ออกจากรั้วโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เข้ารับราชการครั้งแรกในตำแหน่งรองสว.สส.สน.คลองตัน ชั้นยศร.ต.ต. และส่วนใหญ่จะเติบโตในงานด้านธุรกการ และการบริหารเป็นหลัก

การศึกษาของพล.ต.อ.ประวุฒิ ไปเรียนเพิ่มเติมหลักสูตรนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่น 34 ต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรมจากมหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนจะต่อปริญญาเอกได้เป็นตำรวจดีอกเตอร์ในสาขาวิชาอาชญาวิทยาการบริหารและงานสังคมจากมหาวิทยาลัยมหิดล

พล.ต.อ.ประวุฒิ โดดเด่นอย่างยิ่งกับงานชี้แจง ข้อมูลแน่นปึ๊กกับทุกเรื่องคดีที่เกิดขึ้น จึงได้รับมอบหมายเป็นกระบอกเสียงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับหน้าที่กันชนหลักระหว่างสังคมกับผบ.ตร. รวมแล้วถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกในยุคของพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ครั้งต่อมาในยุคของพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ก่อนจะเงียบหายไปในยุคของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ แต่กลับมาเป็นโฆษกฯ อีกครั้งในยุคของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และครั้งสุดท้ายในยุคของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่เพิ่งแต่งตั้งสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. แต่คล้อยหลังเพียงแค่ 13 วัน ก็มีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงท่ามกลางกระแสข่าวลือ

อายุราชการที่เหลืออีกเพียง 1 ปีก็จะเกษียณ ตลอดระยะเวลารับราชการ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถือเป็นคนที่เข้าหาง่าย เมื่อเป็นโฆษกฯ นักข่าวสามารถโทรศํพท์ติดต่อได้แทบจะทุกคน อีกทั้งยังชื่นชอบกีฬาฟุตบอลและมักจะหาเวลาไปลับแข้งเสมอ ความชอบในกีฬาฟุตบอลมากมายถึงขนาดที่เคยเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ปตท.ระยอง พาทีมโลดแล่นบนเวทีไทยพรีเมียลีกส์ ก่อนจะตกชั้นเมื่อปี 2557

นอกจากนั้น พล.ต.อ.ประวุฒิ ยังถือเป็นตำรวจไม่กี่คนที่ประชาชนมักจะเห็นชื่อ และพบเห็นบนหน้าจอโทรทัศน์อยู่เป็นประจำ รวมถึงโลกออนไลน์ที่มักจะใช้ช่องทางทวิตเตอร์อัพเดตข่าวสารและรายงานเหตุการณ์สำคัญๆ ด้วยตัวเอง ภายใต้ชื่อทวิตเตอร์ว่า "@Dr_Prawut”  ที่ีผู้ติดตามมากกว่า 4.4 หมื่นคน และทวิตเตอร์ข้อความล่าสุดก่อนจะเงียบหายไป คือวันที่ 21 ต.ค. ข้อความฝากเตือนประชาชนให้ระวังน้ำท่วมขังหลายพื้นที่

วันตำรวจที่ผ่านมา เมื่อ 12 ต.ค. 2558 พล.ต.อ.ประวุฒิ ได้รับรางวัลสุดยอดเกียรติยศตำรวจไทย สาขา"ตำรวจเพื่อประชาชน" ในฐานะโฆษกที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องรวดเร็วทันเหตุการณ์

นั่นคือประวัติของบิ๊กตำรวจผู้นี้ ก่อนจะหายตัวลึกลับไปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมกับข่าวลือ หลายคนจับตา ข่าวใหญ่วันพรุ่งนี้ ของ ผบ.ตร. คืออะไร จะเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ประวุฒิ หรือไม่ คงได้รู้....