posttoday

ดวงหนุน คสช.ฟื้นฟูชาติ โหรทหารฟันธงคนผิดจะถูกลงโทษ

12 เมษายน 2558

ชื่อของ วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดย...สุภชาติ เล็บนาค/ เจษฎา จี้สละ

ชื่อของ วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บินด่วนไปยัง จ.เชียงใหม่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเปิดงาน “ฮีดฮอย...ป๋าเวณี 100 ปี๋ เมืองเจียงใหม่” ที่ข่วงประตูพระเจ้าล้านนา แบบไปเช้าเย็นกลับ โดยมีโหรวารินทร์เป็นโต้โผใหญ่

โหรวารินทร์หายไปพักใหญ่ในสมัยที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งปี 2554 จนมามีชื่อตามหน้าสื่ออีกครั้งเมื่อลูกศิษย์บิ๊กทหารกลุ่ม 3 ป. อย่าง ป.ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ป.ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ ป.ประยุทธ์ ครองอำนาจ เปลี่ยนบทบาทจากที่เคยเป็น “ทหารอาชีพ” มาเป็น “รัฐบาล” เต็มตัว

“โพสต์ทูเดย์” เดินทางไปพบโหร คมช. ที่วิหารหลวงปู่ฤาษีเกวาลัน หมู่บ้านสุขิโต อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ คล้อยเพียงวันเดียวหลังจากที่บิ๊กตู่ขอให้โหรวารินทร์หยุดพูดเรื่องอายุของโรดแมป คสช. ที่เจ้าตัวทำนายว่าบิ๊กตู่จะอยู่ในอำนาจถึง 3 ปี

บรรยากาศรอบวิหารหลวงปู่ฤาษีเกวาลันยังคงคลาคล่ำไปด้วยชาวบ้านที่เดินทางมาปรึกษาเรื่องดวงชะตาตกฟาก ปรึกษาฤกษ์งามยามดีในการขึ้นบ้านใหม่-ทำธุรกิจ-ขึ้นศาลพระภูมิ ชนิดที่เรียกว่า
หัวกระไดไม่แห้ง

ที่จะแตกต่างจากตำหนักของ “หมอดู” ทั่วไปก็คือ พื้นที่รอบวิหารโหรวารินทร์นั้นเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ทหารที่มาดูแลความปลอดภัยให้รอบพื้นที่อย่างหนาแน่น

โหรวารินทร์ออกมานั่งหน้าองค์หลวงปู่ฤาษีเกวาลันขนาดใหญ่ เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษากับชาวบ้านทุกคนอย่างเป็นกันเอง แตกต่างจากภาพการเป็นโหรของนายทหารใหญ่ทุกยุคทุกสมัย

“ผมไม่ใช่คนมีอิทธิพลอะไร เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมยังเป็นครูประชาบาลบนดอย แต่ผมบังเอิญได้พบกับหลวงปู่ฤาษีเกวาลัน จากเทือกเขาหิมาลัย ท่านบอกว่าหน้าที่การเป็นครูเราหมดแล้ว หลังจากนี้หน้าที่ของเราคือสืบสานศาสนา รักษาแผ่นดิน หลังจากนั้นผมก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขององค์หลวงปู่มาตลอด” วารินทร์เล่าให้เราฟัง

ย้อน 10 ปี ทำนายบิ๊กตู่กอบกู้ชาติ

โหร คมช.บอกว่า หลังจากเปิดวิหาร ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเรื่องโหราศาสตร์ ทำนายดวงชะตา ชื่อเสียงก็โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีหลายคนที่ให้คำแนะนำไปแล้วทำให้ชีวิตดีขึ้น เมื่อชื่อเสียงดังออกไปก็ทำให้คนทุกระดับเข้ามาหาเขาจนสามารถจัดงานทำบุญใหญ่ได้มากถึงปีละ 3 ครั้ง และมีรายรับเข้ามายังตำหนักหลวงปู่ฤาษีเกวาลันมากมาย จนเขาสามารถนำไปทำโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ได้จำนวนมาก

“ปีที่ผ่านมา ผมเพิ่งถวายที่ดิน 2 แสนบาท ให้กับวัดวังสิงห์คำ ขณะที่อีก 5 แสนบาท ผมให้เป็นทุนการศึกษาของกองทัพบก ส่วนทุนอื่นๆ ผมก็จะช่วยเหลือทั้งในเรื่องศาสนา ผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก นอกจากนี้เราก็จัดไถ่ชีวิตโคกระบือ ช่วยพระสงฆ์อาพาธ ช่วยคนไข้อนาถา เป็นทุนการศึกษานักเรียนยากไร้ เป็นต้น เราช่วยเหลือแผ่นดินมาโดยตลอด”

ส่วนการเข้าหาของทหารนั้น วารินทร์บอกว่า เริ่มตั้งแต่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เมื่อ พล.อ.ประวิตร ซึ่งขณะนั้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 เข้าพบโหรวารินทร์ เพื่อให้ตรวจสอบดวงชะตาให้

“ผมเห็นท่านตั้งแต่เป็นแม่ทัพ ผมก็บอกว่า พล.อ.ประวิตร ท่านจะได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกนะ ท่านไม่เชื่อ เพราะขณะนั้นมีอีกคนหนึ่งเป็น ผบ.ทบ.อยู่แล้ว และเกษียณอายุราชการพร้อมกับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งท่านก็ฟันฝ่ายากลำบากมาก แต่ในที่สุดท่านก็ได้เป็น หลังจากนั้นเวลามีกิจกรรมอะไร ท่านก็ช่วยเหลือเราตลอด” วารินทร์ระบุ

หลังจากนั้นผู้ใหญ่ของกองทัพก็ตบเท้าเข้าหาโหรวารินทร์ เพื่อขอคำแนะนำจากเขาอย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และบิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ซึ่งวารินทร์บอกว่า หลวงปู่ฤาษีเกวาลันเห็นอนาคต ผบ.ทบ.ได้แม่นยำทุกคน

“ที่หลายคนจำได้ก็คือ ที่ผมพูดว่าจะมีนายก ป.ปลา ขึ้นมาดำรงตำแหน่งต่อหลังจากนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งก็มีอีก ป.ปลา หนึ่งขึ้นมารับตำแหน่ง แต่อันนั้นไม่ใช่ ป.ปลา ที่ผมหมายถึง” วารินทร์ระบุ

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์นั้น วารินทร์บอกว่า เขาได้พบครั้งแรกตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน โดยขณะนั้นบิ๊กตู่ยังเป็นทหารติดตามของนายทหารระดับสูงคนหนึ่ง ซึ่งตั้งแต่เจอครั้งแรก วารินทร์ก็บอกกับบิ๊กตู่ทันทีว่า หลังจากนี้จะมีบทบาทสำคัญในการกอบกู้วิกฤตบ้านเมือง

“วันนั้น ผมเคยเรียนท่านว่าท่านจะมีบทบาทสำคัญในบ้านเมือง แน่นอน ท่านไม่เชื่อ ท่านหัวเราะ ผมก็เข้าใจเพราะว่าท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์ ท่านจะมาเชื่อศาสตร์ตรงนี้ได้อย่างไร แต่พอผลปรากฏออกมา มันก็ตรงตามที่ผมบอก ท่านก็คงทึ่งเหมือนกัน นี่เป็นการณ์ข้างหน้าที่เรารับรู้รับทราบมาก่อน” วารินทร์เล่าให้ฟัง

พล.อ.ประยุทธ์ ที่วารินทร์รู้จักมา 10 กว่าปีนั้น เป็นนายทหารที่มีบุคลิกน่ารัก ติดดิน และเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้ดูแข็งกร้าว หรือดุดัน เหมือนกับที่สื่อมวลชนสัมผัส แต่ด้วยสภาพปัญหาที่กดดันมากๆ ก็อาจทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ค่อนข้างเครียดไปบ้าง 

“ท่านประยุทธ์มาเก็บกวาดสิ่งที่มีอยู่ในบ้านเมือง ก่อนหน้านี้เหมือนบ้านเมืองเราล่มสลาย ต้องเก็บกวาดฟื้นฟู ผมคิดว่าโรดแมปปีเดียว ถึงท่านจะตั้งใจยังไงก็ไม่ทัน แต่ท่านจะเอาให้ทัน หนึ่งปีเสร็จท่านจะไปแล้ว ผมคิดว่าหน้าที่เป็นแบบนี้ อาจจะไปขัดใจท่าน ท่านอาจจะไม่ค่อยสบายใจ แต่ผมคิดว่าเราต้องร่วมกัน เพราะประชาชนและบ้านเมืองฝากความหวังไว้กับท่าน แล้วท่านจะทิ้งชาติบ้านเมืองไปได้เหรอ” โหรวารินทร์ตั้งคำถาม

ขณะที่การใช้มาตรา 44 ของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น เขาบอกว่าไม่น่าจะมีการใช้อำนาจจนกลายเป็นเผด็จการอย่างที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ เพราะบิ๊กตู่ที่วารินทร์เห็น เป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจดี และไม่เคยมองอย่างอื่น นอกจากจะมองเห็นชาติบ้านเมืองอย่างเดียว

ส่วนดวงในอนาคตของบิ๊กตู่นั้น โหรวารินทร์บอกว่า ขณะนี้ดวงชะตาของนายกฯ ประยุทธ์ยังคงผูกอยู่กับดวงของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ บิ๊กตู่ก็ยังไม่สามารถทิ้งบ้านเมืองไปได้

 “โรดแมปของท่าน 1 ปี แต่ที่ผมเห็นนั้นไม่ใช่ ต้องมากกว่านั้น นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผม และเป็นความคิดเห็นของผมที่น่าจะแสดงได้ และผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนมากก็เห็นเหมือนกันว่าต้องใช้ระยะเวลามากกว่านั้น เพราะปัญหาบ้านเมืองเราเรื้อรังมานานหลายปี เพราะฉะนั้นเราต้องให้โอกาสท่าน ให้ท่านได้แก้ปัญหา มากกว่าจะไปจำกัดเวลา” วารินทร์พูดถึงอนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ ในตำแหน่งนายกฯ

ความขัดแย้งจะเบาบางลง

ถามถึงสิ่งที่โหรวารินทร์เห็นในอนาคต เขาบอกว่า หลังจากนี้ความขัดแย้งระหว่างมวลชนกลุ่มการเมืองจะเบาลง และจะเริ่มเข้าสู่โหมดสมานฉันท์อย่างแท้จริง ส่วนกลุ่มคนที่ยังอินกับการเมืองอยู่อาจ
จะมีบ้าง เพราะผลประโยชน์ยังคง https://dcx.bangkokpost.co.th/dcx_bkp/documents# เป็นตัวแปรสำคัญ แต่กลุ่มมวลชนจะไม่สร้างปัญหา เพราะคนในประเทศเห็นแล้วว่าการแบ่งสี-แบ่งข้าง สร้างวิกฤตให้บ้านเมืองมากเพียงใด

“ไม่ครับ ผ่านมาแล้ว การเมืองหลังจากนี้ เราจะเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยได้เต็มที่ ซึ่งมันอาจจะวุ่นวายบ้าง แต่มันจะเป็นลักษณะที่สร้างความรำคาญเท่านั้น ไม่ได้สร้างความวุ่นวายเหมือนเมื่อหลายปีที่ผ่านมา” วารินทร์ระบุ

โหรวารินทร์ยืนยันว่า รัฐธรรมนูญ 2558 ที่ คสช.กำลังเร่งเดินหน้าอยู่ขณะนี้ ยังเดินหน้าไปได้แม้จะมีกลุ่มคนที่เห็นต่าง แต่ในมุมมองเขาเชื่อว่ากลุ่มคนที่ค้านเป็นกลุ่มคนที่เสียประโยชน์มากกว่า

“ก็ต้องรอเวลาสังคายนาช่วงนี้ก่อน บางคนเห็นมาตราบางข้อ ก็ออกมาอ้างว่าไม่ดี แต่ข้ออ้างตรงนี้เพื่อตัวเองทั้งนั้น ผมเชื่อว่าหลังจากนี้เราจะสามารถผ่านวิกฤตได้

แต่ภาพที่ผมเห็นหลังจากนี้ เราจะไม่มีรัฐบาลจากกลุ่มการเมืองเดียวอีกแล้ว เราจะมีหลายๆ กลุ่มมารวมกัน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เหมือนเป็นทีมเข้ามาทำหน้าที่เพื่อวางรากฐานให้กับบ้านเมือง และเดินไปข้างหน้าด้วยกันในระยะยาว”

ส่วนจะมีการรัฐประหารอีกหรือไม่นั้น วารินทร์บอกว่า ในระยะใกล้ๆ นี้ยังไม่มี และดวงยังคงหนุนส่งคณะ คสช.ให้เดินหน้าทำหน้าที่ต่อ ส่วนหลังจากนี้ยังคงไม่ชัดเจน แต่ด้วยความเชื่อของโหรวารินทร์แล้ว ไม่ว่าจะอย่างไร ทหารก็ยังคงเป็นทหาร ที่ยังต้องคอยกู้วิกฤตให้บ้านเมืองเสมอ

ขณะที่ดวงชะตาของบิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดช ผบ.ทบ.คนปัจจุบันนั้น วารินทร์บอกว่า ที่เขาเห็นยังคงเป็นผู้ช่วยที่ดีของบิ๊กตู่ และของรัฐบาล ซึ่งเขาใช้คำว่าเป็นกลุ่ม “ฟื้นฟูบ้านเมือง” เพราะฉะนั้นจึงยังไม่อยากมองไปไกลกว่านี้

“ที่แน่ๆ ที่ผมเห็นคือ คนที่กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย แต่บ้านเมืองเราคนผิดที่เป็นผู้นำ ผมไม่เคยเห็นใครติดคุกนะ เห็นแต่เขาไปอยู่ที่อื่น ไม่ได้อยู่ในบ้านเมืองเราเท่านั้นเอง ครั้งนี้คนทำผิดโดนแน่นอนในทางกฎหมาย แต่จะได้รับโทษจริงไหม อันนี้เราต้องตามดูกัน” วารินทร์บอกกับเรา

ส่วนภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองนั้น โหรวารินทร์บอกว่า ในปีนี้อาจจะไม่ดีขึ้น เพราะทั่วโลกค่อนข้างย่ำแย่ และในประเทศก็แย่มานานจากวิกฤตการเมือง อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของ พล.อ. ประยุทธ์ เขาเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น แต่จะดีขึ้นแค่ไหน ก็ต้องอยู่ที่ความร่วมมือของคนในชาติ

“คำทำนายมาจากข้างบนล้วนๆ มนุษย์อยู่ข้างล่างเราก็ได้รู้กันแบบนี้ แน่นอน กลุ่มที่ได้รับผลกระทบคงไม่ชอบ แต่ข้างบนกำลังบอกว่าในผืนแผ่นดินนี้ เราต้องการความสงบสุข และทุกคนก็จับจ้องมองบ้านเมืองของเราว่าเป็นอะไร ฉะนั้นอยากให้ลองคิดกันดีๆ ว่าเราล้าหลังเพราะกลุ่มไหน เพราะผู้ใดทำให้บ้านเมืองถดถอย

...ฉะนั้น ขณะนี้เราจะอ้างประชาธิปไตยไม่ได้ เพราะประชาธิปไตยเราเห็นชัดแล้วว่ากฎหมายมันใช้ไม่ได้ทั้งหมด ใครคิดจะปิดอะไรที่ไหนก็ปิด นี่คือกฎหมู่ ฝ่าฝืนกฎหมาย เอาคนหมู่มากมาชักจูงคนให้หลงผิด ชักจูงคนของตนเข้ามา มีการจ้างมาเหมือนที่เรารู้ ไม่ใช่ความสุขสมควรในบ้านเรา ฉะนั้นเราต้องฟื้นฟูกันใหม่” วารินทร์ระบุ