posttoday

ไทยคมในความทรงจำของทักษิณ“ไม่ใช่ความโลภแต่เป็นสิ่งต้องทำ”

15 มิถุนายน 2553

พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเล่าถึงความพยายามในการก่อร่างสร้างดาวเทียมไทยคมไว้ในหนังสือ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ซึ่งเป็นหนังสือที่บันทึกอัตชีวประวัติของเขาอย่างเป็นทางการ

พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเล่าถึงความพยายามในการก่อร่างสร้างดาวเทียมไทยคมไว้ในหนังสือ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ซึ่งเป็นหนังสือที่บันทึกอัตชีวประวัติของเขาอย่างเป็นทางการ

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย

กลายเป็นประเด็นที่สำคัญของสาธารณชนหลังจากรัฐบาลชุดนี้มีความพยายามจะซื้อกิจการดาวเทียมไทยคมจากกองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆคืนโดยให้เหตุผลเรื่องความมั่นคงของประเทศ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้กำลังหาช่องทางดำเนินการอย่างเร่งรีบตามนโยบายของรัฐบาล

สำหรับความเป็นมาของดาวเทียมไทยคมนั้นถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่ทำให้ชายที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในทางธุรกิจ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเล่าถึงความพยายามในการก่อร่างสร้างดาวเทียมไทยคมไว้ในหนังสือ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ซึ่งเป็นหนังสือที่บันทึกอัตชีวประวัติของพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเป็นทางการเอาไว้ดังนี้

ไทยคมในความทรงจำของทักษิณ“ไม่ใช่ความโลภแต่เป็นสิ่งต้องทำ” หนังสือตาดูดาวเท้าติดดินหน้า 138

พ.ต.ท.ทักษิณ เล่าว่า อันที่จริงหลังบรรลุถึงบันไดขั้นสูงสุด คือ นำบริษัท(เครือชินวัตร)เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯก็นับได้ว่าทั้งธุรกิจในเครือและสถานะของครอบครัวผมถือว่ามั่นคงแล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนทำกิจการอะไรเพิ่มเติมต่อไปอีกก็ได้ แต่ผมไม่หยุดอยู่เพียงนั้น ตามประสาคนชอบสรรหาเรื่องมาคิดลับสมอง เมื่อผมมองย้อนกลับมาดูภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจ

ผมจึงพบว่ายังมีบางอย่างที่ต้องเพิ่มเติมเข้าไป ถ้าเปรียบธุรกิจโทรคมนาคมของผมเป็นภาพจิ๊กซอว์ ภาพนี้ยังขาดจิ๊กซอว์ตัวใหญ่และสำคัญไปตัวหนึ้ง ซึ่งเป็นตัวที่ผมบอกกับภรรยา ปั๊บเธอคัดค้านทันที

“อ้อ (คุณหญิงพจมาน ชินวัตร) ว่าเราเหนื่อยมามากแล้วพอแค่นี้เถอะตอนนี้ทุกอย่างก็มั่นคงหมดหนี้สิน ครอบครัวมีเงินพอใช้ไม่เดือดร้อน อย่าไปโลภอีกเลยค่ะ” คุณอ้ออุทธรณ์

“นี่ไม่ใช่เรื่องของความโลภหรือผลประโยชน์เลยน่ะน้องอ้อ แต่เป็นการทำสิ่งที่ควรทำ”

จิ๊กซอว์ส่วนสำคัญดังกล่าว คือ ดาวเทียม ซึ่งเวลานั้นเป็นเรื่องไกลเกินฝันของคนไทยมาว่าจะมีดาวเทียมเป็นของคนไทยเองได้อย่างไร แม้รัฐบาลคือกระทรวงคมนาคมพยายามจะหาเอกชนเข้ามาทำมานานหลายปีแล้ว ผมจึงเข้าใจว่าเหตุไรคุณอ้อจึงไม่เห็นด้วย ออกจะเห็นใจด้วยซ้ำว่าเธอคงอยากผันตัวเองไปเป็นแม่บ้านเต็มตัวสักทีและอย่าว่าแต่เธอซึ่งเป็ยแม่บ้านเลย ต่อให้นักธุรกิจทั่วไปก็คงไม่คิดจะลงทุนทำธุรกิจนี้

“น้องอ้อต้องเข้าใจว่าเหมือนเราขับเครื่องบินขึ้นไป ถ้าเครื่องโผจากพื้นดินแล้วยังขึ้นไปไม่ถึงความสูงระดับ 30,000 ฟุต กัปตันก็ไปกินกาแฟไม่ได้ เพราะเครื่องบินยังไม่ได้ระดับ ทำนองเดียวกับธุรกิจโทรคมนาคม เราต้องผลักดันให้มันไปถึงจุดหนึ่ง นั่นคือการมีดาวเทียม”

อีกไม่นานระบบสื่อสารจะเกิดการ marriaged (รวมตัวกัน) ทางเทคโนโลยีระหว่างข้อมูลเดต้าหรือคอมพิวเตอร์ วิดีโอ กับโทรคมนาคม เรามีธุรกิจในกลุ่มนี้ครบทุกอย่าง แต่ยังขาดเน็ตเวิร์กหรือสิ่งที่จะมาครอบคลุมเชื่อมโยงธุรกิจทั้งหมดนี้อีกทีหนึ่ง

ทีนี้เน็ตเวิร์กนี่สำหรับประเทศไทยแล้วทำได้ 2 ทางคือ ทางพื้นกับทางอากาศ ทางพื้นลงทุนสูงมากและใช้เวลานาน เหลือแต่ทางอากาศก็คือดาวเทียม โดยเทคโนโลยีแล้วนี่เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องที่สุด

คุณอ้อเธอคงอยากให้กัปตันของเธอปลีกตัวไปกินกาแฟได้เสียที ในที่สุดจึงยอมเห็นด้วยกับการโหมโรงทำธุรกิจมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ธุรกิจที่การลงทุนครั้งแรกถือว่าใหญ่ที่สุดในชีวิตของเราสองคน

อาจกล่าวได้ว่าปี2533 เป็นปีที่สำคัญที่สุดของชีวิตการทำธุรกิจของผมเพราะโครงการใหญ่ๆ อันเป็นรากฐานแท้จริงของชินวัตรล้วนกำเนิดในปีนี้ โครงการดาวเทียมก็เช่นกัน ชินวัตรเข้าร่วมประมูลสัมปทานดาวเทียมในยุครัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ แข่งกับอีก 5 บริษัทใหญ่ คือ ไทยแสท,โมดูลาร์,แอซตรา,คอมแสท และ วาเคไทย

แต่คราวนี้เรามีความพร้อมมากกว่าโครงการใดๆที่ผ่านมาเนื่องจากได้อาศัยใบบุญความสำเร็จของโครงการก่อนหน้า ไม่ต้องเตรียมงานแบบยาจกเหมือนโปรเจ็กต์อื่น ผมจึงเชื่อมั่นอย่างเราจะต้องประมูลได้แน่นอน โดยการเสนอผลประโยชน์ให้รัฐ 15.33% ตลอดอายุสัมปทาน 30 ปี และประกันผลกำไรขั้นต่ำไว้ 1,350 ล้านบาท

“ผมถือว่าโครงการดาวเทียมไทยคมเป็นความ ภาคภูมิใจ ร่วมของคนไทยที่จะได้มีดาวเทียมเป็นของชาติตนเองเสียที ไม่ต้องไปพึ่งพาต่างด้าวอีก”

ผลการเปิดซองประมูลโดยมีคุณศรีภูมิ ศุขเนตร ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานสรุปว่า ผู้เสนอประโยชน์สูงสุดให้แก่รัฐ คือ ชินวัตร จุดเริ่มต้นของโครงการไทยคมจึงออกจะดูสวยงามกว่าโครงการเก่าทุกโครงการ และตามรูปการแล้ว ผมควรจะได้เริ่มโครงการในปี 2533 นั้นเลย

แต่ชีวิตผมไม่เคยได้ทำอะไรง่ายๆ ตามความตั้งใจ ทุกครั้งมักจะมีอุปสรรคแวะเข้ามาทักทายเสมอ แม้กระทั่งโครงการดาวเทียมไทยคม ซึ่งลงมือ ณ วันที่ความพร้อมด้านธุรกิจแทบจะสมบูรณ์ที่สุด

เป็นอุปสรรคที่ลากโครงการให้ยืดยาวออกไปเกือบ 2 ปีกว่าจะลงมือได้จริงจัง และเป็นอุปสรรคที่ลากเอาชื่อเสียงของผมเข้าไปเกี่ยวกับความเปรอะเปรื้อนของวงการเมือง ตั้งแต่ผมยังไม่เข้าไปทำการเมืองเสียอีก…

อย่างไรก็ตาม สมัยผมยังไม่เข้าสู่แวดวงการเมือง เป็นเพียงนายทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจคนหนึ่ง สังคมยังยุติธรรมแยกแยะผมออกจากนักการเมืองบ้าง สื่อมวลชนให้เกียรติด้วยการให้เครดิตผม ด้านความสามารถในการบริหาร วิสัยทัศน์ทางธุรกิจ ตลอดจนการเป็นผู้หนึ่งที่ช่วยพัฒนาระบบสื่อสารให้ทันสมัยอันเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจ

ยิ่งเมื่อดาวเทียมไทยคมถูกยิงขึ้นฟ้าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2536 ณ เฟรนช์เกียนา อเมริกาใต้ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพิธีส่งดาวเทียมตามคำกราบบังคมทูลเชิญของบริษัทด้วยนั้น ไม่มีใครสงสัยว่าไทยคมนอกจากจะเป็นศูนย์กลางโทรคมนาคมของเอเชียตะวันออกแล้ว ยังเป็นความภูมิใจร่มกันของคนไทยทั้งชาติด้วย เป็นเครดิตที่ผมถือว่าเป็นผลสำเร็จสูงสุดในชีวิตนักธุรกิจของผม

แต่ผมเข้าสู่การเมืองเต็มตัวนี่สิ เครดิตกับความชื่นชมทั้งหลายที่เคยมีให้กลับถูกพลิกถูกตีความอย่างแทบจะหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว